เรื่องกัญชา หมดเวลาขวาง…โปรดอย่าสร้างเงื่อนไข

เรื่องกัญชา หมดเวลาขวาง…โปรดอย่าสร้างเงื่อนไข





ad1

วันนี้ผมอยู่ที่สภาทั้งวัน คำถามที่ผมต้องตอบมากเป็นพิเศษ ไม่ใช่เรื่องของงบประมาณว่าผมคิดเห็นอย่างไร พรรคภูมิใจไทยจะโหวตไปทางไหน แต่เป็นเรื่องของนโยบายกัญชาเสรีทางการแพทย์ของพรรคภูมิใจไทย มันจะเดินต่ออย่างไร ผมดีใจที่ได้ตอบคำถามเหล่านี้ กับเพื่อนผู้แทนราษฎร ซึ่งกำลังทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงประชาชน ผมตอบท่าน ก็เหมือนผมได้ตอบประชาชนไปด้วย และผมเต็มใจจะตอบครับ

ที่ผมต้องยืนยันอย่างแรกคือ กัญชา จะปลดล็อกสมบูรณ์ในวันที่ 9 มิถุนายนนี้ “แน่นอน”  ไม่มีการเลื่อนแม้จะมีแรงกดดัน เพราะความกังวลตามสไตล์ “คุณพ่อรู้ดี” ที่คอยเหนี่ยวรั้งความคืบหน้าของสังคมไทยอยู่ตลอด จะเดินหน้าเรื่องนั้น เรื่องนี้ ก็จะมีกลุ่ม “คุณพ่อรู้ดี” นี่เอง ที่เข้ามาฉุดมาดึงเอาไว้ เพราะมองตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล แต่ก้าวไม่ทันการเปลี่ยนแปลงของโลก เรื่องกัญชาก็เหมือนกัน ท่านๆ ไปมองเรื่องการใช้กัญชาในทางที่ผิด โดยไม่มองเรื่องการใช้กัญชาเพื่อรักษาผู้ป่วย การใช้กัญชาเพื่อแก้ปัญหาปากท้องเลย 

หลักการของเราคือ เราจะเลือกใช้กัญชาเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด แต่เราจะเข้าไปกำกับดูแล การใช้ ที่จะก่อให้เกิดโทษ และอันที่จริง เราไว้ใจคนไทยครับ ว่าทุกท่านมีปัญญามากพอในการดูแลชีวิตของท่าน เราไม่ดูถูกคนไทย จดไปตัดสิทธิ์ ลิดรอน ในสิ่งที่เขาควรได้ 

อีกอย่างคือแรงฉุดทางการเมือง ที่คอยเตะตัดสกัดขาพรรคอยู่เรื่อยไป โดยเฉพาะการมาในรูปแบบของความเห็นจาก “ผู้หวังดี” ทั้งหลาย ฟังแล้วก็เหมือนได้ลิ้มรสขนมหวาน เหมือนจะสนับสนุนเราเสียทุกเรื่อง แต่ก็แอบแฝงด้วยยาพิษ มีเหน็บแนมงานของเราอยู่ตลอด ทั้งยังไปบิดเบือนให้สังคมเข้าใจผิด แล้วกลับมาวิพากษ์ วิจารณ์เรา แต่ก็เป็นหน้าที่ของเราที่ต้องชีแจงสังคมให้ทราบ

สิ่งเหล่านี้ ผม ท่านหัวหน้าพรรค และสมาชิกพรรคภูมิใจไทยเรารู้ทันครับ เรารู้เจตนารมณ์ของทุกท่าน และเรารู้เป้าหมายของเรา เมื่อเรามั่นใจว่ากัญชา คือ พืชสมุนไพร กัญชา คือ พืชเศรษฐกิจใหม่ เราไม่มีทางที่จะให้ใครมาเหนี่ยวรั้งได้ วันที่ 9 มิถุนายน 2565 กัญชา จะต้องปลดล็อกอย่างสมบูรณ์ เป็นไปตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ. 2565 อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 29 วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายยาเสพติด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดออกประกาศไว้ 

ที่ระบุว่า กัญชา นั้น จะผิดกฎหมายก็เฉพาะเพียง 
(ก) สารสกัดที่มีปริมาณสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล เกินร้อยละ 0.2 โดยน้ำหนัก

(ข) สารสกัดจากเมล็ดของพืชกัญชาหรือกัญชง ที่ไม่ได้จากการปลูกภายในประเทศ

ขอให้ศึกษาจากกฎหมายครับ (https://www.prachachat.net/general/news-861880)

ในขณะที่ส่วนอื่นๆ ใบเอย ก้านเอย ดอกเอย รากเอย นั้น ไม่ใช่สิ่งผิดกฎหมายอีกต่อไป จะเหลือแต่เพียงสารสกัดตามที่กำหนดเบื้องต้นเท่านั้น ที่ยังเป็นยาเสพติด

นี่คือหลักยึดครับ ส่วนใครก็ตามที่ไปสื่อสาร ดึงให้ “ดอก” ของกัญชา ให้กลับมาเป็นยาเสพติด ด้วยการพูดเพียงวาจานั้น เป็นการทำให้เข้าใจผิดอย่างสิ้นเชิง ตอนนี้ ขอให้ดูตามกฎหมายครับ กรุณาอย่าคิดกันไปเอง 

หลักๆ คือ หลังวันที่ 9 มิถุนายน นี้ 

ประชาชนคนไทยสามารถปลูกกัญชาในครัวเรือนได้ ผ่านการจดแจ้ง  สามารถนำส่วนต่างๆ มาใช้ประโยชน์ได้ ยกเว้นการสกัดสารที่มี THC สูงกว่า 0.2% ของน้ำหนัก หรือ ท่านสามารถเอาใบไปใช้ประกอบอาหาร ไปจนถึงใช้เป็นสมุนไพรในครัวเรือนได้เลย เพียงแต่อย่ารบกวนบ้านใกล้เรือนเคียง และต้องใช้กัญชาอย่างเข้าใจ อย่าใช้จนก่อให้เกิดผลเสีย ซึ่งจะเป็นการเปิดช่องให้ มีการดึงกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดอีกครั้ง

นอกจากนั้น ประชาชน สามารถขออนุญาตปลูก และผลิตในเชิงอุตสาหกรรมได้ แต่จะต้องเสียค่าธรรมเนียม หรือการขอใบอนุญาต ซึ่งต้องรอดูความชัดเจนของกฎหมาย ที่กำลังพิจารณาอยู่ในสภา  

การผลักดันนโยบายกัญชา ให้มาถึงจุดนี้ได้ ถือเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยความวิริยะอุตสาหะของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เราพากัญชา ออกมาสู่ทางสว่างๆ เอาชนะแรงเหนี่ยวรั้ง จากฝ่ายที่มีอคติกับกัญชา จนกัญชา มาอยู่ในจุดที่เป็นทั้งพืชสมุนไพร และพืชเศรษฐกิจ เพื่อแก้ปัญหาปากท้องแล้ว สิ่งที่ต้องกราบวิงวอนคือ อย่าได้หาทาง ทำเรื่อง ก่อปัญหา จนกัญชา จะต้องมีอันต้องถูกพากลับไปเป้นยาเสพติดอีกเลย ตรงนี้ เราไทยช่วยกันได้ ส่วนใครที่ยังคิดจะฉุดรั้ง “กัญ” ไว้เพื่อประสงค์ใดก็ตามแต่ ขอบอกให้ท่านปล่อยมือ เพราะตอนนี้ กัญชา ได้เขามาเป็นของประชาชนแล้ว และทุกอย่างจะจบลงในวันที่ 9 มิถุนายน นี้ 

เสนาะ วรรักษ์/รายงาน