อดีตแกนนำพูโลเดินสายมอบอินทภาลัมแก่ผู้ต้องขังเรือนจำ5จังหวัดชายแดนภาคใต้

อดีตแกนนำพูโลเดินสายมอบอินทภาลัมแก่ผู้ต้องขังเรือนจำ5จังหวัดชายแดนภาคใต้





ad1

ปัตตานี-อดีตแกนนำพูโลเดินสายมอบอินทภาลัมแก่ผู้ต้องขังเรือนจำ5จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้ผู้ต้องขังสามารถใช้ละศิลอดในเรือนจำในห้วงของเดือนรอมาฎอน

วันนี้(25เมย.65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในห้วงเทศกาลถือศิลอดของมุสลิมทั่วโลกตลอดทั้งเดือนรอมาฎอนมุสลิมจะนิยมทานลูกอินภาลัมทั้งสดและแห้งในการเริ่มของการละศิลอดเป็นแบบฉบับของท่านศาสดา(ซล.)เพื่อทดแทนน้ำตาลที่ขาดไปหลังจากที่ได้อดอาหารและน้ำตลอดทั้งวันเนื่องลูกอินภาลัมมีรสหวานเป็นพิเศษและยังเป็นที่ยอมรับของสาธารณะสุขเว่าเป็นประโยชน์ด้านโภชนาการ จึงไม่แปลกหน่วยงานต่างๆในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงาน ศอ.บต. กอ.รมน.ภาค4ส่วนหน้า องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบลได้ร่วมกันเบิกจ่ายนำอินทภาลัมแจกจ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่เพื่อใช้ละศิลอดเป็นประจำทุกปี ปัจจุบันคนไทยที่เป็นมุสลิมและที่ไม่ใช่มุสลิมเริ่มนิยมบริโภคผลอินภาลัมมากยิ่งขึ้น เพราะตอบโจทย์ในเรื่องของสุขภาพ

นายสะมะแอ สะอะ หรือหะยีแอท่าน้ำ อดีตแกนนำพูโล ได้นำอินทภาลัมนับร้อยกว่าลังขนาดใหญ่เดินสายแจกไปยังเรือนจำในพื้นที่5จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับผู้ต้องขังในเรือนจำต่อไป เพื่อใช้ละศิลอดในห้วงเทศกาลถือศิลอดของเดือนรอมาฎอน ทั้งนี้เพื่อแสดงถึงมนุษยธรรมที่พึงมีต่อผู้ต้องขัง อย่งน้อยเพื่อสุขภาพของผู้ต้องขังได้อีกทางหนึ่งเนื่องจากน้ำตาลความหวานของผลอินภาลัมสามารถทดแทนน้ำตาลจากการอดอาหารน้ำตลอดทั้งวันของการถือศิลอดในเรือนจำและหาทานได้ยากมากในเรือนจำ ได้แก่เรือนจำกลางปัตตานี จำนวน 27 ลัง เรือนจำกลางยะลา 37 ลัง เรือนจำกลางนราธิวาส 30 ลัง เรือนจำกลางสงขลา 37ลัง เรือนจำเบตง16 ลัง และเรือนจำสตูล 23ลัง

นายสะมะแอ สะอะหรือหะยีแอท่าน้ำ ได้เปิดใจกับทีมข่าวว่าจากประสพการณ์ในอดีตที่เคยอยู่ในเรือนจำตลอด18ปี ที่ผ่านมานั้นรับรู้ดีว่าการใช้ชีวิตในเรือนจำมันลำบากขนาดไหน เมื่อได้กลับใช้ชีวิตข้างนอกอีกครั้งจากพระมหากรุณาธิการของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯรับการอภัยโทษ จึงยังจำความลำบาก ความเดือดร้อนของการใช้ชีวิตในกำแพงสูงนั้นได้ จึงได้มีความคิดที่จะยิบยื่นให้ความช่วยเหลือทางด้านสุขภาพและกำลังใจผู้ต้องขัง โดยเฉพาะในห้วงของเดือนรอมาฎอนที่มุสลิมทั่วโลกต้องถือศิลอดตลอดทั้งเดือน ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใดก็ตาม

แม้จะอยู่ในเรือนจำก็ต้องถือศิลอด เพราะเป็นบทบัญญัติของศาสนาอิสลาม นอกจากผู้ป่วยและผู้ที่กำลังเดินทางใกล้ถือเป็นข้อยกเว้น ดังนั้นการใช้ชีวิตในเรือนจำในห้วงถือศิลอดอย่าว่าแต่ขนมหวานแม้กระทั่งถั่วเขียวต้มก็ยังไม่มีให้ทาน จุดนี้เองที่ทำให้อยากนำอินทภาลัมแจกจ่ายให้กับผู้ต้องขังในเรือนจำให้สามารถมีอาหาร มีผลไม้หวานลงท้องบ้างทั้งที่เป็นมุสลิมและที่ไม่เป็นมุสลิมอยากให้ได้รับประทานกันอย่างทั่วถึง

อินทภาลัมชุดนี้เป็นอินทภาลัมที่ได้รับความร่วมมือจากพ่อค้าจีน พุทธ ที่ร่วมจะทำบุญ นอกจากนั้นยังมีภาคเอกชน ผู้ประกอบการณ์ธุรกิจมุสลิมในพื้นที่ และเงินส่วนตัวเข้าร่วมสมทบทุนในการระดมจัดหาซื้ออินทภาลัมที่มีเกรดสูงมีรสหวานอร่อย ก็ต้องขอขอบตุณ ผบ.เรือนจำทุกแห่งที่ได้อนุเคราะห์ อำนวยความสะดวกเปิดโอกาสให้เรานำอินทภาลัมในครั้งนี้ได้สู่มือผู้ต้องขังอย่างราบรื่น ด้วยดี