เอกชนเร่งดันนครหาดใหญ่"เป็น"ไชน่าทาวน์หาดใหญ่" แห่งที่ 2 ของไทย

เอกชนเร่งดันนครหาดใหญ่"เป็น"ไชน่าทาวน์หาดใหญ่" แห่งที่ 2 ของไทย





ad1

สงขลา - 28 สมาคมจีนและเทศบาลนครหาดใหญ่เร่งผลักดันยกระดับหาดใหญ่ “ไชน่าทาวน์หาดใหญ่” ถอดแบบเยาวราชแต่ต้องเหนือกว่า ไชนาทาวน์หาดใหญ่ จะเป็นแห่งที่ 2 ของประเทศไทย จะเป็นแห่งที่ 6 ของโลก และเป็นแลนมาร์คใหม่ ดีงคนทั่วใต้ ทั่วประเทศ ตลอดจนต่างประเทศเชื้อสายจีน มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย  กงสุลใหญ่จีนสงขลา ลุ้นเต็มที่  จุดเด่น ภาษา อาหาร วัฒนธรรม ตรงกัน แถมกลมกลืน 3 ศาสนา พุทธ อิสลาม คริสต์ ระบุ คนจีนทิ้งหาดใหญ่ แห่ขายร้านกิจการ ให้เช่า ดังไม่เคยปรากฏในรอบ 50 ปี ระบุต่างประเทศคอยช้อนซื้อราคาถูก

นายพิชัย วัฒนพยุงกุล นายกสมาคมไทย-จีนจังหวัดสงขลา และประธานสมาคมมูลนิธิหาดใหญ่  เปิดเผยว่า พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี นายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่ อดีตผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว  ร่วมกับ สมาคมไทยจีนจังหวัดสงขลา จำนวน 28 สมาคม  แต้จิ๋ว กวางสิว ฮกเกี้ยน ไหลลำ  ฮากกา ฯลฯ  และมูลนิธิจีนเพื่อ  จัดตั้งไชน่าทาวน์หาดใหญ่ โดยในที่ประชุม เสนอจัดตั้งขึ้นมามีพื้นที่ 3 จุดด้วยกัน เช่น ย่านบริเวณวัดฉื้อฉาง ถนนศุภสารรังสรรค์  ย่านบริเวณโรงแรมลีการ์เด้นท์ พลาซ่า ถนนเสน่หานุสรณ์ และจุดที่ 3 ย่านถนนธรรมนูญวิถี 4 ร้านข้าวต้มโกยาวและห้างสรรพสินค้าโอเดียนช๊อปปิ้งมอลล์ ดังนั้นในที่ประชุมที่ พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี นายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่ เป็นประธาน จึงตั้งคณะกรรมการฯ ขึ้นมาเพื่อพิจารณาหาข้อสรุปจุดที่ตั้งไชน่าทาวน์หาดใหญ่ 

“ไชน่าทาวน์หาดใหญ่ ควรสร้างเนื่องจากคนไทยเชื้อสายจีนมีมากที่สุด สมาคม มูลนิธิจีนมากที่สุดในระดับต่างจังหวัดของประเทศไทย  และไชน่าทาวน์หาดใหญ่ จะเป็นแห่งที่ 2 ของประเทศไทย จากย่านเยาวราช กรุงเทพฯ  และแห่งที่ 6 ของโลก” 

สำหรับไชน่าทาวน์หาดใหญ่ จะมีการออกแบบโดยสถาปนิกของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ( มอ.)  โดยทางเทศบาลนครหาดใหญ่ ให้งบประมาณสนับสนุนประมาณ 20 ล้านบาท ซึ่งนำไปรซ่อมแซมไฟฟ้า ถนน ฯลฯ  

นายพิชัย กล่าวอีกว่า สำหรับความเห็นว่ามีความเหมาะสมที่สุดที่จะจัดตั้งไชน่าทาวน์หาดใหญ่ คือย่านศูนย์กลางเศรษฐกิจการค้าการเงิน การท่องเที่ยว ฯลฯ ที่มีครบวจร โดยเริ่มจุดตั้งแต่สถานีชุมทางสถานีชุมทางรถไฟหาดใหญ่ ย่านห้างโรบินสันมาถึง  4 แยกร้านข้าวต้มโต้รุ่งนายยาว และห้างสรรพสินค้าโอเดียนชอปปิ้งมอลล์   มีถนนขนาดกว้าง  2 ข้างทาง ครอบคลุมถนนสายเศรษฐกิจหลัก ถนนธรรมนูญวิถี  ถนนนิพัทธุ์อุทิศ 1,2,3 ถนนเสน่าหานุสรณ์  ที่เหมือนกับไชน่าทาวน์ต่างประเทศ และยังเป็นศูนย์กลางของนักท่องเที่ยวจากประเทศมาเลเซีย  สิงคโปร์ ประเทศอินโดนีเซีย  และชาวจีนทั่วไทย ก็จะมาเที่ยวด้วย 

“ต่อไปไชน่าทาวน์ประเทศไทย จะมีที่ย่านเยาวราช กรุงเทพ กับหาดใหญ่  และจะเป็นแห่งที่ 6 ของโลก จะสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย  จึงให้ชาวไทยเชื้อสายจีนทั่วไทย ช่วยกันผลักดันด้วย” นายพิชัย กล่าว  

นายถวิล กิตติกุลเสรีคำ อุปนายกสมาคมฮกเกี้ยนหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เปิดเผยว่า ข้อเสนอเพื่อทำการยกพื้นที่ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่จุดไชน่าทาวน์หาดใหญ่  ตั้งแต่สวนหย่อมมูลนิธิมิตรภาพสามัคคีหาดใหญ่ (มูลนิธิท่งเซียเซี้ยงตึ้ง) ถนนศุภสารรังสรรค์เส้นนผ่าศูนย์กลางไปจรดถึง 4 แยกไฟแดง ธนาคารกสิกร และย่านตลาดกิมหยงหาดใหญ่ โดยจะมีการถอดแบบย่านเยาวราชกรุงเทพฯ และจะต้องออกแบบให้ดีกว่า

ไชน่าทาวน์ จะเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของหาดใหญ่  สมาคมชมรมมูลนิธิตระกูลแซ่ชาวจีนต่าง ๆ ซึ่งพยายามผลักดันและจะร่วมกันสมทบทุนลง แต่ทั้งนี้ทางการจะต้องสนับสนุนอย่างเต็มที่เช่นกัน  

และไชน่าทาวน์หาดใหญ่ จะสามารถดึงดูชาวต่างประเทศ เช่น ชาวมาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย เชื้อสายจีน ได้มาก  จะส่งผลให้การฟื้นฟูหาดใหญ่อย่างขนานใหญ่และกลับคืนมา 

 “โดยจะเชิญซินแสมาตั้งชื่อร้านเป็นภาษาจีนและจัดทำป้ายขึ้นเป็นภาษาจีนโดยให้เทศบาลกำหนดนโยบาย  และไม่เก็บภาษีป้ายในย่านนี้เป็นอย่างน้อย 5 ปีขึ้นไป เพื่อให้ผู้ประกอบการตั้งตัวได้ โดยทางเทศบาลนครหาดใหญ่ ได้รับไว้พิจารณาแล้ว 

“เมืองหาดใหญ่ เป็นเมืองที่มีอาหารอร่อยมีอายุเป็นร้อยปี จะต้องประเมินร้านอาหารที่กระจายอยู่ และทั้งในย่านที่จะจัดตั้งไชน่าทาวน์ เช่น ร้านติ่มซำ ข้าวมันไก่ ข้าวหมูแดง ข้าวขาหมู ก๋วยเตี๋ยว ข้าวเหนียวมะม่วง ขนมหวาน  ฯลฯ” 

หาดใหญ่เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ การค้า การเงิน การลงทุน การท่องเที่ยว การศึกษา ฯลฯ  อีกทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติมีครบ น้ำตก ทะเล ท่าเรือ สนามบิน กงสุลจีน มาเลเซีย อินโดนีเซีย

นายถวิล กล่าวอีกว่า  แต่สถานการณ์ผันแปร หาดใหญ่ได้เกิดตกต่ำมาตลอดตั้งแต่ก่อนสถานการณ์โควิด 19  มาจนถึงขณะนี้  และมีทีท่าจะไม่ฟื้นตัว จะเห็นได้ว่าบุตรหลานที่เป็นเชื้อสายจีนคนรุ่นใหม่หลายครัวเรือนตัดสินใจไปทำงานที่กรุงเทพฯ และโยกย้ายไปอยู่กรุงเทพฯ   และเกิดปรากฎการณ์ เช่น ตลาดกิมหยง ตลาดสันติสุข ฯลฯ ซึ่งเป็นแหล่งการค้าที่เป็นยอดนิยมอย่างสูง และเป็นพื้นที่คนจีน ประกอบการค้าขาย  แต่ในปัจจุบันเหลืออยู่ประมาณ 45 เปอร์เซ็นต์ 

และนอกนั้นพ่อค้าแม่ค้าร้านค้าคนจีน ร้านอาหารจีน ที่ปริมาณมากต่างทยอยปิดตัว และที่สำคัญคือย่าสนศูนย์ทาง 

เศรษฐกิจการค้า ฯลฯ มีการขึ้นป้ายให้เช่าพื้นที่ และบางพื้นที่ขึ้นป้ายประกาศขาย และนอกนั้นยังมีสถานประกอบการ เช่น โรงแรมยังมีบอกขาย และที่ขายออกไปแล้วก็มี 

“ปัจจัยเนื่องไม่มีผู้สืบทอดบางธุรกิจ สาเหตุคือมีลูกค้าต่างมาใช้บริการที่น้อย หากเป็นเช่นนี้คนจีนหาดใหญ่ ก็จะมีปริมาณน้อยลงตามลำดับ มันเป็นปรากฏที่ไม่เคยขึ้นมาก่อนในรอบ 50 ปี” 

นายถวิล  กล่าวอีกว่า  และจะเห็นได้ว่าจะมีคนจากต่างจังหวัดได้เข้ามาลงทุนปริมาณกันตามลำดับ โดยเฉพาะจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้  เช่น ค้าขาย ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านค้าและทางด้านอสังหาริมทรัพย์ 

“จัดตั้งไชน่าทาวน์หาดใหญ่ หากดำเนินการได้เร็วยิ่งดี เชื่อว่าจะแล้วเสร็จในปี 2565 เพราะสมาคมจีน  มูลนิธิจีน สมาคมตระกูลแซ่ ต่างพร้อมใจกันสนับสนุนผลักดัน แล้วจะได้ฟื้นฟูเศรษฐกิจหาดใหญ่ กลับคืนมา”.