พาณิชย์ป้อง"เบทาโกร"ตุนเนื้อหมูกว่า2แสนกก.อ้างไม่แจ้งไร้ช่องกรอก

พาณิชย์ป้อง"เบทาโกร"ตุนเนื้อหมูกว่า2แสนกก.อ้างไม่แจ้งไร้ช่องกรอก





Image
ad1

สงขลา-พาณิชย์จัดหวัดสงขลาออกมาป้อง"เบทาโกร" ไม่ได้กักตุนเนื้อหมูกว่า 2 แสนกิโลกรัม อ้างไม่แจ้งเพราะไม่มีช่องให้กรอก จึงไม่ได้เข้าข่ายกักตุนสินค้าแต่อย่างใด

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 21 ม.ค. 65 ที่ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดสงขลา นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนส.ฉัตรสุดา ชุมแสง พาณิชย์จังหวัดสงขลา พล.ต.ต.อาซานจันทร์ศิริ ผบก.ภ.จว.สงขลา นายสัตวแพทย์กิตติกรณ์  เจนไพบูลย์ ปศุสัตว์จังหวัดสงขลา และนายณัฐชัย  วรสุทธ์  ด่านกักกันสัตว์จังหวัดสงขลา ร่วมกันแถลงข่าวการเข้าตรวจสอบบริษัทห้องเย็นใน อ.จะนะ จ.สงขลา ซึ่งพบว่า มีการเก็บรักษาเนื้อสุกร จากบริษัท เบทาโกร เกษตรอุตสาหกรรม พัทลุง จำนวน 201,650 กก. ในห้องเย็นดังกล่าวนั้น 

นส.ฉัตรสุดา ชุมแสง พาณิชย์จังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า จากที่ตั้งข้อสังเกตไว้ 4 ประเด็นวานนี้ (20 มค.65)  พบว่าประเด็นแรก บริษัท ปิติซีฟู้ด จำกัด ในฐานะห้องเย็นที่รับฝากสินค้า ไม่ได้แจ้งปริมาณการครอบครองตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 2 ปี 2565 ซึ่งข้อนี้เป็นความผิดของห้องเย็น บริษัท ปิติซีฟู้ด  และทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสงขลา  ได้เป็นตัวแทนของจังหวัดสงขลา เข้าแจ้งความที่ สภ.จะนะ จ.สงขลา เพื่อดำเนินคดีกรณีที่ไม่แจ้งปริมาณในครอบครองแล้ว 

ส่วนประเด็นที่ 2 คือ กรณีที่ บริษัท เบทาโกร ซึ่งเป็นโรงงานแปรรูปสุกรใน จ.พัทลุง ที่แจ้งปริมาณไม่ตรงกับปริมาณสต๊อกที่เก็บอยู่ที่ห้องเย็นของบริษัท ปิติซีฟู้ด นั้น ข้อเท็จจริงพบว่า ทางบริษัท เบทาโกร ได้แจ้งปริมาณในครอบครองตามประกาศ และในแบบแจ้งปริมาณที่แจ้งมาคือ ประมาณ 50,000 กก.เศษ แต่จากการตรวจสอบที่ บริษัท ปิติซีฟู้ด พบว่า มีเนื้อสุกรอยู่ประมาณ 200,000 กว่า กก. ที่บริษัท เบทาโกร ไปฝากไว้ 

ดังนั้นจะมีส่วนต่างอยู่ประมาณ 150,000 กว่า กก. นั่นคือรายการที่ไม่มีอยู่ในแบบแจ้ง เช่น หมูบด ขาหมูเผา ซี่โครง สามชั้นแผ่น  ซึ่งไม่มีในแบบแจ้ง 

ดังนั้นก็ไม่ได้ถือว่า บริษัท เบทาโกร แจ้งความเท็จต่อพนักงาน และถือว่าบริษัท เบทาโกร ไม่ได้มีความผิดแต่อย่างใด 

ส่วนประการที่ 3 ทั้งบริษัท เบทาโกร และบริษัท ปิติซีฟู้ด ได้จัดทำบัญชีคุมถูกต้องตามประกาศคณะกรรมการกลาง ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการฉบับที่ 2 ปี  2565 โดยที่ทั้ง 2 บริษัท ได้เอาเอกสารหลักฐานมายื่นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ของสำนักงานพาณิชย์จังหวัด เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (วันที่ 21 มค.65)  และหลังจากตรวจสอบเรียบร้อยแล้วปรากฏว่า ทั้ง 2 บริษัท ได้ทำบัญชีคุมถูกต้องแล้ว 

นส.ฉัตรสุดา  กล่าวด้วยว่า สำหรับประเด็นสุดท้ายเรื่องของทั้ง 2 บริษัท จะเข้าข่ายการกักตุนสินค้าหรือไม่นั้น จากการตรวจสอบบัญชีของทั้ง 2 บริษัท มีการทำบัญชีรับเข้าและจ่ายออกตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2564 -มกราคมปี 2565 โดยมีการรับเข้าและจ่ายออก เป็นปกติวิสัยที่ทำอยู่  ซึ่งถือว่าไม่เข้าข่ายในการกักตุนสินค้าแต่อย่างใด 

รายงานข่าว เปิดเผยว่า สำหรับห้องเย็นในพื้นที่ จ.สงขลา  มีห้องเย็นให้เช่ารับฝากสินค้าแช่แข็ง แช่เย็น ประมาณ 16 แห่ง โดยทางจังหวัดสงขลา จะดำเนินการตรวจสอบให้แล้วเสร็จภายในเดือนมกราคม 65  โยบางแห่งขนาดใหญ่ รองรับสินค้ารับฝากได้ขนาด 15,000 ตัน.