“มารุต บุนนาค” ที่ปรึกษา ปชป.- อดีต ปธ.สภา ถึงแก่อสัญกรรมแล้ว สิริอายุ 98 ปี

สิ้นมารุต บุญนาค

“มารุต บุนนาค” ที่ปรึกษา ปชป.- อดีต ปธ.สภา ถึงแก่อสัญกรรมแล้ว สิริอายุ 98 ปี





ad1

23 ก.ย. 2565 นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธาน ส.ส.และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เผยว่า ศาสตราจารย์พิเศษมารุต บุนนาค อดีตรองหัวหน้าพรรค และอดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ถึงแก่อนิจกรรมแล้วเมื่อช่วงก่อนเที่ยงวันนี้

ประวัติ ศาสตราพิเศษมารุต บุนนาค เกิดเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2467 เป็นบุตรของ พระสุทธิสารวินิจฉัย (มะลิ บุนนาค) กับผ่องศรี บุนนาค (สกุลเดิม เวภาระ) ธิดาขุนหลวงพระยาไกรสี (เปล่ง เวภาระ) กับคุณหญิงทองคำ เรียนมัธยมที่ โรงเรียนเทพศิรินทร์ (DSA57) และจบการศึกษากฎหมายจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อปี พ.ศ. 2490 ในสมัยที่มหาวิทยาลัยยังใช้ชื่อว่า “มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง” และได้รับปริญญานิติศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, นิติศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง, ศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิต กิตติมศักดิ์ สาขารัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม, ปริญญาบัตรกิตติมศักดิ์ ว.ป.อ.วุฒิบัตรกิตติมศักดิ์ วิทยาลัยการทัพบก

ชีวิตส่วนตัว มารุต บุนนาค สมรสกับ คุณหญิงพันทิพา บุนนาค (สกุลเดิม พันธุ์มณี) มีบุตร 2 คน คือธิดา มฤทุ บุนนาค เจ้าหน้าที่ระดับสูงในองค์การสหประชาชาติ สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัย ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และมีบุตรชายคือ รุจิระ บุนนาค สำเร็จนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เนติบัณฑิตไทยสำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา สำเร็จปริญญาโทกฎหมายระหว่างประเทศ 2 ปริญญา ที่มหาวิทยาลัยทูเรนและมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา ปัจจุบันดูแลสำนักงานต่างประเทศ

ด้านตำแหน่งทางวิชาการ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปี พ.ศ. 2517-พ.ศ. 2519 และปี พ.ศ. 2521 และปัจจุบัน เป็นประธานร้านธรรมศาสตร์กาชาดและเป็นอุปนายกสมาคมตั้งแต่ปี พ.ศ. 2513 จนถึงปัจจุบัน เป็นกรรมการของสมาคมมิตรภาพไทย-จีน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2522-พ.ศ. 2526

ด้านการทำงาน ศาสตราจารย์พิเศษมารุต บุนนาค เป็นทนายความที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก่อน ก่อนที่จะเข้าสู่แวดวงการเมืองด้วยการได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในปี พ.ศ. 2516 และเป็นสมาชิกวุฒิสภาในปี พ.ศ. 2518 หลังเหตุการณ์ 14 ตุลา ต่อมาจึงได้เข้าสู่พรรคประชาธิปัตย์ และลงเลือกตั้งในกรุงเทพมหานคร เขต 2 คือ เขตพญาไท และเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ในการเลือกตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2522 แต่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง ต่อมาในปี พ.ศ. 2526 ได้ลงเลือกตั้งอีกครั้ง คราวนี้ประสบความสำเร็จได้รับเลือกตั้ง และได้เป็น ส.ส. ในเขตกรุงเทพมหานคร นับแต่นั้นเป็นต้นมา

ต่อมาได้รับเลือกให้เป็นเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์สมัย พันเอกพิเศษถนัด คอมันตร์ เป็นหัวหน้าพรรค แม้จะไม่ได้รับเลือกตั้งก็ตาม และดำรงตำแหน่งมากมาย ประกอบด้วย

  • รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พ.ศ. 2524 – พ.ศ. 2526
  • รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2526 – พ.ศ. 2529 และ พ.ศ. 2532 – พ.ศ. 2533
  • รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2529 – พ.ศ. 2531
  • ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2535 – พ.ศ. 2538 
  • ประธานสภาชั่วคราว ในการคัดเลือกประธานสภา หลังการเลือกตั้งในปี พ.ศ. 2548 จากฐานะเป็น ส.ส.ที่อาวุโสที่สุดของสภา

ศาสตราจารย์พิเศษมารุต ประกาศวางมือจากการเมืองเมื่อกลางปี พ.ศ. 2549 โดยรับตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาของพรรคประชาธิปัตย์ และมีสำนักงานทนายความของตนเอง ชื่อ สำนักงานทนายความมารุต – รุจิระ