ป๋าชูแฉต่อ "ปริศนาทรัพย์สินมหาศาลของ “ตู้ห่าว” - ล่าสุดนำหลักฐานร้อง กระทรวงยุติธรรม ส่งต่อ DSI รับเป็นคดีพิเศษ

ป๋าชูแฉต่อ "ปริศนาทรัพย์สินมหาศาลของ “ตู้ห่าว” - ล่าสุดนำหลักฐานร้อง กระทรวงยุติธรรม ส่งต่อ DSI รับเป็นคดีพิเศษ





ad1

21 พ.ย. 2565  นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองดัง ได้โพสข้อความแฉทุนจีนเทา โดยเฉพาะนาย "ตู้ห่าว" ซึ่งนายชูวิทย์ ได้ย้ำว่าเป็นหัวหน้ามาเฟียจีนผู้ทรงอิทธิพลในไทย ล่าสุดวันนี้นายชูวิทย์ได้แฉถึงทรัพย์สินมหาศาลของนายตู้ห่าว มาเฟียชาวจีนที่มามีอิทธิพลอยู่ในประเทศไทยดังนี้ว่า

ปริศนาทรัพย์สินมหาศาลของ “ตู้ห่าว”
.
จุดเริ่มต้นที่ผับ “จินหลิง” ตำรวจขยายผลเครือข่ายนอมินีจีนเทา เงินสด ยาเสพติด รถซุปเปอร์คาร์ บ้านคอนโดหรู อู้ฟู่ชนิด “ไทยเทา” เทียบไม่ติด   หัวหน้าขบวนการ “ตู้ห่าว” มีอิทธิฤทธิ์สนิทกับใคร คนในวงการรู้กันทั่ว   แต่หากชาวบ้านไม่รู้ ชูวิทย์จะเอาข้อมูลมาบอก   จะจับจีนเทา 2 สัญชาติ อย่างตู้ห่าว กระเทือนไปถึงบิ๊กไทย
.
ยังไม่สามารถเอาออกจากที่กบดานได้ในช่วงนี้ รอให้คลื่นลมสงบเสียก่อน  ไหนจะทรัพย์สินโรงแรมขนาด 400 ห้อง ใกล้สนามบินกรุงเทพฯ ไหนจะที่ดินอีกเป็นร้อยไร่   ไหนจะรถทัวร์อีก 500 คัน หลังคู่แข่งโอเอล้ม   แล้วยัง รถหรู อย่างโรลสรอยซ์ เบนเล่ย์ แลมโบกินี่ ปอร์เช่ ตู้ห่าวซื้อพร้อมกันอย่างละ 2 คัน สีขาว กับ สีดำ
.
ยังไม่รวมเครื่องบินไพรเวทเจ็ท ที่ซื้อมาแล้วมีอภิสิทธิ์ จอดที่ “ซันนี่ 604”  แล้วยังมีเจ้าของพื้นที่ออกอาการ “ร้อนตัว” ช่วยบอกปัดว่า จอดจริง แต่มีสมาชิกเก่าซันนี่ 604 ชื่อ “โอ๋” ขอใบอนุญาตจอดถูกต้อง เพราะกำลังจะซื้อต่อ เลยขออนุญาตจอดล่วงหน้าไว้ก่อน
.
ทั้งๆ ที่มีชื่อหราในใบจดทะเบียนว่า เจ้าของเครื่องบินยังเป็นชื่อบริษัทของตู้ห่าว ที่ก่อนหน้านั้นบินร่อนไปมาเอาไว้ “หาเสียง”  อย่างนี้ไม่ใหญ่จริงทำไม่ได้ ถามสมาชิก “ฝูงบินเศรษฐี” ดูได้   เพราะไม่มีใครรู้จักตู้ห่าว รู้จักแต่ท่านรัฐมนตรีกันทั้งนั้น
หน้าฉากตู้ห่าวทำธุรกิจสีขาว แต่หลังฉากค้ายาดำสนิท จึงขึ้นลิฟต์ร่ำรวยแบบพรวดพราด
นี่ไม่ใช่แค่ความสามารถ แต่หมายถึง “คอนเน็คชั่น” เหมือนในหนังค้ายาเรื่อง “นาโคส” ของเน็ตฟลิกซ์  ไทยแลนด์จึงเป็น “แดนสววรค์ของการฟอกเงินจีนเทาดำ”  ระยะเวลาเพียงสิบกว่าปีที่ฟอก ตู้ห่าวถึงมีทรัพย์สินมากมายมหาศาล ชนิดมีเงินเดือนระดับ 7 หลัก จัดให้บรรดาบิ๊กเนมทั้งหลาย    ส่วนหลานที่บินหนีไปได้ก่อนเพราะตำรวจช่วย ทำหน้าที่ต้อนรับ “จีนวีไอพี” ทั้งจีนแคนาดา จีนออสเตรเลีย ที่แวะเวียนใช้บริการ “ฟรีโซน” เสพยาจีนที่มีครบสูตรเหมือนอยู่บ้าน  หรือโรงแรมห้าดาวให้พักนอนเล่นยา จ่ายปิดปากตำรวจ สลับตัวผู้ต้องหาได้ ปล่อยรถหรูซิ่งกลับบ้านได้หน้าตาเฉย ทั้งที่จับมาไม่ถึง 24 ชั่วโมง
.
แผนต่อไปของ “ตู้ห่าว” หากไม่โดนจับเสียก่อน ถึงขนาดจะขนคนจีนมาเป็นทีมไอที 50 คน ปิดห้องประชุมโรงแรมทำพนันออนไลน์กันเลยทีเดียว เรียกว่า สมราคาจีนเทาแท้   ลองตรวจทรัพย์สินของตู้ห่าวดู ว่าได้แต่ใดมา?   หรือเป็นเงินการเมืองที่คอรัปชั่นนำมาฝากเอาไว้ วานบอก เรียกว่า “กองทุนบริหารความมั่งคั่งทางการเมือง” เพื่อหาดอกผล ปั่นกำไรไว้ใช้ช่วงหาเสียง   แล้วยังรู้จักบริจาคเศษเงินให้พรรคการเมือง เพราะ “ศรัทธา” นโยบายพรรคเสียด้วย  มันทำเหมือนประเทศไทยเป็นประเทศโคลัมเบียสมัย 30 ปีก่อน ที่นักค้ายา “เอสโคบาร์” สนับสนุนเงินให้พรรครัฐบาลยังไงยังงั้น   ไม่สงสัยเลยว่า ทำไมหมายจับไม่ออกสักที   มันไปติด “ตอ” ตรงไหน?
.
ภาคถัดไปจะไขปริศนาไปจนกว่า “หมายจับ” จะเดินทางมาถึง
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.30 น. ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง นำหลักฐานมายื่นให้ ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตอารีย์รัตน์ เลขานุการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อม พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองบริหารคดีพิเศษ ดีเอสไอ เพื่อขอให้ตรวจสอบกลุ่มนายทุนจีนสีเทา ที่เข้ามาทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศไทย พิจารณารับเป็นคดีพิเศษ
นายชูวิทย์ กล่าวว่า วันนี้ตนเองมาในฐานะพลเมืองที่อยากช่วยเหลือสังคม เพราะเห็นความผิดความชั่วร้ายของธุรกิจทุนจีนสีเทา โดยเฉพาะที่เป็นนายทุนจีนตัวการใหญ่ ทั้งที่ผ่านมา ตนเองนำเสนอข้อมูลต่างๆ ไปแล้วแต่จนตอนนี้ยังไม่มีการออกหมายจับ ออกหมายเรียก หรือ การไปตรวจสอบนายตู้ ห่าวเลยแต่อย่างใด ซึ่งตนเองนำข้อมูลที่เป็นเอกสาร ทั้งเส้นทางการเงิน ข้อมูลกลุ่มนอมินี และข้อมูลทรัพย์สินที่มีมูลค่ากว่าพันล้านบาทมายื่นให้ตรวจสอบ และตั้งข้อสังเกตว่านายตู้ ห่าว นั้นเป็นแหล่งฟอกเงินของใครหรือไม่
อีกทั้ง นายชูวิทย์แจ้งว่า ตนเองไม่ต้องการที่จะให้คุ้มครองพยาน เพราะตนเองไม่กลัว และเคยผ่านความเป็นความตายมาก่อนหน้านี้