มองโกเลียพยายามสร้างสมดุลระหว่างตะวันออก-ตะวันตก ท่ามกลางการรุกรานยูเครนของรัสเซีย (ชมคลิป)

อูลานบาตอร์ มองโกเลีย - ผู้คนหลายหมื่นคนทั่วโลกได้แสดงการสนับสนุนยูเครนและเรียกร้องให้ยุติการรุกรานของรัสเซีย ซึ่งเริ่มในวันที่ 24 กุมภาพันธ์

แต่การรุกรานยูเครนของรัสเซียทำให้มองโกเลียที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลอยู่ในจุดที่แน่นแฟ้นทั้งทางเศรษฐกิจและทางการทูต โดยมีผู้ประท้วงกลุ่มเล็กๆ รวมตัวกันที่จัตุรัสซุคบาตาร์ของอูลานบาตอร์เพื่อเรียกร้องให้ยุติการสู้รบในยูเครน เพียงเพื่อเผชิญหน้าโดยกลุ่มชาตินิยมสุดโต่งที่กังวลเกี่ยวกับการเป็นปรปักษ์กับรัสเซีย

พรรคประชาธิปัตย์ของมองโกเลียซึ่งมีที่นั่งในรัฐสภามองโกเลียประณามการรุกรานของรัสเซียและเรียกร้องให้มอสโกหยุดการกระทำที่ก้าวร้าวทันที

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการทรงตัวที่ละเอียดอ่อนระหว่างตะวันออกและตะวันตกของมองโกเลียอาจทำให้ไม่พอใจ

หัวหน้าพรรคประชาชนมองโกเลีย E.Odbayar กล่าวว่าผู้คนแสดงความคิดเห็นของตนเองโดยกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่แทรกแซงกระบวนการดังกล่าวอย่างเปิดเผย Odbayar กล่าวว่าตำรวจและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายยังคงดำเนินคดีกับประชาชนที่แสดงความคิดเห็น

ในขณะเดียวกัน Ts.Buyantsogtoo ผู้อำนวยการและนักวิจัยของ Institute for Strategic Studies กล่าวว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือนโยบายต่างประเทศของรัฐบาลมองโกเลียจะต้องเป็นกลาง เว้นแต่ความมั่นคงและผลประโยชน์จะถูกคุกคาม

เขาตำหนิสมาชิกของพรรคประชาธิปัตย์ในการออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการเกี่ยวกับสงครามรัสเซีย โดยเรียกร้องให้พวกเขาเห็นด้วยกับรัฐบาล ซึ่งเขากล่าวว่าพยายามสร้างสมดุลในทุกเรื่อง

“ถูกต้องแล้วที่ประเทศของเราดำเนินนโยบาย “ระงับ” ผ่านการลงประชามติของสหประชาชาติ มันยากมากที่จะตรงไปด้านใดด้านหนึ่ง เราต้องดูนโยบายของรัสเซีย เราต้องเห็นด้วยกับรัฐบาลอย่างที่เคยเป็นมา” นักวิจัยกล่าวเสริม

นอกจากนี้ S.Bayasgalan รองศาสตราจารย์ด้านวิเทศสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยแห่งชาติมองโกเลีย เห็นด้วยกับ Buyantsogtoo และเรียกร้องให้มีนโยบายต่างประเทศที่เรียกว่า "สมดุล"

“มีหลักฐานว่าเราจะไม่เข้าไปแทรกแซงในข้อพิพาทใดๆ ระหว่างทั้งสองประเทศ เว้นแต่จะกระทบต่อความมั่นคงและผลประโยชน์ของมองโกเลีย นี่คือความสมดุลโดยพฤตินัยภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ” Bayasgalan กล่าว

นอกจากนี้ เขายังกล่าวอีกว่ารัฐบาลมองโกเลียในปัจจุบันกำลังพยายามสร้างสมดุล เนื่องจากไม่ได้ออกแถลงการณ์ใดๆ ตั้งแต่กองทหารรัสเซียเข้ามาในยูเครน

ที่มา A24 News Agency