ปอศ.จับหนุ่มแบงค์หลอกลงทุนส่งออกกุ้ง อ้างรู้จักนายทุนใหญ่ มูลค่าความเสียหายกว่า 36 ล้านบาท

จับหนุ่มแบงค์หลอกลงทุนส่งออกกุ้ง

ปอศ.จับหนุ่มแบงค์หลอกลงทุนส่งออกกุ้ง อ้างรู้จักนายทุนใหญ่ มูลค่าความเสียหายกว่า 36 ล้านบาท





ad1

15 ธ.ค. 2565  กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ.,พ.ต.อ.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ รอง ผบก.ปอศ.,พ.ต.อ.วีระพงษ์ คล้ายทอง ผกก.4 บก.ปอศ.
 
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.ชณิตพงศ์ ศิริเวช สว.กก.4 บก.ปอศ., พ.ต.ต.หญิงสุจิตรา ทองสกุล สว.กก.4 บก.ปอศ., ร.ต.ต.พรเทพ ธีระชาติ รอง สว.(ป) กก.4ฯ, ด.ต.คงกฤช ชัยนาค ผบ.หมู่ กก.4ฯ, ด.ต.พีระพงษ์ เพ็ชรฉกรรจ์ ผบ.หมู่ กก.4ฯ ด.ต.บพิตร ทองอนันต์ ผบ.หมู่ กก.4ฯ, จ.ส.ต.อานัฐ อาสนา ผบ.หมู่ กก.4 ฯ


ร่วมกันจับกุม นายอดิศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี พนักงานธนาคาร สัญญลักษณ์ดอกบัว ผู้ต้องหาตามหมายจับ “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จจ โอยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2806/2565 ลงวันที่ 13 ธันวาคม 2565
สถานที่จับกุม บริเวณลานจอดรถธนาคารแห่งหนึ่ง สาขาถนนเศรษฐกิจ1 ตำบลนาดี อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร
 
ในช่วงตั้งแต่ประมาณต้นเดือนสิงหาคม 2561 ถึงปัจจุบัน กลุ่มผู้ต้องหาในคดีนี้ได้แบ่งหน้าที่กันทำ โดยการนัดเจอกับเพื่อนเก่า หรือส่งข้อความไปพูดคุยเพื่อหลอกลวงให้มาลงทุน โดยมีการกล่าวอ้างว่ากลุ่มผู้ต้องหารู้จักกับนายทุนที่ประกอบธุรกิจประมูลกุ้ง นักธุรกิจส่งออกที่วงเงิน O/D เต็มและต้องการระดมทุน  แต่ยังขาดประมาณ 5 แสน ถึง 6 ล้านบาท โดยมักจะขอร้องอ้อนวอนให้ลงทุนระยะสั้นเพิ่ม และจะหาเงินจากนายทุนท่านอื่นมาคืนแก่ผู้ถูกหลอก โดยจะให้ผลตอบแทนร้อยละ 7 หรือ 10 ต่อเดือน ตามที่ตกลงเป็นครั้งๆไป และเมื่อผู้สนใจหลงเชื่อตกลงใจที่จะลงทุน ผู้ต้องหาจะให้โอนเงินลงทุนเข้ามาทางบัญชีส่วนตัวที่กลุ่มผู้ต้องหาใช้ในการรับโอนเงิน จากนั้นจะหลอกให้หลงเชื่อสร้างความมั่นใจโดยการโอนเงินปันผลตามที่ตกลงคืนให้ผู้หลงเชื่อแต่ละคนเป็นรายเดือน จนภายหลังผู้หลงเชื่อพบว่าผู้ต้องหาไม่สามารถจ่ายเงินปันผลได้จริงตามที่กล่าวอ้าง และเริ่มเชื่อว่าไม่มีการลงทุนตามที่กล่าวอ้างจริง แต่เป็นเพียงอุบายหลอกลวงให้ผู้สนใจหลงเชื่อและยินยอมที่จะโอนเงินให้กับผู้ต้องหาเท่านั้น ทำให้กลุ่มผู้เสียหายได้รับความเสียหายจำนวนมาก  จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ ต่อพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. ปัจจุบันเป็นจำนวน 14 ราย รวมมูลค่าเสียหายกว่า 36 ล้านบาท เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปอศ. ได้ติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหานำส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. ดำเนินคดีตามกฎหมาย สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฎิเสธตลอดข้อกล่าวหา


บก.ปอศ.ฝากเตือนถึงพี่น้องประชาชนให้ทราบถึงพฤติการณ์ของคนร้ายที่หลอกลวงเหยื่อในหลายลักษณะ อยากให้ตั้งข้อสังเกตว่า หากมีการชักชวนการลงทุน โดยเสนอผลตอบแทนสูงมากผิดปกติ หรือให้โอนเงินเข้าบัญชีบุคคล ขอให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่า ท่านอาจกำลังถูกหลอก