ไฮโซนัทควงภรรยาให้การเพิ่ม ลั่นพร้อมปกป้องเหยื่อทุกรายที่ถูก"อดีตรองหน.พรรค"ลวนลาม

ไฮโซนัทควงภรรยาให้การเพิ่ม

ไฮโซนัทควงภรรยาให้การเพิ่ม ลั่นพร้อมปกป้องเหยื่อทุกรายที่ถูก"อดีตรองหน.พรรค"ลวนลาม





ad1


เมื่อเวลา 16.24 น. วันที่ 15 เมษายน ที่ สน.ลุมพินี นางหทัยรัตน์ ธนากิจอำนวย หรือแอนนา อายุ 30 ปีพร้อม นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือไฮโซลูกนัท สามีภรรยา เข้าให้ปากคำในคดีรองหัวหน้าพรรคการเมือง ลวนลามและข่มขืนหญิงสาวหลายราย เพิ่มเติม หลังจากเข้าแจ้งความเมื่อ14 เม.ย.



นายธนัตถ์ เปิดเผยว่า ตำรวจนัดหมายมาให้ปากคำเพิ่มเติม ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นการให้ปากคำในประเด็นใด แต่เรื่องหลักฐานที่นำมาใช้ประกอบนั้นเป็นรายละเอียดที่มอบให้นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ไปแล้วเชื่อว่าพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุถือเป็นอาการทางจิต เพราะเคยมีข่าวของบุคคลนี้เกิดขึ้นที่ประเทศอังกฤษเมื่อ 19 ปีก่อน ตนยังได้หลักฐานแชทพูดคุยระหว่างเหยื่อกับผู้ก่อเหตุ เมื่อปี 2561 ซึ่งขณะนั้นเหยื่ออายุแค่ 17 ปีเท่านั้น แต่ผู้ก่อเหตุบอกว่าจะกลับไปเจอที่กทม. พร้อมชวนไปเที่ยวกลางคืน เชื่อว่าเหยื่อบางรายไม่พร้อมออกมาเปิดเผยเรื่องราว ตนอยากให้ออกมาพูดยืนยันว่าพร้อมจะปกป้องทุกเสียงทุกคนและต่อสู้คดีนี้ให้ถึงที่สุด เพราะทุกคนรับรู้แต่ไม่เคยมีเหยื่อออกมาต่อสู้เลยตลอด 19 ปีจนมีเหยื่อรายหนึ่งที่ออกมาก็มีเหยื่อรายอื่นออกมาอีก


นายธนัตถ์ กล่าวอีกว่าขณะนี้อยากให้ทุกคนตั้งข้อสังเกตุว่าหลักฐานต้องชัดขนาดไหนจึงจะพอใจ หากใช้เหตุผลและตัดอคติทางการเมืองไปจะเห็นว่าเหยื่อทุกคนให้การตรงกันทั้งหมด ทั้งพฤติการณ์การล่อลวงและสถานที่เช่นร้านอาหารและคอนโดที่พัก คงเป็นไปไม่ได้ที่หลายคนจะพูดตรงกัน หากสิ่งเหล่านี้ยังไม่เพียงพอ คงคาดหวังกับสังคมนี้เกินไปนอกจากนี้พรรคต้นสังกัดยังไม่แสดงท่าทีแสดงความเสียใจต่อเหยื่อ มองว่าการลาออกจากตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค ไม่มีค่ากับใครและไม่แปลกใจที่นักการเมืองให้ท้ายกันในเรื่องผิดๆ กรณีที่มีแชตหลุดนั้นเป็นแชตของพรรคการเมืองดังกล่าวเช่นกัน


นางหทัยรัตน์ กล่าวว่าหลังแจ้งความมีเหยื่อรายอื่นติดต่อมาโดยตรง 2 คน โดยพบเจอพฤติการณ์ของผู้ก่อเหตุคล้ายกัน โดยรายหนึ่งเหตุเกิดที่ต่างประเทศ ทั้งนี้ไม่กังวลกับการการเปิดเผยตัวตน คนที่กังวลไม่ใช่ผู้เสียหาย แต่เป็นผู้ก่อเหตุ ขณะนี้ผู้ก่อเหตุยังไม่มีการติดต่อมาแต่อย่างใด รวมถึงไม่มีการข่มขู่ ซึ่งไม่แปลกใจที่ผู้ก่อเหตุออกมาปฏิเสธ เพราะเป็นการก่อเหตุโดยไม่รู้สึกถึงความผิดชอบชั่วดี มีเหยื่อหลายรายถูกลวนลามและข่มขืนยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องทางการเมือง แต่เป็นสิ่งที่มีในสังคม ทุกคนรู้ว่าอะไรจริงไม่จริง แต่ทำอะไรไม่ได้ ช่วงแรกที่ทราบข่าวก็ไม่แปลกใจ แต่เมื่อเห็นคลิป ได้ยินเสียง เห็นท่าทางที่ผู้ก่อเหตุออกมาปฏิเสธ รู้สึกโกรธอยากออกมาให้กำลังใจเหยื่อที่แจ้งความคนแรก และอยากบอกว่าสิ่งที่ผู้ก่อเหตุพูดนั้นเป็นการโกหกทั้งสิ้น


นางหทัยรัตน์ กล่าวอีกว่า เรื่องดังกล่าวทำให้ตนออกไปทำงานทางการเมืองในฐานะ ผู้สมัคร ส.ก. ไม่ได้เหมือนเดิม เพราะรู้สึกมีผลกระทบต่อจิตใจ เมื่อออกมาพูดเรื่องนี้ เหมือนเป็นการภาพฉายซ้ำแต่ต้องออกมาเพื่อเหยื่อ และความยุติธรรมที่ยังไม่เกิดขึ้น ซึ่งผู้ก่อเหตุ ก่อเหตุมาเยอะขนาดนี้และมีผู้เสียหายจริง สิ่งเหล่านี้คือเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในสังคมไทย ฝากถึงผู้ก่อเหตุว่าหากมีจิตใจที่เป็นมนุษย์ ขอให้รับผิดชอบการกระทำของตนเอง 
.