เราชนะได้ไง?? พ่อค้าหมูกระทะขายในมหาวิทยาลัยโดนเรียกเงินคืนเราชนะ 17 ล้านบาท  แม่ค้าอีกรายถูกระงับเพราะขายระยะทางเกินถึง7 พันกม. ทั้งๆที่เหนือสุดจรดใต้ระยะทางแค่ 2,000 กม

เราชนะได้ไง?? พ่อค้าหมูกระทะขายในมหาวิทยาลัยโดนเรียกเงินคืนเราชนะ 17 ล้านบาท  แม่ค้าอีกรายถูกระงับเพราะขายระยะทางเกินถึง7 พันกม. ทั้งๆที่เหนือสุดจรดใต้ระยะทางแค่ 2,000 กม.

โดยเจ้าตัวได้เปิดเผยว่า ตนทำธุรกิจเป็นร้านขายหมูกระทะอยู่ในมหาวิทยาลัยมหาสารคามมา 12 ปี มี 3 สาขา สาเหตุที่โดนคือ มีการสแกนข้ามเขตจังหวัด มีลูกค้าเป็นนักศึกษา 40,000 คน จากหลายพื้นที่ ทำให้เกิดการสแกนที่มากเกินไป มียอดเงินมากเกินไป จึงกลายเป็นปัญหา
ซึ่งเจ้าตัวได้กล่าวอีกว่า ตนยืนยันว่า มีการค้าขายจริง ลูกค้าได้ของจริง ยอมรับว่ามีการจ่ายเงินผ่านแอปฯ แล้วมีการทอนเงินคืนกลับไป เพื่อให้นำเงินไปใช้อย่างอื่นได้ แต่ก็มีเงื่อนไขคือ ต้องซื้อของจากร้านเราก่อนเท่านั้น

ซึ่งพ่อค้าหมูกระทะโอดว่า การเรียกเงินคืน 17 ล้าน มันมากกว่าเงินทุนของร้านอีก ซึ่งโดนขนาดนี้ร้านก็ต้องสู้เพราะไม่มีทางเลือก เหลือกำไรนิดหน่อย ยังไงก็ต้องสู้ อีกทั้งยอมรับว่าในกระบวนการต่อสู้นั้น ตนเองไม่มีหลักฐาน เนื่องจากสั่งของจากมหาชัย ซื้อสดก็ไม่ได้เก็บบิล ไม่ได้คาดคิดว่าต้องมาเจอเรื่องแบบนี้  ถือว่าไม่ยุติธรรม เพราะเงื่อนไขที่ให้ยอมรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป เหตุจากล็อคดาวน์ ร้านจำเป็นต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ซึ่งในสัญญาก็ไท่ได้มีระบุไว้ว่าผิดกฎจะยึดเงินคืน ซึ่งร้านเราก็ไม่ได้โกง ทุกคนมาซื้อก็ได้ของครบ

ขณะเดียวกันก็มีแม่ค้าอีกรายโดนเรียกเงินคืนเพราะสแกนระยะทางเกิน 7,000 กม./วัน เลยโดนระงับการใช้โครงการ ได้รับความเสียหายมาก ขาดรายได้ ไม่ได้ขายของเป็นเดือน และตนก็ได้ทำหนังสือชี้แจงไปแล้ว

มีผู้ใช้ทวีตเตอร์รายหนึ่งตั้งข้อสงสัยว่าระยะทางเหนือสุดถึงใต้สุดเพียงแค่ 2,000 กม. แล้วระยะทาง 7,000 กม. โครงการเราชนะเอามาจากไหน 

เหตุที่ทำให้เกิดการผิดเงื่อนไขนั้น ทางผู้ค้าอาจจะใช้วิธีขายออนไลน์ เหตุจากโควิดไม่สามารถเปิดขายกันหน้าร้าน เมื่อมีการสั่งซื้อก็ส่ง QR Code ของโครงการเราชนะผ่านตัวแชตเพื่อให้ลูกค้าสแกน ซึ่งลูกค้าอาจจะอยู่ไกลคนละพื้นที่ พอมาเช็คระยะทางสะสม จึงเกิน 7,000 กม. ส่งผลให้ระบบประมวลผิดเงื่อนไขจึงระงับและแจ้งเรียกเงินคืน ส่งผลให้พ่อค้าแม่ค้ากระอักกันเป็นจำนวนมาก