ฝูงช้างป่าเขาอ่างฤาไนข้ามฝั่งมาปราจีนฯอีก 30ตัวยึดสวนมัน-ยูคาฯเมืองกบินทร์บุรี (มีคลิป)

ฝูงช้างป่าเขาอ่างฤาไนข้ามฝั่งมาปราจีนฯอีก 30ตัวยึดสวนมัน-ยูคาฯเมืองกบินทร์บุรี (มีคลิป)





Image
ad1

ปราจีนบุรี –ระวังภัย! ฝูงช้างป่าเขาอ่างฤาไนข้ามฝั่งมาปราจีนฯอีก 30ตัว บุกทำลายพืชผลเกษตรกรของชาวบ้านโปร่งสะเดา หมู่ที่ 6 ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี 

เมื่อเวลา18.50 น.  วันนี้   4 ธ.ค.64 ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรี   รายงานว่าได้รับแจ้งจากชาวบ้าน   พบฝูงช้างป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ในพื้นที่ป่าราบต่ำผืนสุดท้ายรอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก (  จ.ฉะเชิงเทรา,จ.นครนายก,จ.นครราชสีมา,จ.สระบุรี) ข้ามฝั่งจาก จ.ฉะเชิงเทรา มาหากินไกลถึง จ.ปราจีนบุรี พื้นที่รอยต่อกัน ประมาณ 30 ตัว     อยู่ข้างสวนมันสำประหลังและป่ายูคาลิปตัส ของชาวบ้าน   หมู่บ้านโปร่งสะเดา หมู่ที่ 6 ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี 

จึงได้ลงพื้นที่    สำรวจวันนี้ตั้งแต่เช้าจรดเย็นเกือบค่ำ     ที่บริเวณจุดพบเห็นโขลงช้างป่าดังกล่าว     ยังไม่มีวี่แววว่าฝูงช้างป่าจะออกมาจากป่าที่ซ่อนให้เห็น      ไม่รู้ว่าช้างป่าฝูงดังกล่าวนั้นหลบซ่อนตัวอยู่ที่บริเวณใด     โดยมีชาวบ้านที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงที่พบเห็นพากันนั่งจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ถึงการพบเห็นฝูงช้างป่าจำนวนมากในวันสิ่งแวดล้อมไทย

ทั้งนี้   ช่วงเมื่อคืนที่ผ่านมา  (3ธ.ค.)  โขลงช้างป่าพากันอพยพมาอยู่สวนยูคาลิปตัสคาดว่าติดตามจ่าฝูงคือ  เจ้าแข็งแกร่งที่ข้ามถิ่นมาหากินอยู่ก่อนหน้านี้หลายวันแล้ว     โดโขลงช้างพากันเดินหากินรอบบริเวณกระท่อม     จากนั้นโขลงช้างป่าดังกล่าวได้กระจาย-แยกย้าย  กันออกหากินตามแหล่งน้ำ แหล่งพืชไร่ นาข้าวของเกษตรกร   ช่วงรุ่งสางที่ผ่านมา

นายบุญเชิด ส่งศรี กล่าวว่า    ตนและหลานชายเป็นคนเห็นฝูงช้างป่าจำนวนดังกล่าว     เห็นครั้งแรกรู้สึกตกใจมาก   เพราะในชีวิตไม่เคยพบเห็นโขลงช้างป่ามากขนาดนี้     มีทั้งตัวเล็กตัวใหญ่     ขณะนี้ยังไม่รู้ว่าช้างป่าโขลงนี้     หลบอยู่ ณ ที่ใด 

บริเวณรอบที่พบเห็นช้างป่านั้นมีสภาพเป็นป่าอ้อย  สลับกับนาข้าวที่เพิ่งเกี่ยวเสร็จ อันเป็นแหล่งอาหารชั้นยอด    คาดว่าช้างป่าฝูงดังกล่าวอาจจะหลบอยู่ในป่าอ้อย   ที่มีแหล่งน้ำ  อาหารของชาวบ้านขุดไว้เพื่อทำการเกษตร      ขณะ   ที่  เจ้าแข็งแกร่งซึ่งเป็นจ่าฝูง   ที่มีการพบเห็นอยู่ห่างจากฝูงช้างป่านี้ 7กม.    ก็ยังไม่พบตัวแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม  ในโอกาสวันสิ่งแวดล้อมไทย    ปัญหาช้างป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน  ที่กระจายแตกโขลงออกไปหากิน  ทั่วภาคตะวันออก   สะท้อนถึงปมปัญหามาจากช้างป่าประชากรในพื้นที่เขาอ่างฤาไน ( ป่าราบต่ำผืนสุดท้ายในภาคตะวันออก จ.ฉะเชิงเทรา,จ.สระแก้ว,จ.ชลบุรี,ระยอง,จ.จันทบุรี) พื้นที่มีจำกัด     แต่   ประชากรช้างป่าเพิ่มขึ้นสูง   ทั้งนี้ สาเหตุหลักเนื่องจากป่าราบต่ำ  เป็นพื้นที่ราบปกติช้างป่า  ยามว่างเว้นจึงผสมพันธุ์ แพร่ลูกหลานง่ายกว่าช้างป่าตามภูเขา      โดยป่าราบต่ำ แต่เต็มไปด้วยไม้เบญจพรรณหลากหลายที่สมบูรณ์  แต่พื้นที่ราบปกติไม่สูงชัน แบบป่าภูเขา        แต่ต่อมาถูกทำลาย- บุกรุกโดยน้ำมือมนุษย์    พื้นที่อยู่อาศัย แหล่งอาหารของสัตว์ป่าที่เหลือจึงมีจำกัด     

 จึงพบช้างป่าออกนอกพื้นที่โดยรอบ ทั้ง จ.ฉะเชิงเทรา,จ.สระแก้ว,จ.ชลบุรี,ระยอง,จ.จันทบุรี และ จ.ปราจีนบุรี (อนึ่ง ในอดีต จ.สระแก้ว เคยเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี แต่ภายหลังแบ่งแยกพื้นที่เป็น จ.สระแก้ว)   จ.ปราจีนบุรี เคยมีปัญหา ... “ข่าว” ผ่านสื่อมวลชน ที่ผ่านมาต่อเนื่อง อาทิ ช้างป่าถูกรถยนต์ชนตาย –บาดเจ็บ ระหว่างข้ามถนนมาจากฝั่ง จ.ฉะเชิงเทรา ขณะเข้าสู่ฝั่ง จ.ปราจีนบุรี ,ช้างป่าถูกไฟฟ้าชาวบ้านช๊อตตายระหว่าออกหากิน ปัญหาบุกรุกกินพืชไร่ชาวบ้านเสียหาย และ ร้ายแรงสุดคือการที่ช้างป่ามีอาการเครียดเหยียบ-ฆ่าชาวบ้าน ส่วนพื้นที่จังหวัดอื่น อาทิ จ.จันทบุรี ช้างป่าที่เหยียบนักข่าวตายในขณะทำข่าว เป็นต้น