งามไส้! ขรก.ระดับสูงแอบเขียนเช็คเบิกเงินหลวงเวียนซ้ำ โกงกินเงินหลวงกว่า 9 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ตรัง เปิดเผยถึงเรื่องราวฉาวโฉ่ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในเทศบาลตำบลลำภูรา ต.ลำภูรา อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ภายหลังจากช่วงเดือน กันยายน พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา ข้าราชการระดับสูงรายหนึ่งของเทศบาลตำบลลำภูรา ได้ออกมารับและสารภาพบอกกล่าวกับ น.ส.อนิสา วินสน นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลลำภูรา (ปัจจุบัน) หลังจาก นายรักชาติ เที่ยงธรรม อดีตนายเทศบาลตำบลลำภูรา (ขณะนั้น) ได้เสียชีวิตพ้นจากตำแหน่งลงไป

การทุจริตครั้งนี้เรื่องแดงขึ้นมาช่วงเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา เมื่ออดีตนายกเทศมนตรีตำบลลำภูรา อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เสียชีวิต และมีการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีใหม่ มีนางสาวอนิสา วินสน เป็นนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลลำภูราคนปัจจุบัน ปรากฏมีรายงานว่าตั้งแต่ปี 2561-2565 มีการเบิกเงินโดยข้าราชการระดับสูงคนใหม่ในเทศบาล จากกองคลังเทศบาลตำบลลำภูรา กว่า 9 ล้านบาท แต่มีการส่งเงินคืนมาแล้วบางส่วน เมื่อตรวจสอบพบว่าเงินยังขาดอยู่ประมาณ 4-5 ล้านบาท และมีเงินอีกจำนวนหนึ่งที่ยังไม่สามารถระบุที่มาที่ไปของการเบิกจ่าย ทางเทศบาลตำบลลำภูราจึงตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินประจำ จ.ตรัง อยู่ระหว่างการตรวจสอบ  แต่ยังไม่มีข้อสรุปและเปิดเผยรายละเอียด ต่อมาวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ตรัง ได้เดินทางเข้าพบกับ นายอนันต์ ทองอุ่น ท้องถิ่น จ.ตรัง และ น.ส.นาถวดี คงเอี่ยม ผอ.กลุ่มงานการเงินบัญชีและการตรวจสอบ สำนักงานส่งเสริมการปกครอง ท้องถิ่น จ.ตรัง เพื่อสอบถามและขอข้อมูลในกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้น

นายอนันต์ ให้ข้อมูลว่า ตามหนังสือจากเทศบาล ลงวันที่ 9 กันยายน 2565 รายงานว่า ได้ตรวจสอบหลักฐานเบิกเงินและหลักฐานการจ่ายเงิน พบว่ามีเหตุน่าสงสัยปัญหาทางการเงินและการทุจริตเกิดขึ้น จึงรายงานมาเพื่อขอตัว น.ส.นาถวดี ผอ.กลุ่มงานการเงินบัญชีและการตรวจสอบฯ เพื่อแต่งตั้งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะนี้คณะกรรมการฯ ที่ได้รับการแต่งตั้งพบว่ายังมีเงินหายจากบัญชี 4-5 ล้านบาท โดยยังไม่สามารถระบุตัวเลขที่แท้จริงได้ ส่วนผู้ทุจริตขาดราชการและขาดการติดต่อ ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน เนื่องจากผิดวินัยร้ายแรงจากการขาดราชการ หากการตรวจสอบข้อเท็จจริงเสร็จสิ้นจะดำเนินการเอาผิดทั้งทางวินัยและอาญากับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

เรื่องนี้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินจังหวัดกำลังตรวจสอบคู่ขนานไปกับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เบื้องต้นพบว่ามีการทุจริตต่อเนื่องมากว่า 5 ปีงบประมาณ และเป็นฎีกาที่มีความซับซ้อนพอสมควรในการตรวจสอบ จึงต้องใช้เวลา และรายงานให้นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง และกระทรวงมหาดไทย ทราบเรียบร้อยแล้ว

ด้าน น.ส.นาถวดี ให้ข้อมูลถึงพฤติการณ์การกระทำผิดของ ผอ.รายดังกล่าวว่า ได้มีการเขียนเช็ค ไม่ขีดฆ่า หรือผู้ถือ แอคเคาท์ เปย์ยี่ โอลี่ (Account Payee Only) ในเช็ค มีการเขียนเว้นระยะห่างในเช็ค เพื่อสามารถให้เติมตัวเลขข้างหน้าได้ และยังสามารถไปเติมตัวเลขหลังจากผู้มีอำนาจเซ็นเสร็จ ก็จะมาเติมตัวเลขเอาไปเบิกจ่ายในนามของตัวเอง และอีกอย่างก็ยังนำเอาฎีกาเบิกเงินต่างๆ กลับมาเวียนเพื่อเบิกอีกครั้งหนึ่ง โดยเบิกในจำนวนเงินที่น้อย ที่สามารถสั่งจ่ายได้ในนามของ ผอ.กองคลัง และเจ้าหน้าที่การเงินเองได้ และนำฎีกาตัวนี้มาเติมจำนวนเงินในภายหลังอีก กลายเป็นว่านำฎีกามาเวียนเบิกจ่ายอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งการกระทำดังกล่าวยากต่อการตรวจสอบ เพราะของเทศบาลลำภูรา (ขณะนั้น) การควบคุมภายในไม่ดีด้วย เพราะคนที่ทุจริตเป็นคนทำบัญชี และทำบัญชีรวบรัดอยู่ในคนๆ เดียวกัน ซึ่งยากแก่การตรวจสอบ เพราะไม่ได้มีใครเข้าไปยุ่งเกี่ยวเลย

หลังเกิดเรื่องทางนายกฯ (ปัจจุบัน) ได้มีการมอบอำนาจให้ทางปลัดเทศบาลฯ เดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.ห้วยยอด แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แนะนำให้มีการตรวจสอบยอดเงินที่สูญหายอย่างแน่ชัดก่อน แล้วค่อยดำเนินการเข้าแจ้งความดำเนินคดีอาญา

ขณะที่ทางผู้สื่อข่าวได้พยายามขอข้อมูลและสัมภาษณ์ น.ส.อนิสา วินสน นายกเทศมนตรีตำบลลำภูรา (ปัจจุบัน) แต่กลับได้รับการปฏิเสธในการให้ข้อมูลหรือสัมภาษณ์ใดๆเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้น