เปิดใจแม่เชื่อระบบGPSนำทางให้ลูกพบจุดจบขับรถพุ่งจมน้ำ (มีคลิป)

เปิดใจแม่เชื่อระบบGPSนำทางให้ลูกพบจุดจบขับรถพุ่งจมน้ำ (มีคลิป)





ad1

นครสวรรค์-แม่เชื่อระบบGPSนำทางให้ลูกพบจุดจบขับรถพุ่งจมน้ำ เตรียมขอรับศพบุตรชายกลับไปทำพิธีทางศาสนาก่อน เพราะตนมีบุตรชายคนเดียวของครอบครัว

เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานหลังมีการพบศพนายธีรภัทร์ ธีระพงศ์ไพบูลย์ อายุ 27 ปี บุตรชายของเจ้าของร้านจำหน่วยอุปกรการเกษตรรายใหญ่ ในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี ที่จมแม่น้ำเจ้าพระยา ในพื้นที่ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ สูญหายไปพร้อมกับรถยนต์ SUV คู่ใจ ตั้งแต่กลางดึกคืนวันที่ 5 พฤศจิกายน จนกระทั้งมาพบศพเมื่อช่วงวันนี้ โดยพบเป็นศพลอยอืดมาติดอยู่กับกอหญ้าใกล้กับตลิ่งริมน้ำเจ้าพระยาในพื้นที่ หมู่ 8 อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดระบุเกิดอุบัติเหตุรถจมน้ำไปประมาณ 15 กิโลเมตรนั้น และล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนางพินิจ ธีรพงศ์ไพบูลย์ มารดานายธีรภัทร์ ที่เดินทางมารอรับศพบุตรชายที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ว่า ตอนนี้เจอศพบุตรชายแล้ว ก็จะมีการดำเนินการเตรียมขอรับศพบุตรชายกลับไปทำพิธีทางศาสนาก่อน เพราะตนมีบุตรชายคนเดียวของครอบครัว และที่ผ่านมา เขาคอยดูแลเอาใจใส่ครอบครัวเป็นอย่างดี จึงจะจัดพิธีงานศพให้ที่ดีสุดเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อส่งเขา 

ส่วนการติดใจสาเหตุการณ์ตายหรือไม่นั้น ตนไมทราบว่าจะติดใจอะไร แต่ถ้ามีเรื่องติดใจ ตนก็ยังไม่มีหลักฐาน และตอนนี้ เท่าที่มีข้อมูลอยู่ ก็ค่อนข้างที่จะเชื่อว่าบุตรชายคงหลงทางจนขับรถไปเกิดอุบัติเหตุจริง และที่ตอนนี้ติดใจ ก็น่าจะเป็นเรื่องในจุดที่เกิดอุบัติเหตุมากกว่า เนื่องจากช่วงที่ยังมีการค้นหาศพของบุตรชาย ตนได้นั่งรถไปดูยังหลายๆ จุด ก็พบว่า ถนนหลายแห่งของนครสวรรค์ มีสภาพที่ดี และถนนในจุดที่ติดกับแม่น้ำหลายจุด ก็มีแนวกั้นเอาริมทางเอาไว้ แต่ทำไม ตรงจุดที่บุตรขับรถไปประสบอุบัติเหตุ ถึงได้เปิดช่องทางเอาไว้แบบนี้ จึงอยากให้การทางรีบมาแก้ไข ปรับปรุง เพราะอาจจะมีเหตุสลดเกิดขึ้นอีก และเหตุการณ์ครั้งนี้ หากมีอะไรมาปิดกั้นไว้ ก็อาจจะไม่ทำให้บุตรชายของตนต้องมาจบชีวิต หรือเต็มที่ก็ชนทางปิดกั้น ไม่พุ่งตกลงไปในแม่น้ำ 

“อีกอย่างหนึ่ง ดิฉันต้องบอกว่า ในส่วนของระบบนำทาง GPS ด้วยว่า ก็น่าจะเป็นข้อสงสัยในส่วนของการนำพาบุตรชายไปประสบเหตุสลด ซึ่งส่วนหนึ่งก็ทราบด้วยว่า บุตรชายเป็นคนที่ชอบใช้ GPS ในการนำทางอยู่แล้ว ประกอบกับตรงจุดนี้ เป็นถนนติดแม่น้ำและไม่มีช่องทางกั้น แถมยังเป็นช่วงเวลากลางคืนด้วย จึงอาจทำให้บุตรชายมองไม่เห็นว่าเป็นแม่น้ำ จึงเชื่อว่า บุตรชายน่าจะเห็นเป็นช่องทางที่ไปได้ จึงขับรถจนพุ่งตกแม่น้ำลงไปดังกล่าว ซึ่งดิฉัน ก็ขอฝากเตือนไปถึงผู้นิยมชอบใช้ GPS เป็นประจำ ให้ระมัดระวังด้วย แม้จะเป็นระบบนำทางที่ช่วยให้สะดวกสบายมากขึ้น แต่ก็อย่าไปเชื่อใจมากนัก” นางพินิจ ระบุ 

ด้าน น.ส.แพรว เพื่อนสาวคนสนิทของนายธีรภัทร์ ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวผ่านการสนทนาทางโทรศัพท์ แต่ไม่อนุญาตให้บันทึกเสียงว่า  ขณะกำลังขับรถเดินทางออกจาก จ.นครสวรรค์ ตนเองได้เกิดพลัดหลงกับนายธีรภัทร์  ซึ่งก็ได้โทรติดต่อกันอยู่เป็นระยะๆ  แต่ครั้งสุดท้ายที่โทรพูดคุยกัน นายธีรภัทร์ บอกว่าไม่ต้องย้อนมารับเนื่องจากกำลังกำเปิด GPS ขับตามไปได้ จนทำให้ตนก็ไม่กล้าโทรกลับไปหาอีกเลย เนื่องจากเกรงว่าจะรบกวนการใช้โทรศัพท์ของผู้ตาย ซึ่งสอดคล้องกับมารดาของนายธีรภัทร์ ที่บอกว่าได้โทรหาลูกชายในขณะเกิดเหตุพอดีแล้วลูกได้พูดว่าขณะนี้ได้ขับรถตกน้ำ แล้วจะรีบโทรหาเพื่อนให้มาช่วยจากนั้นสายโทรศัพท์ก็ตัดไป ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าว ตนเองคิดว่าเป็นอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด และนายธีรภัทร์ได้ขับรถตกน้ำจริง  เนื่องจากไม่คุ้นชินกับเส้นทางประกอบกับตรงที่เกิดเหตุนั้นมืดไม่มีแสงสว่างด้วย 

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสำรวจยังจุดที่เกิดอุบัติเหตุอีกครั้ง พร้อมกับได้สอบถามชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง ได้รับการเปิดเผยจากนายดิเรก อิมเจริญ ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 2 ต.ตะเคียนเลื่อน อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ว่า จุดถนนทางลอดใต้สะพานแห่งนี้ ถือว่าอันตรายมาก เพราะมีการเปิดช่องทางริมแม่น้ำเอาไว้ และเปิดไว้นานแล้วด้วย ซึ่งที่ผ่านมา ก็มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นหลายครั้ง แม้แต่คนในพื้นที่เองก็ยังเคยประสบอุบัติเหตุ โดยเฉพาะช่วงกลางคืน หากมองไกลจะเห็นเป็นทางที่น่าจะไปได้ แล้วยิ่งตรงช่วงโค้ง ไม่มีแสงสว่างที่เพียงพอให้มองเห็นด้วย จึงทำให้หลายคนเข้าใจผิด มองว่ามีแยกให้ไปทางตรงได้ ซึ่งตนก็เห็นมานานแล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเปิดช่องทางนี้ไว้ทำไม จึงอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบมาดำเนินการแก้ไขด้วยการปิดทาง พร้อมกับเพิ่มแสงไฟส่องสว่างให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นมีมากขึ้น