ผู้ว่าฯมอบเงินช่วยเหลือเหยื่อช้างสีดอโหนกเหยียบตาย59,400.- บาทขณะสีดอโหนกยังข้ามฝั่งจากแปดริ้วมาหากินไกลถึงปราจีนฯทุกวัน
ผู้ว่าฯมอบเงินช่วยเหลือเหยื่อช้างสีดอโหนก


เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 65 ที่หอประชุม ที่ว่าการอำเภอกบินทร์บุรี สำนักงาน ปภ.ปราจีนบุรี มอบเงินช่วยเหลือครอบครัวผู้ประสบภัยจากช้างป่า โดยนายวรพันธุ์ สุวรรณุสส์ ผวจ.ปราจีนบุรี ประธานคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินจังหวัดปราจีนบุรี (ก.ช.ภ.จ.) มอบหมายให้นายสหชัย แจ่มประสิทธิ์สกุล นายอำเภอกบินทร์บุรี มอบเงินช่วยเหลือแก่คอบครัวผู้เสียชีวิตจากการโดนช้างป่าทำร้าย ขณะออกไปเก็บแต้ว,ผักกระเจียวจากป่าชุมชนของหมู่บ้านเขาไม้แก้วหมู่4ต.เขาไม้แก้วอ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี มาประกอบอาหารเลี้ยงครอบครัว
เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 ผู้เสียชีวิตคือนางสุดทา สีลาลัย อายุ 73 ปี บ้านเลขที่ 103/2 หมู่ที่ 4 ตำบลเขาไม้แก้ว อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งเป็นผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ช้างป่า) ตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2562 เป็นค่าจัดการศพ จำนวน 29,700 บาท และ ผู้ประสบภัยพิบัติที่เสียชีวิตเป็นหัวหน้าครอบครัว พิจารณาช่วยเหลือเงินสงเคราะห์ครอบครัวเพิ่มอีก จำนวน 29,700 บาท รวมเป็น เงิน 59,400.- บาท
โดยมี หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง นางมาละนี จินดารัตน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปราจีนบุรี เลขานุการคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินจังหวัดปราจีนบุรี (ก.ช.ภ.จ.) เข้าร่วมพิธี
นางเดือน บุญช่วย ลูกสาวลูกสาวผู้เสียชีวิตกล่าวว่าอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งผลักดันช้างป่าออกจากพื้นที่โดยเร็วที่สุด หลังเกิดเหตุช้างป่า ยังคงเข้ามาปรับราคากินอยู่ในพื้นที่ทุกวันชาวบ้านหวาดผวากลัวช้างป่ากันหมดแล้ว
ต่อมาช่วงเวลา18.30 น. วันนี้ 8 มี.ค.65 ช้างป่าสีดอโหนกช้างป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน จ.ฉะเชิงเทรา (ในพื้นที่ป่าราบต่ำผืนสุดท้ายเขตรอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก จ.ฉะเชิงเทรา,จ.สระแก้ว,จ.ชลบุรี,จ.จันทบุรี,จ.ระยอง) ที่ข้ามฝั่งจังหวัด เข้ามาหากินในพื้นที่หมู่ 4 ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรีทุก ๆ วันได้ออกมาปรากฏตัวให้เห็นบริเวณป่าอ้อยริมถนนสายสระแก้วตัดใหม่(สระแก้ว-พนมสารคาม) หรือ สาย359 อีกครั้งหนึ่ง
โดยพบช้างป่าสีดอโหนก มาหากินยอดอ้อยของเกษตรกรนานราวครึ่งชั่งโมง ชาวบ้านที่ผ่านไป –มา ต่างถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก โดยช้างป่าสีดอโหนกไม่ได้มีท่าทีตื่นตระหนกทุกคนแต่อย่างใด อยู่ในอาการอารมณ์ดีหลังจากอิ่มหนำสำราญ อยู่ในสภาพหูแกว่งโบกไป-มาหางแกว่งไกว
นายประทีป(ขอสงวนนามสกุล)เจ้าของไร่ อ้อยกล่าวว่า ที่ช้างป่าข้ามฝั่งจากแปดริ้ว มากัดกินอ้อยแบบนี้ในทุก ๆ วัน ทำให้เสียหายอย่างมาก เพราะอ้อยจะโตไม่ทันกัน ทำใจกับการถูกช้างป่ามากัดกินอ้อยในไร่ค่าเสียหายไม่ต้องพูดถึง ไม่ได้รับค่าชดเชยเยียวยาแต่อย่างใด เพราะไม่ได้เสียหายโดยสิ้นเชิง!!
ช้างจะกัดกินเป็นหย่อมๆ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งผลักดันช้างป่าออกจากพื้นที่โดยเร่งด่วน ชาวบ้านไม่กล้าที่จะออกมาทำไร่ทำสวนกันแล้ว ทุกวันนี้ทุกคนพากันลุ้นว่าจะมีศพที่สองต่อจากเหยื่อรายแรกในต.เขาไม้แก้ว ในการถูกช้างป่าทำร้ายเสียชีวิตอีกหรือไม่?