"ชูวิทย์" จ่อแฉขบวนการ "อุ้มท้องซื้อพ่อ" ภายในสิ้นปีนี้

"ชูวิทย์" จ่อแฉขบวนการ "อุ้มท้องซื้อพ่อ" ภายในสิ้นปีนี้

"ชูวิทย์" จ่อแฉขบวนการ "อุ้มท้องซื้อพ่อ" ภายในสิ้นปีนี้





ad1

8 ธ.ค. ที่รัฐสภา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตเจ้าของสถานบันเทิงและ อดีตนักการเมือง กล่าวภายหลังเข้าชี้แจงคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร(กมธ. ป.ป.ช.) ที่มีพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส เป็นประธาน และยื่นคำร้องให้คณะกรรมาธิการฯ ตรวจสอบเส้นทางการเงินของนายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล โดยในที่ประชุมสอบถามถึงบุคคลที่นายตู้ ห่าวมอบนาฬิกาให้เป็นคนชอบสะสมนาฬิกา ซึ่งตนจะขอพูดเพียงความเกี่ยวพัน เนื่องจากพฤติกรรมของนายตู้ ห่าวจะเจริญเติบโตรวดเร็วอย่างไร ถ้าไม่มีคอนเน็คชั่น  การที่นายตู้ห่าวเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็วราวกับขึ้นลิฟต์ ย่อมอยู่ใกล้ศูนย์กลางอำนาจ คนสุจริตหรือคนที่ไม่มีคอนเนคชั่นทำไม่ได้หรอก โดยธรรมเนียมไทย การนำของกำนัลไปให้เป็นเรื่องปกติ นายตู้ห่าวรู้ว่าจะต้องไปใกล้ชิดใคร รู้ว่าจะต้องเอาของกำนัลไปให้ใคร แต่ถ้าจะให้ตนพูดปรักปรำว่าเห็นด้วยตาหรือไม่ ตนคงจะตอบไม่ได้ และจะเป็นประเด็นการเมือง สิ่งที่ตนพูดคือการทำให้เห็นพฤติการณ์ของนายตู้ห่าว ที่พยายามที่จะไม่ใช่บันได แต่ขึ้นลิฟต์ในการขึ้นสู่ศูนย์กลางอำนาจ ถ้าตนพูดไปจะเป็นการกล่าวร้าย ซึ่งในกมธ.ป.ป.ช. พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ ได้บอกตนว่า ขอให้เก็บบางอย่างไว้เป็นความลับ

“ผมไม่ได้ต้องการให้เป็นประเด็นการเมือง แต่การที่ผมเปิดเผยเรื่องนี้ออกมาเพราะอยากให้เห็นพฤติกกรรมว่าไม่ได้ใช้บันได แต่ใช้ลิฟท์ขึ้นสู่อำนาจ ผมพูดเยอะไม่ได้ และข้อมูลบางอย่างเป็นความลับในชั้นกรรมาธิการ ไม่สามารถเปิดเผยได้ ซึ่งการขึ้นถึงอำนาจย่อมใกล้ชิดกับศูนย์กลางอำนาจ และคงไม่ใช่อดีตตำรวจ คงต้องเป็นคนที่ยังอยู่ในตำแหน่ง ต้องเป็นคนที่มีอำนาจวาสนา แต่ผมไม่ขอเอ่ยชื่อหรือพาดพิง” นายชูวิทย์ กล่าว

นายชูวิทย์ กล่าวว่า นายสันธนะต้องมาให้ข้อมูลกับกมธ.ปปช.เหมือนที่ตนมา เพราะต้องตรวจสอบเส้นทางการเงิน ถ้าสื่อมวลชนอยากให้ปะทะ ตนก็ยินดี ตอนนี้นายสันธนะหลังพิงบ่อนพิงบาร์ แต่ตนหลังพิงกำแพงเหล็ก ไม่มีทางล้ม และไม่ปฏิเสธว่ามีคนอยู่เบื้องหลัง ซึ่งคนที่อยู่เบื้องหลังคือกำแพงเหล็ก นายสันธนะต้องคิดถึงตัวเองว่าจะเดินต่อไปอย่างไร

“ถ้าคิดจะสู้คนอย่างผม จะรอดหรือเปล่า จะสู้ผมด้วยอะไร เพราะนายสันธนะไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง ผมและนายสันธนะเรียกว่ามวยคนละชั้น เพราะผมทำมาหมดแล้ว แต่นายสันธนะโดนไล่ออกจากราชการ ยืนยันว่าสิ่งที่ผมพูดเป็นความจริงทุกประการ” นายชูวิทย์ กล่าว

นายชูวิทย์ เปิดเผยถึงจิ๊กซอว์สำคัญที่ต้องตามต่อ ว่า ภายในสิ้นปีนี้ จะเปิดกระบวนการที่ชื่อว่า “อุ้มท้องซื้อพ่อ” ซึ่งเป็นกระบวนการที่ทำลายความมั่นคงของชาติในระยะยาว และกระบวนการดังกล่าวเริ่มต้นแล้วที่จ.เชียงรายและจ.เชียงใหม่ ซึ่งมีหน่วยงานรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องแน่นอน แต่จะเป็นความละเลยหรือเต็มใจรับผลประโยชน์ นี่คือจิ๊กซอว์สำคัญที่ต้องหาคำตอบ

“คนอย่างผม เมื่อเปิดเผยแล้วจะเปิดชื่อหน่วยงานด้วย ไม่กั๊ก ผมไม่มีอะไรที่จะพูดกำกวมเหมือนนายสันธนะ ลักษณะผม พูดชัด กระชับ ตรงเป้า และรับผิดชอบคำพูดของตัวเอง ไม่ใช่นายสันธนะที่พูดสองแง่สองง่าม แล้วให้ไปนั่งเดาเอาเอง เพื่อหลีกเลี่ยงข้อกฎหมาย” นายชูวิทย์ กล่าว