ศรีสุวรรณ พาชาวอำนาจเจริญ ร้อง บก.ปทส.เอาผิดขบวนการเขมือบป่า

ร้อง บก.ปทส.เอาผิดขบวนการเขมือบป่า

ศรีสุวรรณ พาชาวอำนาจเจริญ ร้อง บก.ปทส.เอาผิดขบวนการเขมือบป่า





ad1

วันที่ 8 ธ.ค. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ถ.พหลโยธิน  นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ได้นำชาวอำนาจเจริญเดินทางมาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อตำรวจ ปทส. เพื่อให้ดำเนินการสอบสวนและจับกุมขบวนการตัดไม้ทำลายป่าในพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ เนื่องจากมีกลุ่มนายทุนและข้าราชการในจังหวัดร่วมกันตัดไม้ทำลายป่าโดยเฉพาะไม้หวงห้าม เช่น ไม้ยางนา กันอย่างมโหฬารในป่าสงวน/ป่าชุมชน/ป่าดงใหญ่ โดยมีเจ้าหน้าที่รัฐมีเอี่ยวอยู่ด้วย มีการแอบอ้าง ส.ค.1 แต่นำไปสวมตอตัดในป่า, ที่พักไม้เป็นของตำรวจ, รถลากไม้วิ่งสนั่นเมือง แต่เจ้าหน้าที่เฉย เทศบาลทำถนนบุกรุกเข้าไปเพื่อชักลากไม้ ฯลฯ 
           
ในการร้องเรียนและแจ้งความในครั้งนี้ เนื่องจากไม่สามารถไว้วางใจข้าราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญได้ เนื่องจากปัญหานี้ชาวบ้านได้ร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาดำเนินการจับกุม ปราบปรามผู้กระทำความผิดมานานแล้ว แต่ปรากฏว่าไม่มีผลคืบหน้าแต่อย่างใด หากแต่มีความพยายามที่จะเอื้อประโยชน์ให้กันและกัน เช่น มีการนำรถชักลากไม้ ผ่าเข้ามาในเมืองได้อย่างสะดวก โดยรถบรรทุกไม้ซึ่งเจ้าของรถเป็นตำรวจในพื้นที่นั่นเอง และเมื่อจับกุมทั้งรถและไม้เถือน กลับมีการให้ประกันตัวและคืนรถของกลางไปอย่างรวดเร็ว ทั้ง ๆ ที่รถชักลากไม้ดังกล่าวถือว่าเป็นของกลางในการกระทำความผิดตามประมวลระเบียบการตํารวจเกี่ยวกับคดีลักษณะที่ 15 บทที่ 1 ข้อ 413
             
นอกจากนั้น มีการตัดต้นไม้ในป่าสงวนและป่าชุมชน แต่อ้างว่าเป็นการตัดไม้ในพื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิ์ที่ดิน สค.๑ แต่เมื่อเจ้าพนักงานที่ดินตรวจสอบแล้วปรากฏว่าเป็น สค.๑ บินมาจากที่อื่น ซึ่งขณะนี้กำลังดำเนินคดีกับเจ้าของ สค.บินดังกล่าวอยู่ แต่ผลคดียังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด แต่ที่เลวร้ายที่สุดน่าจะไม่พ้นไปจากการที่เทศบาลได้ทำถนนเข้าไปเอื้อประโยชน์ให้กับขบวนการตัดไม้ทำลายป่า ได้สามารถชักลากไม้ออกมาได้ง่ายขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ชาวบ้านโจษขานตำหนิกันให้แซด
              
อย่างไรก็ตามขบวนการตัดไม้หวงห้ามดังกล่าวย่ามใจถึงขนาดบุกรุกเข้าไปเลือกตัดไม้หวงห้ามในป่าดงใหญ่ และตระเวนตัดไม้ยางนา ในพื้นที่ริมห้วย หนองคลองบึง ในที่สาธารณะประโยชน์เกือบทั้งจังหวัด โดยไม่มีหน่วยงานใด เข้าไปกวดขันจับกุมอย่างจริงจัง ซึ่งอาจไม่กล้าเพราะอาจเป็นกลุ่มพวกมีสีที่ข้าราชการในจังหวัดไม่อยากยุ่งเกี่ยวด้วย จึงเอาหูไปนาเอาตาไปไร่แทน ป่าไม้ในจังหวัดอำนาจเจริญจึงย่อยยับลงทุกวัน
              
ขบวนการเขมือบป่าดังกล่าวมีความผิดตามกฎหมายหลายฉบับ หลายข้อหา ทั้ง พรบ.ป่าไม้ 2484 พรบ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2507 พรบ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ 2535 พรบ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน 2497 สมาคมฯและชาวอำนาจเจริญจำต้องมาร้องทุกข์กล่าวโทษให้ตำรวจ ปทส.เข้าไปเป็นเจ้าภาพจับกุมผู้กระทำความผิดเพื่อนำมาลงโทษตามกฎหมายโดยเร็วต่อไป นายศรีสุวรรณ 

เบื้องต้นพนักงานสอบสวน ปอส.รับเรื่องไว้ตรวจสอบเสนอผู้บังคับบัญชาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป