บช.น.แถลงสถานการณ์ชุมนุม #ม็อบ 7 ตุลา - เผยเหตุยิงศีรษะ คฝ. คฝ. คืนก่อน เป็นกระสุนจริงจากฝั่งตรงข้าม จนท. พร้อมติดตามสืบสวน-พิสูจน์พยานหลักฐานต่อไป

บช.น.แถลง

บช.น.แถลงสถานการณ์ชุมนุม #ม็อบ 7 ตุลา - เผยเหตุยิงศีรษะ คฝ. คฝ. คืนก่อน เป็นกระสุนจริงจากฝั่งตรงข้าม จนท. พร้อมติดตามสืบสวน-พิสูจน์พยานหลักฐานต่อไป





ad1

บช.น.แถลงสถานการณ์ชุมนุม #ม็อบ 7 ตุลา เผยเหตุยิงศีรษะ คฝ. คืนก่อน เป็นกระสุนจริงจากฝั่งตรงข้าม จนท. พร้อมติดตามสืบสวน-พิสูจน์พยานหลักฐานต่อไป

วันนี้ (7 ต.ค. 64) เวลา 10:52 น. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. ในฐานะโฆษก บช.น. และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก ตร. แถลงข่าวสถานการณ์การชุมนุมประจำวัน และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน (6 ต.ค. 64) ซึ่งเป็นการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ตำรวจกองร้อยชุดควบคุมฝูงชน ทั้งยังจับกุมผู้ก่อความไม่สงบทั้งสิ้น 28 ราย ทั้งยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกยิงเข้าที่ศีรษะ นำตัวรักษาที่ รพ.ตำรวจ

พล.ต.ต.จิรสันต์ เปิดเผยข้อมูลสถานการณ์เกี่ยวกับการชุมนุมตลอดวันนี้ ทั้งสิ้น 3 กลุ่ม ได้แก่

1. กลุ่มพลเมืองโต้กลับ นัดหมายชุมนุม ด้านหน้าศาลฎีกา เวลา 17:00 น.

2. เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิของประชาชน นัดหมายชุมนุม ด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล ประตู 3 เวลา 09:00 น. เพื่อยื่นหนังสือกับผู้แทนของทำเนียบรัฐบาล และกระทบการจราจร ถ.พิษณุโลก จำนวน 1 ช่องทาง

3. กลุ่มทะลุแก๊ส นัดหมายชุมนุม บริเวณแยกใต้ด่วนดินแดง ตั้งแต่เวลา 17:30 น. คาดว่ามีการก่อความไม่สงบ ก่อความวุ่นวาย และเคลื่อนที่ไปบริเวณใกล้เคียง

การดำเนินการเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย ผบช.น. จัดเตรียมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ และมอบหมายผู้รับผิดชอบแต่ละพื้นที่แล้ว พร้อมเน้นย้ำให้ จนท.ทุกฝ่ายปฏิบัติภายใต้กรอบกฎหมาย เพื่อความสงบและปลอดภัยของประชาชนมากที่สุด

สำหรับรอบวันที่ผ่านมามีการชุมนุมรวมกัน 3 กลุ่ม ได้แก่

1. กลุ่มพลเมืองโต้กลับ ด้านหน้าศาลฎีกา ถนนอัษฎางค์ การชุมนุมเป็นไปด้วยความสงบ ไม่มีเหตุวุ่นวาย

2. กิจกรรม 45 ปี 6 ตุลา ม.ธรรมศาสตร์ มีภาคเช้า ร่วมกิจกรรมประมาณ 200 คน เริ่มเวลา 06:00-11:00 น. ช่วงบ่ายมีประมาณ 150 คน เวลา 16:00-19:35 น. ระหว่างชุมนุมช่วงภาคบ่าย มีการจุดไฟเผาศพจำลองบริเวณสนามฟุตบอล แต่ไม่เกิดความวุ่นวายหรือกระทบเสียหายต่อสถานที่ราชการ

3. ทะลุแก๊ส รวมตัวในเวลา 19:30 น. ที่แยกมิตรไมตรี 2 เริ่มใช้ประทัด พลุไฟ ขว้างปา จนท. จนกระทั่ง 20:00 น. เศษ เริ่มจุดไฟเผายางบริเวณแยกใต้ด่วนดินแดง 22:30 น. จนท.เข้าควบคุมพื้นที่ ปฏิบัติการสลายความไม่สงบ ทำให้ผู้ก่อความไม่สงบหนีเข้าไปแฟลตดินแดงและซอยต้นโพธิ์ 

ระหว่าง จนท.ติดตามจับกุม ส.ต.ต.เดชวิทย์ ลิทเทนสัน ถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่ขมับซ้าย ทะลุหมวกกันน็อค จนท.นำตัวส่งโรงพยาบาลผ่าตัดนำกระสุนปืนเสร็จสิ้นแล้ว พบว่าเป็นกระสุนทองแดง อาการอยู่ระหว่างเฝ้าระวังการติดเชื้อในสมอง ที่ รพ.ตำรวจ ต้องใช้ท่อช่วยหายใจ ทาง ผบ.ตร และ ผบช.น. กำชับ รพ.ตำรวจ และ ผผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น ให้ติดตามการรักษา และช่วยเหลือสวัสดิการต่าง ๆ อย่างเต็มที่ 

ส่วนการสืบสวนติดตามดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาอยู่ระหว่างการรวบรวมและตรวจพิสูจน์พยานหลักฐาน โดยวิถีกระสุนมาจากฝั่งตรงกันข้ามกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ย้ำว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนไม่ได้พกพาอาวุธจริง มีความเชี่ยวชาญการปฏิบัติการ จึงไม่น่าเป็นไปได้ที่จะมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่างไรก็ตามก็รับฟังทุกข้อคิดเห็น

"เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บนั้น เป็นลูกครึ่งไทย-เบลเยี่ยม มีความฝันอยากเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์แต่เด็ก เขาเป็นกำลังสำคัญของครอบครัว เหตุการณ์เมื่อคืนเป็นการแสดงจุดยืนของผู้ก่อความไม่สงบอย่างชัดเจน จากนี้เจ้าหน้าที่จึงต้องปรับแผนปฏิบัติการกันต่อไป" พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าว

พล.ต.ต.จิรสันต์ แถลงถึงสถานการณ์ที่ดินแดงต่อไปว่า สำหรับในส่วนของฝั่งผู้ก่อความไม่สงบ บางส่วนที่ถูกจับกุมมาก็ยอมรับกับ ผบช.น. ว่ามีการพกพาอาวุธปืนจริง ตลอดจนการปฏิบัติการเมื่อคืน พบว่าผู้ก่อความไม่สงบมีการเปลี่ยนยุทธวิธี คือดักเจ้าหน้าที่อยู่จุดต่าง ๆ พร้อมพกพาอาวุธ หรือแต่งกายเป็นชุดปฐมพยาบาล หรือหลบหนีไปยังผู้อยู่อาศัยในแฟลตดินแดง แยกใต้ด่วนดินแดงจึงเป็นการชุมนุมที่ไม่สงบและไม่ได้ปราศจากอาวุธ ถือเป็นผู้ก่ออาชญากรรมประเภทหนึ่ง มีอาวุธปืนและระเบิดร้ายแรง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องเข้าดำเนินการ จึงต้องดำเนินการเคร่งครัดเพื่อติดตามจับกุมอย่างรวดเร็ว

ในการดำเนินการแยกใต้ด่วนดินแดง จนท. สามารถติดตามจับกุมได้ 28 คน เป็นผู้ใหญ่ 25 คน เยาวชน 3 คน อยู่ระหว่างการดำเนินคดีทั้งสิ้น 20 คดี

ขณะนี้ในภาพรวม บช.น. มีคดีเกี่ยวกับการชุมนุม 620 คดี พงส. สั่งฟ้องแล้ว 278 คดี อยู่ระหว่างการสอบสวน 342 คดี

สำหรับการบริหารจัดการจราจรจากการชุมนุมในวันนี้

1. เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน หน้าทำเนียบรัฐบาล กระทบ ถ.พิษณุโลก ขอให้พี่น้องประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทาง

2. ทะลุแก๊ส ถ.อโศก-ดินแดง ถ.วิภาวดีรังสิต ขาเข้า-ขาออก ซ.พหลโยธิน 2 ถ.ลงด่วนดินแดง และอุโมงค์ดินแดง

บช.น. มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่พักอาศัยและเดินทางผ่านในบริเวณดังกล่าว เหตุการณ์เมื่อคืนตอกย้ำว่าผู้ก่อความไม่สงบใช้อาวุธปืนจริง จึงเดือดร้อนทั้งเจ้าหน้าที่และประชาชน จึงย้ำเตือนไม่ให้ประชาชนที่พักอาศัยอยู่บริเวณดังกล่าวออกมานอกเคหสถาน และที่สัญจรให้หลีกเลี่ยงเส้นทาง 

หากพบเบาะแสผู้กระทำผิด ให้แจ้ง 191 ทั้งยังเน้นย้ำว่าพื้นที่กรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด การชุมนุมจึงมีความผิดตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ และ พ.ร.บ. โรคติดต่อฯ