“สนธิญา”พร้อมครอบครัวสาว 19 ร้องกองปราบคุ้มครอง หลังถูกเจ้าหนี้ดอกเบี้ยโหด ตั้งค่าหัวล่าตัว

สนธิญาพาครอบครัวสาว 19 ร้องกองปราบ

“สนธิญา”พร้อมครอบครัวสาว 19 ร้องกองปราบคุ้มครอง หลังถูกเจ้าหนี้ดอกเบี้ยโหด ตั้งค่าหัวล่าตัว





ad1

วันนี้ (3 พ.ย.64) เวลา 10:00 น. ที่กองบังคับการปราบปราม นายสนธิญา สวัสดี ที่ปรึกษากรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร พาน.ส.ก้อย เด็กนักเรียน 19 ปี พร้อมครอบครัวผู้เสียหาย จากจังหวัดสกลนครมาขอการคุ้มครองจากเจ้าหน้าที่กองปราบกรณีถูกแก๊งทวงหนี้ออกเงินกู้นอกระบบ ให้นักเรียนมาลงทุนซื้อเนื้อหมูจำหน่ายช่วยเหลือครอบครัวในช่วงโควิด-19 ระบาด โดยมีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 20 ผ่านไป 1 เดือนหนี้ท่วมเป็น 1.9 ล้านบาท จนต้องหนีมาหาแม่ให้ช่วยหลังโดนขู่ทำร้ายหากไม่ใช้หนี้ 

นางสาวก้อย เล่าจุดประสงค์ของการกู้คือจะนำเงินมาลงทุนขายหมู ยืนยันว่าไม่ได้นำมาเล่นการพนัน โดยกู้เงินครั้งแรกเป็นจำนวนเงิน 5 พันบาท ดอกร้อยละ 20 ซึ่งมีกำหนดคืนเงินภายใน 5 วัน เป็นจำนวนเงิน 6 พันบาทรวมทั้งต้นและดอกเบี้ย โดยไม่ได้ร่างหนังสือสัญญากู้ยืมเป็นลายลักษณ์อักษรแต่อย่างใด ต่อมานางสาวก้อยไม่สามารถหาเงินมาคืนเจ้าหนี้ได้ตามกำหนด จึงไปกู้ยืมเงินจากเจ้าอื่นๆ มาคืนเจ้าแรก กระทั่งเวลาผ่านไปหนึ่งเดือนนางสาวก้อยได้กู้ยืมเงินจำนวน 10 เจ้าเพื่อมาหมุนเงินคืนเงินต้นและดอกของเจ้าก่อนหน้าที่ยืมไปจนครบ 10 เจ้า โดยมียอดหนี้รวมคือ 1.9 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยแล้วอยู่ที่ประมาณ 2-3 ล้านบาท จากนั้นทางเจ้าหนี้ได้รวมตัวกันข่มขู่คุกคามเพื่อทวงหนี้อย่างต่อเนื่อง จนทำให้ตาเครียดถึงขั้นคิดสั้นฆ่าตัวตาย จึงตัดสินใจบอกแม่ในที่สุด

ขณะที่แม่ของผู้เสียหายระบุว่า ตอนนี้ครอบครัวทำมาหากินต่อไม่ได้ ยืนยันไม่ได้หนีหนี้ ยินยอมจ่ายหนี้ตามดอกเบี้ยที่กฎหมายกำหนด แต่ตอนนี้แค่ต้องการความปลอดภัยเนื่องจากครอบครัวถูกเจ้าหนี้ข่มขู่และมีการนำภาพของลูกสาวโพสต์ตามล่าตัวบนสื่อโซเชียลมีเดีย พร้อมกับตั้งรางวัล 1 หมื่นบาทให้กับคนที่สามารถแจ้งเบาะแสของลูกสาวได้ 

ทั้งนี้สนธิญา สวัสดี ระบุว่าจุดประสงค์ที่มาร้องกองปราบในวันนี้คือต้องการความเป็นธรรมที่แท้จริง เนื่องจากนางสาวก้อยไม่ได้หนีหนี้ และจากการตรวจสอบสเตจเมนท์เงินในบัญชีย้อนหลัง 4 เดือน มีเงินหมุนเวียนอยู่เกือบ 10 ล้าน โดยมียอดเงินเข้าออกในการกู้เงินและจ่ายหนี้อย่างชัดเจน จนล่าสุดมียอดหนี้ที่เป็นเงินต้นอยู่ที่ 1.9 ล้านบาทในระยะเวลา 5 เดือน โดยนางสาวก้อยกำลังศึกษาอยู่ชั้น ปวส. โรงเรียนกำลังจะเปิดเรียนในวันที่ 8 พ.ย. 64 นี้ ก็มีการทวงถามถึงการกู้ยืมเงิน กยศ. ของนางสาวก้อย ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่กล้ากลับไปโรงเรียนเพราะกลัวว่าจะถูกข่มขู่คุกคามอีก วันนี้จึงมาขอความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่กองปราบเพื่อรับประกันว่านางสาวก้อย และครอบครัวจะเดินทางกลับสกลนครได้อย่างปลอดภัย