ฝากขังพระพี่เลี้ยงตีสามเณรเสียชีวิต ขณะที่แม่เณรเปิดใจ พระพี่เลี้ยงตีสามเณรจนเสียชีวิตยังเป็นคนอยู่ไหม  

ฝากขังพระพี่เลี้ยงตีสามเณรเสียชีวิต

ฝากขังพระพี่เลี้ยงตีสามเณรเสียชีวิต ขณะที่แม่เณรเปิดใจ พระพี่เลี้ยงตีสามเณรจนเสียชีวิตยังเป็นคนอยู่ไหม  





ad1


วานนี้วันที่  2 ก.ค. 65  ร.ต.อ.ชุกรี ปะดุกา   ร้อยเวร สภ.เขาดิน อ.โพธาราม  จ.ราชบุรี  ได้นำตัวนายอรรถพล    เพ็งเลา  อายุ  30  ปี  ฝากขังต่อศาล จ.ราชบุรี  ในข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ชีวิต   พยายามฆ่าและฆ่า  โดยใช้อาวุธ   ส่วนข้อหาเสพยาเสพติดนั้นต้องรอผลที่เป็นทางการ  แม้ว่าผู้ต้องหาจะยอมรับสารภาพว่าเสพยาเสพติด  หลังนายอรรถพล  ซึ่งเป็นอดีตพระพี่เลี้ยงสามเณรภูพกานจน์   ศรีเมือง  อายุ 9 ปี  ในช่วงที่ยังบวชอยู่ได้ใช้ด้ามตาลปัตรตีเณรจนเสียชีวิต  ภายในวัดเขาช่องพราน ต.เตาปูน  อ.โพธาราม  ซึ่งเป็นวัดที่มีค้างคาวร้อยล้าน เป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังตามคำขวัญของ  จ.ราชบุรี   เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 1 ก.ค.65  ที่ผ่านมา   โดยนายอรรถพล  อ้างว่า สามเณรดื้อ และสวดมนต์ไม่ได้  ประกอบกับพี่พระเลี้ยงได้เสพยาเสพติดเข้าไปทำให้ก่อเหตุดังกล่าว
.  
ด้านนางสาวลลิตา   พันธุ์เกิด   แม่บุญธรรมของเณรที่เสียชีวิต  เปิดเผยว่า พอรู้ข่าวก็ตกใจไม่คิดว่าจะเป็นลูกตัวเอง  ในช่วงที่บวชเณรนั้นไม่ค่อยได้คุยกับลูก  แต่จะเป็นพ่อของเณรที่ได้คุยกับลูกเพราะตนเองไม่รู้จะใช้คำอย่างไรกับพระ  ซึ่งก็ได้แค่ถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง  สามเณรได้แค่ยิ้ม ซึ่งในช่วงที่บวชก็ไม่เคยมาฟ้องหรือมาบอกอะไร   
.
ถ้ารู้ว่าลูกถูกกระทำแบบนี้จะไม่ให้อยู่แน่นอน  เณรไม่เคยร้องที่จะสึกเลยมีแต่อยากจะบวช  ซึ่งก็อยากให้สึก แต่ลูกไม่สึก ลูกยังเรียน ป.4   ทุกวันก็ยังไปเรียนอยู่  โดยพระพี่เลี้ยงไปส่งหลังจากกลับจากบิณฑบาต  ในช่วงแรกไม่รู้จักกับพระพี่เลี้ยงคนนี้ แต่มารู้ตอนหลังว่าเป็นเพื่อนกับสามี  ซึ่งก็เห็นว่าเขารักลูกเหมือนลูก   พอมาเจอกับการกระทำแบบนี้  ก็อยากจะถามว่ายังเป็นคนอยู่ไหม หมดคำพูดกับคนคนนี้  
.
สูญเสียลูกไม่มีโอกาสได้ลูกกลับมาอีกแล้ว  ร่องรอยที่พบตามตัวลูกต้องตีขนาดไหน  ซึ่งจะมีรอยเขียวช้ำขนาดนั้น  เราตีลูกยังรู้สึกเจ็บ   และตั้งแต่เลี้ยงเณรมาตั้งแต่เล็ก  เณรไม่เคยดื้อเลยเป็นเด็กน่ารัก  ไม่ใช่เด็กก้าวร้าว  ทุกคนรักเณรหมด    ส่วนศพก็ตั้งใจว่าจะสวด 3 คืน และจะเผาในวันจันทร์  
.
        ส่วนนางพร  ปิ่นช้อย   ชาวบ้านที่มาทำบุญที่วัดเป็นประจำ   กล่าวว่า ประมาณ 05.00 น. ของทุกวันจะมีชาวบ้านอีกคนเอารถมารับพระพี่เลี้ยงกับลูกเณรไปบิณฑบาตร  แต่ในวันเกิดเหตุทั้งพระพี่เลี้ยงและเณรไม่ออกมา  จึงได้เดินไปตามในกุฎิก็ไปพบว่าเณรถูกทำร้าย  จึงได้บอกรองเจ้าอาวาสให้มาดูและแจ้งความดังกล่าว  ซึ่งตนมาทำบุญที่วัดก็จะเห็นลูกเณรทุกครั้ง เป็นเด็กน่ารัก และเห็นพระพี่เลี้ยงพาไปส่งโรงเรียนทุกวัน เหมือนพ่อไปส่งลูก   ไม่คิดว่าจะมาเกิดเหตุการณ์แบบนี้  ยอมรับว่าตกใจมาก และเสียดายเณร  ที่วัดแห่งนี้ไม่เคยเกิดเรื่องอะไรที่ร้ายๆอย่างนี้มาก่อน  ชาวบ้านที่รู้ข่าวก็บอกว่ากันว่า ตกใจมาก