ตร.เตรียมออกหมายเรียกป้าเป้า
ป้าเป้า
ตำรวจเตรียมออกหมายเรียก “ป้าเป้า” รับทราบข้อหา กระทำการอันควรขายหน้าต่อหน้าธารกำนัล กรณีเปลือยกายในการชุมนุมนางเลิ้ง เมื่อวานนี้ หลังจับผู้กระทำผิดไปแล้ว 9 คน ขณะที่ ดินแดง พบมีการเผารถตำรวจเสียหาย 8 คัน ตำรวจพอทราบผู้ก่อเหตุแล้ว
พลตำรวจตรี ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า วันนี้ ยังคงมีการนัดชุมนุมของกลุ่มทะลุฟ้า บริเวณแยกนางเลิ้ง ในเวลา 16.00 น. เพื่อจะเคลื่อนตัวไปทำเนียบรัฐบาล หลังจากเมื่อวานนี้ มีการชุมนุมบริเวณดังกล่าวเช่นกัน โดยมีการปิดการจราจร พยายามตัดรั้วลวดหนาม และพยายามฝ่าแนวกั้นของตำรวจ เพื่อจะไปทำเนียบรัฐบาล เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องเข้าควบคุมสถานการณ์ และมีการจับกุมผู้กระทำผิด 9 คน ในข้อหา สมคบกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมือง, ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และ พ.ร.บ.ควบคุมโรคฯ // ส่วนกรณีที่ นางวรวรรณ แซ่อั้ง หรือป้าเป้า เปลื้องผ้าเปลือยต่อหน้าแนวตำรวจนั้น ตำรวจอยู่ระหว่างเตรียมออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อหา ตามมาตรา 388 ผู้ใดกระทำการอันควรขายหน้าต่อหน้าธารกำนัล โดยเปลือยหรือเปิดเผยร่างกาย หรือกระทำการลามกอย่างอื่น ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าพันบาท
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มทะลุแก๊สจำนวนหนึ่ง รวมตัวปิดถนนมิตรไมตรี ใกล้แยกดินแดง จุดเพลิง เผาสถานที่ต่าง ๆ ขว้างปาพลุเพลิงใส่ตำรวจที่เข้าบังคับใช้กฎหมาย และปาระเบิดเพลิงใส่รถตำรวจ ได้รับความเสียหายรวม 8 คัน ในจำนวนนี้ มี 2 คัน ได้รับความเสียหายทั้งคัน ส่วนอีก 1 คัน เสียหายบางส่วน ซึ่งฝ่ายสืบสวน อยู่ระหว่างสืบหาพยานหลักฐาน โดยพอรู้ตัวผู้กระทำผิด เบื้องต้น 15-20 คน
รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ประเมินว่า
จากนี้ แนวโน้มการชุมนุม อาจเกิด 2 จุด คือบริเวณแยกนางเลิ้ง และดินแดง แต่จำนวนผู้ชุมนุมไม่มาก คาดอีกไม่กี่วัน จะมีการใช้มาตรการทางกฎหมายให้เข้มข้นมากขึ้น หลังมีการประสานหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมอื่น ๆ แล้ว ควบคู่กับการปรับยุทธวิธีให้เข้ากับสถานการณ์ชุมนุมอย่างต่อเนื่อง โดย พลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ให้คำแนะนำกับพลตำรวจตรีสำราญ นวลมา ว่าที่ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลคนใหม่ เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่เป็นไปอย่างเข้มแข็ง ต่อเนื่อง และยืนยันว่า ตำรวจสามารถควบคุมได้ ยังไม่จำเป็นต้องขอกำลังทหารเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ถึง ปัจจุบัน มีคดีที่เกี่ยวกับการชุมนุม 236 คดี มีผู้อยู่ในข่ายจะต้องถูกดำเนินคดี 878 คน สามารถจับได้แล้ว 633 คน