“นฤมล”พลิกชีวิตมุ่งสู่ไร่ “ปลูกดาวเรือง” ดอกไม้ทำเงินแห่งอ.น้ำหนาว


ความขยัน มุ่งมั่น ตั้งใจ คิดทำสิ่งใด จะนำพาสู่ความสำเร็จ จนกลายเป็นกุญแจชีวิตของผู้หญิงเก่งวันนี้ “นฤมล สีหะวงศ์” อดีตนางพยาบาล โรงพยายามรัฐแห่งหนึ่งในภาคเหนือตอนบน เธอเรียนจบมาทางสายพยาบาลศาสตร์ จากวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีพุทธชินราช จ.พิษณุโลก จากนั้นได้ทำงานใช้ทุน 6 ปี ชีวิตอยู่ในอาชีพนางพยาบาล ดูแลผู้ป่วยมานานร่วม 30 ปี เคยทำงานห้องไอซียู ถือว่าเป็นคนเรียนเก่ง จากนั้นได้ทำงาน รพ.เอกชน จ.พิจิตร ยังร่วมงานเป็นที่ปรึกษานายแพทย์ควบคู่ไปด้วย
จนชีวิตพลิกพลันอยากหันมาเป็นนักธุรกิจ จึงตัดสินใจลาออกมาทำงานเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง โดยที่ไม่ใช่เส้นทางที่ร่ำเรียนมาจากสายงานโดยตรง แต่อาศัยความขยัน มุ่งมั่น ศึกษาเรียนรู้วิชานอกห้องเรียน จากประสบการณ์ จนสามารถเขียนแบบแปลน และถอดแบบก่อสร้าง ประเมินราคางานก่อสร้างได้ ซึ่งยึดอาชีพผู้รับเหมามาได้ร่วม 10 ปีแบบเหลือชื่อ
กระทั่งมาเจอพิษเศรษฐกิจถดถอย ยุคนั้นงานก่อสร้างเริ่มลดน้อยลง ถ้ายังเดินหน้าทำอาชีพรับเหมา อาจมีความเสี่ยงได้ จึงตัดสินใจหันหน้ามาเป็นชาวสวน ทำอาชีพเกษตรกร ด้วยการทดลองปลูกดอกดาวเรืองขาย เพราะมองเห็นว่า แนวโน้มดอกดาวเรือง น่าจะเป็นดอกไม้ที่สร้างรายได้ดี และยังมีความต้องการตลาดอย่างต่อเนื่อง
นฤมล เล่าว่า ก่อนที่จะก้าวมาจับจอบ ขุดดิน พรวนดิน ใส่ปุ๋ย ในการทำสวนดอกไม้นั้น ได้ไปฝึกอบรมเรียนรู้ การปลูกไม้ดอกมาระยหนึ่ง จนทำให้มีองค์ความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมา ครั้งแรกทดลองปลูกบนเนื้อที่ 2 ไร่ อ.น้ำหวาน จ.เพชรบูรณ์ เริ่มมีผลตอบรับที่ดี และเริ่มมีกำลังใจที่จะหันมายึดอาชีพเกษตรกรได้อย่างเต็มตัว
เพราะบริเวณพื้นที่ดาวเรือง เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร นักท่องเที่ยวมาชมสวนดอกดาวเรือง ที่ออกดอกเหลืองอร่าม สวยงาม นักท่องเที่ยวเกิดความชอบอยากถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก และอยากได้ดอกดาวเรืองไปประดับ สามารถขายนักท่องเที่ยวได้ช่อละ 20 บาทเริ่มเห็นช่องทางการสร้างรายได้ แต่ส่วนใหญ่ดอกดาวเรือง จะตัดขายส่งแม่ค้าใกล้บ้านที่มารับซื้อตามสวนดอกไม้ เมื่อช่วง 10 กว่าปีก่อน ขายกันดอกละ 70 สตางค์
ปัจจุบันราคาดีขึ้น ตามต้นทุนค่าปุ๋ย ค่าคนดูแล ส่วนช่วงที่ดอกดาวเรืองขายได้ราคาสูง เดือนมีนาคม- เมษายน จะเริ่มขาดตลาด เนื่องจากเกษตรกรปลูกดอกไม้ จะหันไปเก็บเกี่ยวข้าว จะเว้นวรรคไปพักหนึ่ง หลังจากหมดฤดูกาลเก็บเกี่ยว จะกลับมาปลูกกันอีกรอบ
“เกษตรกรหันมาทำสวนดอกไม้ ปลูกดอกดาวเรืองขาย จะใช้เวลา 50 กว่าวัน สามารถตัดดอกขายได้ จากที่เคยปลูก1 ไร่ สามารถปลูกดาวเรืองได้อย่างต่ำ 5 พันต้น ถ้าลงทุนทำขนาดแปลง 2 ไร่ สามารถขายได้เงินแสน ยิ่งใช้ระบบการปลูกแบบอินทรีย์ สามารถอยู่ได้ 3 เดือนต่อรอบ จากนั้นพื้นที่เพาะปลูกต้องเว้นวรรคไปสักระยะหนึ่ง เพื่อทำการปรับปรุงดินก่อน เกษตรกรไม่สามารถใช้พื้นที่เก่า ปลูกดาวเรืองรอบใหม่ได้ทันที” นฤมลกล่าว
สำหรับเรื่องการขายดอกดาวเรือง ถ้าหากเกษตรกรมีความจริงใจต่อแม่ค้า สร้างความเชื่อมั่น ว่าดอกไม้ที่ขายไปไม่มีการยัดไส้ คือมีทั้งดอกดีและดอกไม่ดีขายรวมกัน เพื่อให้ได้ราคานั้น คงอยู่ยากในตลาด แม่ค้ามารับซื้อแค่ครั้งเดียว รอบต่อไป อาจไม่กลับมาซื้อใหม่แน่ เพราะเขาขาดความมั่นใจ หรือเรียกกัน ยัดไส้ขายแม่ค้า
ยิ่งปัจจุบันความต้องการดอกดาวเรืองยังมีอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่สามารถที่ป้อนให้แม่ค้าได้ตามความต้องการ ซึ่งเกษตรต้องมีความจริงใจ คุณภาพดอกไม้ด้วยระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย ถ้าเขามีความมั่นใจดอกไม้ในสวนของเรา จะไม่หนีไปซื้อกับคนอื่นแน่นอน
ทั้งนี้ ดอกดาวเรือง สามารถนำไปแปรรูปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ทั้งเป็นอาหาร ซุปแป้งทอดก็ได้ นำมาทำชา ดอกไม้ และ กาแฟผสมดอกดาวเรือง แต่เกษตรกรจะต้องหันมาปลูกแบบอินทรีย์ ลดการใช้สารเคมีให้มากที่สุดในการเพาะปลูก บำรุงรักษา เพราะว่าดอกเรือง เป็นแหล่งอาหารของพวกหนอน เพลี้ย แมลงคอยมาทำลาย บางคนเคยโดนกินทั้งสวน จนกลายเป็นปัญหาให้เกษตรกรผู้ปลูกดอกไม้ได้ หากขาดความรู้เรื่องเกษตร
วันนี้ ยังมุ่งมั่นทำสวนดอกดาวเรือง สร้างอาชีพใหม่ และยังเป็นหนึ่งสมาชิก SY 59 ( บ.ทรัพย์ยั่งยืน เอ็นเตอร์ไพร์ส 59) พร้อมทิ้งท้ายไว้น่าสนใจ การทำเกษตรกร ถ้ามีความรู้ มีความขยัน และซื่อสัตย์ สามารสร้างงาน สร้างอาชีพได้ไม่ยาก