อดใจไม่ไหว!คลุมไอ้โม่งบุกเข้าบ้านชิงทอง 2 บาทแต่ไปไม่รอด


เจ้าหน้าทีตำรวจได้รับแจ้งจากวิทยุ สภ.เบตง ว่ามีเหตุคนร้ายได้ชิงทรัพย์ที่บ้านเลขที่ 1/2 ถ.กุนุงจนอง 1 ต.เบตง อ.เบตง จ.ยะลา จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบ นางกัลยา ปินตียูโซะ อายุ 58 ปีที่อยู่ 1/2 ถ.กุนุงจนอง 1 ต.เบตง อ.เบตง จ.ยะลา สอบถามทราบว่าขณะที่อยู่ภายในบ้านเลขที่ 1/2 ถ.กุนุงจนอง 1 ต.เบตง อ.เบตง จ.ยะลา ที่เกิดเหตุ ได้มีคนร้ายเป็นชายไม่ทราบชื่อ สกุลจริง แต่งตัวกางเกงขายาวสีดำ เสื้อสีดำลักษณะมีไอโม่งหรือหมวกคลุมศีรษะปกปิดใบหน้า เข้ามาทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บ
จากนั้นได้ทำการชิงสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักประมาณ 2 บาท มูลค่าประมาณ 80,000 บาท ที่นางกัลยาฯ สวมใส่อยู่ แล้วหลบหนีไปบริเวณทางป่าหน้าบ้านที่เกิดเหตุ เมื่อทราบเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงได้ไปตรวจสอบตามเส้นทางหลบหนีและได้ทำการสืบสวนติดตามอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งจากการตรวจสอบตามเส้นทางหลบหนี พบ นายมัมดุห์ มะเละแซม(ทราบชื่อสกุลจริงภายหลัง) มีลักษณะการแต่งกายคล้ายกับคนร้ายที่ได้ชิงเอาทรัพย์ของนางกัลยาฯ ไป ซึ่งได้แอบอยู่บริเวณโพรงหญ้า ตรงข้ามโรงปูน (ใกล้บ้านที่เกิดเหตุ) ถ.กุนุงจนอง ต.เบตง อ.เบตง จ.ยะลา ท่าทางมีพิรุธต้องสงสัย จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ
นายมัมดุห์ มะเละแซม ให้การรับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ตนได้ก่อเหตุชิงทรัพย์ดังกล่าวจริงและได้ทิ้งทองคำ ของนางกัลยาฯ ไว้บริเวณโคนเสาไฟฟ้าข้างบ้านเลขที่ 99 หมู่บ้านตองเก้า และได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนไปตรวจยึด ของกลางลำดับที่ 1 และ 2 จึงได้ตรวจยึดของกลางไว้ทั้ง 2 รายการ
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้นายมัมดุห์ ฯ ทราบว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดฐาน “ชิงทรัพย์ในเคหะสถานโดยใช้กำลังประทุษร้ายเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายและทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย”