ทีเส็บ จัด CVTEC MICE BUSINESS ROADSHOW 2024 ดันการท่องเที่ยวคุณภาพสูง ประเดิมเส้นทางเดินเรือเชื่อม 3 ประเทศ

ทีเส็บ จัด CVTEC MICE BUSINESS ROADSHOW 2024  ดันการท่องเที่ยวคุณภาพสูง ประเดิมเส้นทางเดินเรือเชื่อม 3 ประเทศ





ad1

ทีเส็บ ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยพันธมิตรภาครัฐและเอกชนภายในจังหวัดตราด จัดกิจกรรม CVTEC MICE BUSINESS ROADSHOW 2024 ชิญหน่วยงานภาครัฐและ Potential Buyer จากกัมพูชาและเวียดนาม ร่วมเดินทางโดยเรือโดยสารจากท่าเรือสีหนุวิว – มายังท่าเทียบเรือคลองใหญ่ เพื่อประเดิมเส้นทางนำร่องสู่การเดินเรือเชื่อมโยงเส้นทางตราด - สีหนุวิว – ฟูก๊วก

ทั้งนี้ได้เชิญกลุ่มเป้าหมายกัมพูชาและเวียดนาม ร่วมทำกิจกรรมสร้างเครือข่ายและเจรจาจับคู่ทางธุรกิจกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวและไมซ์บนเกาะช้างและหมู่เกาะเชื่อมโยง เพื่อสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการได้เชื่อมโยงเครือข่ายการทำตลาดร่วมกันในรูปแบบ 1 Marketing 3 Destination รวมถึงเชิญผู้บริหารระดับสูงหน่วยงานภาครัฐกัมพูชาและเวียดนาม เข้าร่วมประชุมนานาชาติ CVTEC ในการหารือขอตกลงร่วมในการเดินเรือเชื่อมโยงชายฝั่งทะเล 3 ประเทศด้วย

กิจกรรม CVTEC MICE BUSINESS ROADSHOW 2024 จัดขึ้นเมื่อวันที่ 5-8 มิถุนายน 2567 ณ จังหวัดตราด โดยตัวแทนจากภาครัฐและเอกชนจากไทย เวียดนาม กัมพูชา รวมทั้งสื่อมวลชน ร่วมสำรวจเส้นทางและความพร้อมในจังหวัดตราด โดยได้เดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ อาทิ อ.คลองใหญ่ เกาะกูด เกาะหมาก เกาะช้าง และตัวเมืองตราด

ภายในเส้นทางนี้ผู้เข้าร่วมเส้นทาง ได้พบกับความงดงามของท้องทะเลและชายหาดอันเงียบสงบ ได้เข้าชมที่พัก และห้องประชุมต่าง ๆ พร้อมสัมผัสการท่องเที่ยววิถีชุมชน อาทิ การล่องเรือพื้นบ้านชุมชนบ้านสลักคอก นอกจากนั้นยังมีกิจกรรม Business Matching กับผู้ประกอบการ เพื่อนำไปสู่การออกแบบเส้นทางตามเป้าหมายของ CVTEC ต่อไป

นายภูริพันธ์ บุนนาค รองผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ สสปน. หรือ ทีเส็บ กล่าวว่า การจัดกิจกรรม CVTEC MICE BUSINESS ROADSHOW 2024 ในครั้งนี้ ทีเส็บได้เรียนเชิญ Potential Buyer จากกัมพูชาและเวียดนามที่มองเห็นโอกาสในการทำตลาดนักเดินทางคุณภาพและนักเดินทางไมซ์บนเส้นทางระเบียงชายฝั่งทะเล 3 ประเทศหรือ CVTEC กว่า 35 ราย ร่วมกิจกรรมเจรจาจับคู่ทางธุรกิจและสร้างเครือข่ายกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวและไมซ์บนเกาะช้างและหมู่เกาะเชื่อมโยง

นอกจากนี้กิจกรรมดังกล่าวยังเป็นเวทีการประชุมนานาชาติ CVTEC (Cambodia Vietnam Thailand Economic Corridor Cooperation Conference) เพื่อนำไปสู่ข้อตกลงร่วมในการเดินเรือเชื่อมโยงชายฝั่งทะเล 3 ประเทศ โดยมีผู้บริหารระดับสูงของจังหวัดและหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องของภาครัฐจากกัมพูชาเวียดนาม เข้าร่วมงานประชุมในครั้งนี้ ณ โรงแรมอัยยะปุระ เกาะช้าง ซึ่งถือเป็นโอกาสอันดีที่ประเทศไทยได้รับเกียรติในการเป็นเจ้าภาพ และมั่นใจว่าการประชุมครั้งนี้ จะนำไปสู่ข้อตกลงในการเดินเรือเชื่อมโยงร่วมกันได้สำเร็จอย่างแน่นอน ทั้งนี้ คาดว่าหากเกิดการเปิดเส้นทางเดินเรือดังกล่าวได้อย่างเต็มรูปแบบ จะมีรายได้เข้าจังหวัดตราดเพิ่มขึ้น ไม่น้อยกว่า 3,000 ล้านบาท / ปี

ด้าน นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เส้นทางท่องเที่ยวทางเรือถือเป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์ และเชื่อมันว่าหากเส้นทางนี้เปิด จะได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลาม ปัจจุบันเรามีท่าเทียบเรือคลองใหญ่ที่สร้างเสร็จมานาน หากเรานำท่าเรือตรงนี้มาต่อยอดทางการท่องเที่ยวก่อนในเบื้องต้น ถือเป็นเรื่องดีและควรเร่งดำเนินการ

สำหรับการทำตลาดในรูปแบบ 1 Marketing 3 Destination บนเส้นทาง CVTEC นั้น นอกจากจะทำให้เกิดความร่วมมือในด้านการท่องเที่ยวร่วมกันของ 3 ประเทศแล้ว ยังนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศ ทำให้เกิดโอกาสในการต่อยอดทางธุรกิจอื่นๆที่เป็นประโยชน์ร่วมกันในอนาคตอีกด้วย “ในอนาคตเราอาจได้มีโอกาสสัมผัสประสบการณ์ 3 ประเทศในหนึ่งวัน เช่น “ทานอาหารเช้าดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ตราด ทานกลางวันที่สีหนุวิว และมื้อเย็นดูพระอาทิตย์ตกดินที่ฟูก๊วก” คุณชำนาญกล่าวทิ้งท้าย

ด้าน นายณัฐพงษ์ สงวนจิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวว่า จังหวัดตราดถือเป็นจังหวัดที่เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอันดับต้นๆของไทยอยู่แล้ว การที่จังหวัดยกระดับการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวเชื่อมโยงหมู่เกาะช้างกับจังหวัดสีหนุวิวและฟูก๊วก ผ่านเส้นทางเดินเรือเส้นทาง CVTEC นั้นถือเป็นโอกาสในการเพิ่มยอดนักเดินทาง โดยคาดว่าหากการตกลงร่วมกันสำเร็จ และสามารถเปิดเส้นทางเชื่อมโยง 3 ประเทศได้ จะทำรายได้จากการทองเที่ยวของจังหวัดตราดเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 30 %

ด้านรองผู้ว่าราชการจังหวัดพระสีหนุ MR. ลอง ไดเมนเช่ กล่าวว่า การประชุม CVTEC ในครั้ง นี้ จึงมั่นใจว่าจะนำไปสู่ความเห็นร่วมกันเพื่อเกิดการเดินเรือรอบปฐมฤกษ์ได้สำเร็จอย่างแน่นอนในเร็วๆนี้  นอกจากนี้ ยังกล่าวเสริมเพิ่มเติมว่า แม้ธรรมชาติทางทะเลของกัมพูชาจะมีความเป็นธรรมชาติสูง แต่การบริหารจัดการสถานที่ท่องเที่ยวในพื้นที่เกาะช้าง จะเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการจาก 2 ประเทศจะได้ถ่ายทอดองค์ความรู้ร่วมกันได้เป็นอย่างดี

ด้านรองผู้ว่าราชการจังหวัดกาเมา Mr. เหวียน มิน ลูน กล่าวว่า กัมพูชาและเวียดนาม มีการเดินเรือเพื่อการท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างกันอยู่แล้ว ดังนั้น หากการประชุมในครั้งนี้นำไปสู่ความสำเร็จ ก็จะเป็นโอกาสอันดีในการเชื่อมโยงให้นักเดินทางคุณภาพชาวกัมพูชา เวียดนาม รวมถึงนักเดินทางคุณภาพจากต่างประเทศ ได้มีโอกาสเดินทางมาสัมผัสประสบการณ์การเดินทางทางทะเลมายังประเทศไทย เกิดเป็นการเดินทางเชื่อมเส้นทาง 3 ประเทศ ซึ่งถือเป็นเส้นทางที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง