กกต.พิจิตร จัดเผยแพร่ให้ความรู้ว่าที่ผู้สมัครสว.เกือบ 200 คนมีเสียงซุบซิบบ้านใหญ่ค่ายนักการเมืองเกณฑ์คนสมัครฮั้วคะแนน
นายอมร รัชตังกูร ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดพิจิตร ได้จัดโครงการบูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วนซึ่งเป็นกิจกรรมเผยแพร่ความรู้การดำเนินการให้ได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา หรือ สว. โดยจัดขึ้นที่ห้องประชุม CK Hall อำเภอเมืองพิจิตร โดยมีบุคคลจากหลากหลายอาชีพรวมแล้วเกือบ 200 คน ที่เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ โดย กกต.พิจิตร ได้แจกคู่มือสำหรับผู้สมัครรับเลือกเป็น สว.พร้อมทั้ง จัดวิทยากรให้ความรู้กับผู้ที่สนใจจะสมัครรับเลือกเป็น สว.
และเปิดโอกาสให้ตั้งคำถามและตอบข้อสงสัยต่างๆ ซึ่งผู้เข้ารับการประชุมในครั้งนี้ส่วนมากก็จะถามในเรื่องคุณสมบัติ , ลักษณะต้องห้าม ซึ่งมีลักษณะต้องห้ามมากถึง 26 หัวข้อ ที่ต้องแปลความหมายหรือต้องหยิบยกข้อวินิจฉัย ข้อหารือ หรือคำพิพากษามาอธิบายให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้เข้าใจทั้งนี้เพื่อว่าเมื่อถึงวันยื่นเอกสารการสมัครจะได้ไม่เกิดข้อผิดพลาดหรือเป็นเหตุให้ต้องถูกเพิกถอนสิทธิ์ภายหลังจากสมัครไปแล้ว
สำหรับการยื่นเอกสารสมัครรับเลือก สว. ในแบบที่ผู้สมัครเลือกกันเองจาก 20 กลุ่มอาชีพ คระกรรมการการเลือกตั้งได้ประกาศกำหนดวันรับสมัครรับเลือกสมาชิกวุฒิสภา หรือ สว.ตั้งแต่วันที่ 20-24 พ.ค. 67 ซึ่งสามารถสมัครได้ที่อำเภอของตนเองที่มีความประสงค์และมีสิทธิ์สมัคร ชำระค่าสมัครเป็นเงินสด , แคชเชียร์เช็ค หรือ ตั๋วแลกเงิน เท่านั้น โดยการจัดกิจกรรมของ กกต.พิจิตร ในครั้งนี้ นายอดิเทพ กมลเวชช์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าในส่วนของจังหวัดพิจิตรขณะนี้มีกระแสข่าวลือว่ามีค่ายการเมืองจากผู้มีอิทธิพลในพื้นที่จะส่งคนในค่ายของตนเองจำนวนมากเพื่อลงสมัครแล้วให้ทำการโหวตให้กับคนของตนเอง ซึ่งเรื่องดังกล่าวทำให้ผู้ที่สนใจจะสมัครและผู้ที่รักประชาธิปไตยต่างวิตกกังวลว่าสุดท้ายการเลือก สว.แบบเลือกกันเองใน 20 กลุ่ม ไขว้กันไปมาจากระดับอำเภอและระดับจังหวัดอาจจะมีการซื้อเสียง ซึ่งเรื่องดังกล่าวนี้ทำให้หลายคนที่สนใจจะสมัครต่างมีความรู้สึกท้อแท้เกรงว่าจะไม่โปร่งใส แต่หลายคนก็ไม่หวาดหวั่นเพราะเชื่อมั่นว่าถ้าเห็นตัวเห็นหน้าของผู้สมัครที่มาจากค่ายหรือกลุ่มผู้มีอิทธิพลทางการเมืองและการเงินก็น่าจะรู้ว่าเป้าหมายหวยล็อคคือใคร
แถมมีการวางแผนล่อซื้อตลบหลังกันเอาไว้ด้วยแล้วเช่นกัน ซึ่งหลังจากนั้นก็คงจะต้องเป็นหน้าที่ของผู้ที่เกี่ยวข้องที่จะต้องหาข่าวและข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการตามกฎหมายหากมีการฮั้วกันจริงๆ แต่ที่สำคัญว่าที่ผู้สมัคร สว. ทั้งหลายที่เป็นผู้บริสุทธิ์กลุ่มใหญ่จะต้องช่วยกันปกป้องให้คนดีได้เข้าไปทำหน้าที่ในสภาสมดังเจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญต่อไปให้จงได้
โดย...สิทธิพจน์ เกบุ้ย / พิจิตร /
