ตำรวจบุกรวบหนุ่มอเมริกาบังคับสาวค้ากามหนีกบดานไทย

ตำรวจบุกรวบหนุ่มอเมริกาบังคับสาวค้ากามหนีกบดานไทย





ad1

กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม., พ.ต.อ.กรีธา ตันคณารัตน์,พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์, พ.ต.อ.วุฒิชัย จันโทภาส, พ.ต.อ.ณรงค์ เทศวิบูลย์, พ.ต.อ.มารุต กาญจนขันธกุล,พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.ไตรรงค์ ชัยชนะ ประจำ (สบ5) ปฏิบัติราชการ บก.ปคม.,ว่าที่ พ.ต.อ.ก่อเกียรติ วุฒิจำนงค์ ผกก.1 บก.ปคม., พ.ต.ท.ชัยชนะ สุริยวงค์ รอง ผกก.(สอบสวน) กก.1 บก.ปคม., พ.ต.ท.นิติ ด่านไพบูลย์ และ พ.ต.ท.เอกรณการ นาคนิยม รอง ผกก.1 บก.ปคม. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปคม. ร่วมกันจับกุม Mr. Selva (นายเซลวา) อายุ 37 ปี สัญชาติ อเมริกัน ตามหมายจับของ ศาลอาญา ที่ 286/2567 ลงวันที่ 3 พ.ค.67 คดีหมายเลขดำที่ จผ6/2567 คดีหมายเลขแดงที่ จผ6/2567

โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน เจตนาทำร้ายผู้อื่นให้ได้รับอันตรายสาหัส ลักพาตัวโดยเจตนาโดยไตร่ตรองไว้ก่อน บังคับขู่เข็ญ บีบรัดคอ ใช้อาวุธโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ทำร้ายร่างกายซึ่งก่อให้เกิดการบาดเจ็บทางร่างกายแก่บุคคลอื่นโดยไม่สาหัส ค้ามนุษย์ทางเพศฯ สถานที่จับกุม คอนโดแห่งหนึ่ง ภายในซอย จึงเจริญพาณิชย์ แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย และเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางเอฟบีไอ ( Federal Bureau of Investigation; FBI ) ประสานมายังกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานอัยการสูงสุด แจ้งมายังตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เพื่อให้ทำการสืบสวนจับกุม Mr. Selva อายุ 37 ปี สัญชาติอเมริกัน ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาล District Court แห่งสหรัฐอเมริกาประจำเขตของรัฐออริกอน เพื่อให้ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปดำเนินคดียังประเทศสหรัฐอเมริกา ตามสนธิสัญญาว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างรัฐบาลแห่งสหรัฐอเมริกาและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยฯจากข้อมูลที่ได้รับมาจากสหรัฐอเมริกาแจ้งว่า Mr. Selva เป็นบุคคลสัญชาติอเมริกา เชื้อชาติเอเชีย

สูง 180 เซนติเมตร น้ำหนัก 90 กิโลกรัม มีลักษณะรูปร่างกำยำ มีพฤติกรรมชอบใช้ความรุนแรง ทำร้ายร่างกายผู้อื่น และมักจะใช้อาวุธในการกระทำความผิด อีกทั้งยังมีพฤติการณ์ลักพาตัว หลอกลวง บังคับ เหยื่อผู้เสียหายเพื่อไปกระทำชำเราทางเพศอีกจำนวนหลายคดี รวมไปถึงการแสวงหาประโยชน์จากการค้ามนุษย์ทางเพศอีกด้วย

นอกจากนี้ยังทราบว่า Mr. Selva มีประวัติการกระทำความผิดในประเทศสหรัฐอเมริกาอีกหลายคดี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพฤติการณ์เกี่ยวกับความรุนแรงทางเพศ และการทำร้ายร่างกาย ศาลประจำเขตของรัฐออริกอน ได้พิพากษาลงโทษในความผิดฐาน “ค้ามนุษย์ทางเพศโดยใช้กำลัง หลอกลวง และหรือบังคับ โดยมีโทษสูงสุดจำคุกตลอดชีวิต และโทษต่ำสุดจำคุกสิบห้าปี และการขนส่งเพื่อกิจกรรมทางเพศที่ผิดกฎหมาย โดยมีโทษจำคุกสูงสุดสิบปี” ซึ่งแยกเป็นประเภทความผิดดังนี้
1. เจตนาทำร้ายผู้อื่นรับอันตรายสาหัส (assault in the second degree) (ความผิดอาญาอุกฉกรรจ์ประเภท B)
2. การบีบคอ (strangulation) (ความผิดอุกฉกรรจ์ประเภท C)
3. เจตนาทำร้ายผู้อื่นรับอันตรายสาหัส (ความผิดอุกฉกรรจ์ประเภท B)
4. ลักพาตัวโดยเจตนาโดยไตร่ตรองไว้ก่อน (kidnapping in the first degree) (ความผิดอุกฉกรรจ์ประเภท A) จำนวน 4 คดี
5 การบังคับ (coercion) (ความผิดอุกฉกรรจ์ประเภท C)
6. การใช้อาวุธโดยมิชอบ (ความผิดอุกฉกรรจ์ประเภท C)
7. ทำร้ายร่างกาย ซึ่งก่อให้เกิดการบาดเจ็บทางร่างกายแก่บุคคลอื่นๆโดยไม่สาหัส (ความผิดลหุโทษประเภท A) จำนวน 2 คดี รวมทั้งสิ้น 11 กระทงความผิด

ต่อมา Mr. Selva ได้หลบหนีไม่ไปรายงานตัวตามคำพิพากษาของศาลฯ หลังจากได้ประกันตัวออกไปและได้หลบหนีเข้ามากบดานในประเทศไทยมานานกว่า 3 เดือน ต่อมาสำนักงานสอบสวนกลางเอฟบีไอ (Federal Bureau of Investigation: FBI ) ได้ประสานมายังตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เพื่อให้ทำการสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหารายนี้ และให้ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปดำเนินคดียังประเทศสหรัฐอเมริกาตามสนธิสัญญาว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดนฯ

เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์(กก.1 บก.ปคม.) ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้ทำการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมตัว Mr. Selva ซึ่งจากการสืบสวนวิเคราะห์พฤติกรรมการหลบหนีแล้ว น่าเชื่อว่า Mr. Selva รู้ตัวว่าตนเองนั้นถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมโดยตลอด มีการย้ายที่อยู่ไปยังโรงแรมหรืออพาร์ทเม้นต์ต่างๆ อยู่บ่อยครั้ง พักอาศัยในแต่ละที่เป็นระยะเวลาเพียง 1-4 วัน มักไปท่องเที่ยวตามสถานบันเทิงในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยตลอด อีกทั้งมักเข้าไปทำทีติดต่อพูดคุยกับหญิงไทยและต่างชาติ

และมีการนำผู้หญิงไปร่วมพักอาศัยด้วยอยู่หลายครั้ง จึงเป็นที่น่ากังวลว่า Mr. Selva อาจจะหวนก่อเหตุใช้ความรุนแรงทางเพศในรูปแบบเดิมที่เคยก่อเหตุในประเทศสหรัฐอเมริกา ซ้ำในประเทศไทยอีกครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เร่งรัดติดตามและสืบสวนอย่างใกล้ชิด เมื่อทราบที่กบดานเป็นที่แน่ชัดแล้ว จึงได้วางแผนและเข้าจับกุมได้ในคอนโดแห่งหนึ่ง ภายในซอย จึงเจริญพาณิชย์ แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพฯ ก่อนดำเนินการตามกฎหมายเพื่อเข้าสู่กระบวนการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกลับไปดำเนินคดียังประเทศสหรัฐอเมริกาโดยเร็วต่อไป