ตำรวจบุกรวบ"เต้ย บางโพ"โรคจิตข่มขืนเด็กผู้หญิงต่อเนื่อง

ตำรวจบุกรวบ"เต้ย บางโพ"โรคจิตข่มขืนเด็กผู้หญิงต่อเนื่อง





ad1

นักข่มขืนต่อเนื่องล่าเหยื่อในโลกออนไลน์แล้วตามสะกดรอยเด็กผู้หญิงอายุ 12-16 ปี ที่ “สวมชุดนักเรียน” ก่อนลงมือฉุดแล้วล่วงละเมิดทางเพศภัยร้ายบนโลกความจริงใจกลางเมืองกรุง 
.
ล่าสุดพบว่าพ้นโทษออกมาได้ก่อเหตุกับนักเรียนหญิงวัย 12 ปี ผู้การจ๋อ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ส่งชุดพระกาฬ ล่าตัวก่อนรวบตัวไอ้หื่นรายนี้ขยายผลเหยื่ออีกเพียบ แต่ถูกขู่ฆ่า เด็กสาวบางรายถูกบังคับให้ถ่ายคลิปการช่วยตัวเองเพื่อนำมาข่มขู่ในการจะชำเราครั้งต่อๆไปโดยไม่กล้าแจ้งความ

.ต่อมาเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 เจ้าหน้าที่สืบนครบาล สืบสวนติดตามจับกุมตัวนายวิษณุ  หรือเต้ย อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.149/2567 ลงวันที่ 9 ก.พ. 67 
.
โดยกล่าวหาว่า  “บุกรุกเคหสถาน , กระทำชำเราแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม” (พื้นที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ)
.
พบประวัติการถูกดำเนินคดี 3 คดี
ปี 2560 ถูกดำเนินคดีข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราฯ” พื้นที่ จ.นนทบุรี
ปี 2561 ถูกดำเนินคดีข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราฯ” พื้นที่ สน.สามเสน ผู้เสียหายเป็นเด็กผู้หญิงอายุ 16 ปี
ปี 2566 (คดีนี้)
.
โดยจับกุมตัวได้ที่ ภายในลิฟต์ คอนโดย่านเตาปูน ถ.กรุงเทพ-นนทบุรี แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ จ.กรุงเทพ
.
พฤติการณ์กล่าวคือ ตามล่า “มนุษย์หื่นไซโคพาธ“ นักข่มขืนต่อเนื่องสุดโรคจิต ตามสะกดรอยเหยื่อเด็กผู้หญิงที่ “สวมชุดนักเรียน” ก่อนลงมือข่มขืน 
.
ภัยร้ายบนโลกความจริงที่ยิ่งกว่านิยายสืบสวน ได้เกิดขึ้นแล้วในประเทศไทยใจกลางเมืองกรุงของเรา โดยโรคจิตรายนี้ลงมือก่อเหตุข่มขืนนักเรียนหญิงมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4 ราย (ยังไม่แจ้งความอีกหลายราย) และเคยถูกจับกุมตัวไปแล้วตั้งแต่ 7 ก.ย. 2561 หลังจากก่อเหตุข่มขืนเด็กนักเรียนหญิงกว่า 2 คดี โดยเหตุการณ์ในครานั้นเหยื่อนักเรียนหญิงถูกสะกดรอยติดตาม จากนั้นคนร้ายปลอมตัวเป็นรถรับจ้างรับเธอกลับจากโรงเรียน พาเธอออกนอกเส้นทางไปยังใต้สะพานซังฮี้ ก่อนจะลงมือต่อยท้องก่อนจะข่มขืนกระทำชำเราเธอ 

หลังโดนจับกุมและถูกส่งตัวเข้าไปรับโทษในเรือนจำอยู่หลายปี ล่าสุดได้พ้นโทษออกมาสู่สังคมแล้ว เมื่อความใคร่ได้ฝังเข้าไปอยู่ในสันดานของมนุษย์หื่นรายนี้แล้ว ก็ยากที่จะกลับตัวเป็นคนดี ในวันที่ 30 ต.ค. 66 ความหื่นไซโคพาธรายนี้ได้กลับมาก่อเหตุอีกครั้ง โดยครั้งนี้เลือกเหยื่อเป็นเด็กนักเรียนหญิงวัย 12 ปี โดยแอบเฝ้าอยู่ที่บันไดหนีไฟของตึกที่พักย่านสาทรของเหยื่อ จนกระทั่งเห็นเหยื่อนักเรียนหญิงกลับมาจากโรงเรียนเพียงลำพัง มันเดินตามเธอมาอย่างเงียบๆจนถึงห้องพัก ทันทีที่เหยื่อนักเรียนหญิงไขประตูห้องพัก มันพุ่งปรี่เข้าไปประชิดตัวใช้มืออุดปากลากเธอเข้าไปในห้องพักแล้วลงมือข่มขืนเธอโดยไม่สวมถุงยางอนามัย ซ้ำยังขู่จะฆ่าเธอให้ตาย โชคช่วยที่ญาติของเหยื่อนักเรียนหญิงได้กลับมาที่ห้องพัก เมื่อเธอได้ยินเสียงไขประตูเธอฮึดสู้ “กรี้ด” สุดเสียงก่อนจะได้รับความช่วยเหลือได้ทันท่วงที 
.
หลังเกิดเหตุ ญาติและเด็กสาวผู้เคราะห์ร้ายได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ ซึ่งต่อมาก็ได้ทราบว่าคนร้ายคือ นายวิษณุ หรือเต้ย มนุษย์หื่นไซโคพาธเจ้าเดิมที่ตระเวนก่อเหตุข่มขืนเด็กนักเรียนเมื่อช่วงปี 2560-2561 ชุดวิเคราะห์สืบนครบาลได้วิเคราะห์คนร้ายรายนี้แล้วไม่ใช่อาชญากรทั่วไป “เป็นอาชญากรต่อเนื่อง” ที่เป็นภัยสังคม

.พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ส่งชุดพระกาฬแกะรอยอาชญากรรายนี้ จนทราบว่าเป็นพวกที่ “ใคร่เด็ก” โดยเฉพาะเด็กผู้หญิงที่สวมชุดนักเรียน โดยหลังพ้นโทษออกมาแล้วยังคงตระเวนก่อเหตุลักษณะเดิม แต่เหยื่อจะไม่กล้าแจ้งความดำเนินคดีหรือมาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่เพราะถูกข่มขู่จะฆ่า เด็กสาวบางรายถูกบังคับให้ถ่ายคลิปการช่วยตัวเองเพื่อนำมาข่มขู่ในการจะชำเราครั้งต่อๆไปโดยไม่กล้าแจ้งความ หรือเพราะด้วยเหยื่อจะไม่ทราบว่าคนร้ายเป็นใคร 
.
พล.ต.ต.ธีรเดชฯ งัดแผนสุดคลาสสิค “แกะรอยจากแผนประทุษกรรม” กระทั่งทราบเบาะแสว่าคนร้ายรายนี้ “ขับรถรับจ้าง” และอาศัยเวลาว่างหรือระหว่างทำงานในการคัดเลือกเหยื่อ และต่อมาชุดสืบสวนได้สืบทราบว่าได้หลบหนีไปกบดานอยู่ที่คอนโดย่านเตาปูน ซึ่งเป็นห้องของแฟนสาว จึงได้ขออนุมัติศาลออกหมายค้น 
.
แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนำหมายค้นมาถึงพบว่า คนร้ายไม่อยู่ห้องพักจึงวางกำลัง “ซุ่ม” รอคนร้ายอยู่บริเวณลิฟต์ก่อนเข้าห้องพัก และสามารถจับกุมตัวอาชญากรรายนี้ได้ในที่สุด

ในชั้นจับกุม นายวิษณุฯ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา รับว่า “ตนเองเป็นอดีตข้าราชการ มีรสนิยมชอบเด็ก แต่ผู้เสียหายทั้งหมดที่ตนเองเคยถูกดำเนินคดีนั้น สมยอมทั้งหมด บางรายยังถ่ายภาพการช่วยตัวเองมาให้ตนเก็บไว้ดู โดยกล่าวโทษว่าเหยื่อเด็กเหล่านั้นร้ายกว่าที่คิด สร้างเรื่องให้ตนเองโดนคดี 
.
ส่วนที่ถูกกล่าวหาว่าสะกดรอยซุ่มตามเหยื่อนั้น ตนเองไม่ได้ซุ่ม แต่แค่รู้ว่าบ้านของเหยื่ออยู่ที่ใด”หลังจับกุมตัว ได้นำตัว นายวิษณุฯ ส่งพนักงานสอบสวน สน.ทุงมหาเมฆ เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมาย
.
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “เรายังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหารายนี้ เพราะจากแผนประทุษกรรมคนร้ายรายนี้เป็น อาชญากรต่อเนื่องที่มีรสนิยม “ใคร่เด็ก” โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหยื่อที่สวมชุดนักเรียน และจะใช้วิธีสะกดรอยติดตามเหยื่อจนสบโอกาสที่เหยื่ออยู่เพียงลำพัง ไม่มีผู้ปกครองคอยดูแล ก่อนจะลงมือข่มขืนกระทำชำเราเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย ซึ่งคนร้ายรายนี้เคยถูกดำเนินคดีในข้อหาประเภทเดียวกันมาแล้วหลายครั้ง เมื่อพ้นโทษออกจากเรือนจำออกมา กลับมาก่อเหตุซ้ำอีก จัดได้ว่าอยู่ในประเภท “นักข่มขืนต่อเนื่อง” เราจึงเชื่อว่ายังมีเหยื่ออีกหลายรายที่ตกเป็นเหยื่อ แต่ไม่กล้าเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผมไม่ต้องการให้คนแบบนี้เพ่นพ่านในสังคม

และขอประชาสัมพันธ์ผู้เสียหายที่เคยตกเป็นเหยื่อได้รับความยุติธรรม จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้เคยตกเป็นเหยื่อโปรดแจ้งข้อมูลมาที่เพจ “สืบนครบาล IDMB” เรามีเจ้าหน้าที่พร้อมให้คำแนะนำตลอด 24 ชั่วโมง โดยเบาะแสของท่านจะ “เป็นความลับ” และขอแจ้งเตือนไปยังพ่อแม่ผู้ปกครองทั้งหลาย โปรดใส่ใจและเพิ่มความระมัดระวัง อย่าปล่อยให้บุตรหลานของท่าน เดินทางกลับบ้านหรือปล่อยให้อยู่คนเดียวตามลำพัง เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นต่อบุตรหลานของท่าน เฉกเช่นคดีนี้ เพราะแม้ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์แต่หากเป็นเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.