กำลังกองพันผสม 7 กองพันสวนสนามวันกองทัพไทย มทบ.12 อย่างยิ่งใหญ่

กำลังกองพันผสม 7 กองพันสวนสนามวันกองทัพไทย มทบ.12 อย่างยิ่งใหญ่





ad1

ปราจีนบุรี – วันกองทัพไทย มณฑลทหารบกที่12 ปราจีนบุรี (มทบ.12)จัดพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณธงชัยเฉลิมพลยิ่งใหญ่   จัดกำลังกองพันผสมสวนสนาม  จำนวน 7 กองพัน  ทหารหน่วยรบจากกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล ร.2 รอ.)  ทหารราบยานเกราะแห่งแรกของกองทัพไทย  หน่วยรบหลักภาคตะวันออก หรือ “บูรพาพยัคฆ์”  และ จากมณฑลทหารบกที่ 12 (มทบ.12)    รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระมหากษัตริย์นักรบผู้ทรงกอบกู้เอกราชของชาติไทย   ให้เป็นวันสำคัญที่กำลังพลในกองทัพไทยทุกนาย ได้ตระหนักถึงภาระหน้าที่อันสำคัญยิ่ง   ที่จะต้องรักษาหวงแหน ปกป้องบ้านเมือง และสืบทอดเจตนารมณ์ เพื่อรักษาผืนแผ่นดินนี้ให้เป็นมรดกของลูกหลานไทยสืบไ

 เมื่อเวลา 15.30 น. วันนี้  18 ม.ค.67  ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรี   รายงานบรรยากาศเนื่องในวันกองทัพไทย   ที่สนามบินมณฑลทหารบกที่ 12 (มทบ.12)  ค่ายจักรพงษ์    ค่ายทหารที่จัดการรบแบบยุโรปแห่งแรกของกองทัพไทย ต.ดงพระราม อ.เมืองปราจีนบุรี   พลตรีไพรัช    แก้วศรี ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 12 (ผบ.มทบ.12)   เป็นประธานในพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณธงชัยเฉลิมพล เนื่องในวันกองทัพไทย   โดยมีนายพงษ์สิทธิ์ เนื่องจำนงค์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ,หัวหน้าส่วนราชการ   เข้าร่วมพิธี 

โดยในปีนี้  จัดทหารหน่วยรบจากกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล ร.2 รอ.)  ทหารราบยานเกราะแห่งแรกของกองทัพไทย  หน่วยรบหลักภาคตะวันออก หรือ “บูรพาพยัคฆ์”  และ จากมณฑลทหารบกที่ 12 (มทบ.12)  จัดกำลังกองพันผสมสวนสนาม  จำนวน 7 กองพัน   ในพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพลและสวนสนาม ประจำปี 2567 ของหน่วยทหารในพื้นที่ปราจีนบุรี   ซึ่งเป็นข้าราชการบรรจุใหม่  ระดับนายทหารชั้นสัญญาบัตรและชั้นประทวน ตลอดจนทหารกองประจำการที่ยังไม่เคยร่วมพิธี 

โดยหมู่เชิญธงเชิญธงชัยเฉลิมพลประจำที่เพื่อสวนสนามเข้าสู่พิธีสงฆ์   เมื่อเสร็จสิ้นแล้วผู้ร่วมพิธีทุกนาย พร้อมใจกันกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล จากนั้นเป็นพิธีสวนสนามตามลำดับ  พร้อมกับการร่วมให้กำลังใจจากประชาชน ญาติ มิรทหารหาญและรับฟังสาร   โอวาทของพลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี  ผู้บัญชาการทหารสูงสุด   โดยมีใจความว่า  ...ในโอกาสวันกองทัพไทย ประจำปี ๒๕๖๗  วันพฤหัสบดีที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๖๗   เพื่อนทหารที่รักทุกท่าน

วันที่ ๑๘ มกราคมเป็นวันสำคัญยิ่งวันหนึ่งในประวัติศาสตร์ชาติไทย เป็นวันที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงนำเหล่าทหารกล้า ประกอบมหาวีรกรรมอันกล้าหาญในการปกป้องรักษาเอกราชอธิปไตย นับว่าเป็นเหตุการณ์อันสำคัญยิ่งเป็นวันแห่งเกียรติยศ และความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งชาติที่ได้ระลึกถึงเหล่าบรรพชนไทย ที่ได้สละชีวิตและเลือดเนื้อเป็นชาติพลี เพื่อความอยู่รอดและความมั่นคงปลอดภัยของบ้านเมือง อย่างยั่งยืนมาจนถึงปัจจุบันอันเป็นแบบอย่างที่เรา เหล่าทหารทั้งหลายควรจักยึดถือสืบทอดเจตนารมณ์ดังกล่าวนี้สืบไป

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากองทัพไทย มีหน้าที่พิทักษ์ปกป้องรักษาชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ช่วยเหลือประชาชนพัฒนาและแก้ไขปัญหาของชาติ เพื่อให้ประชาชนอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข ผมขอให้เพื่อนทหารทุกนายมีความภาคภูมิใจในการปฏิบัติหน้าที่ ปฏิบัติงานด้วยความอดทนเสียสละ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม สนับสนุนภารกิจของรัฐบาลในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาของชาติ จนเป็นที่เชื่อมั่นศรัทธาของประชาชน และขอให้เพื่อนทหารทุกท่านดำรงรักษาความดีนี้ไว้สืบไป

 ทั้งนี้ วันที่ 18 มกราคมของทุกปี กำหนดให้เป็นวันกองทัพไทยและวันกองทัพบก เป็นวันรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระมหากษัตริย์นักรบผู้ทรงกอบกู้เอกราชของชาติไทย จึงกำหนดให้เป็นวันสำคัญที่กำลังพลในกองทัพไทยทุกนาย จะได้ตระหนักถึงภาระหน้าที่อันสำคัญยิ่ง ที่จะต้องรักษาหวงแหน ปกป้องบ้านเมือง และสืบทอดเจตนารมณ์ เพื่อรักษาผืนแผ่นดินนี้ให้เป็นมรดกของลูกหลานไทยสืบไป

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม  สำหรับ จ.ปราจีนบุรี มีศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภายในศาลมีอนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรประดิษฐานไว้ให้ประชามาสักการะบูชาทุกวันโดยตั้งตรงข้ามค่ายพรหมโยธี กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล ร.2 รอ.) ค่ายทหารราบยานเกราะแห่งแรกของไทย ต.บ้านพระ อ.เมืองปราจีนบุรี  ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ประดิษฐานอยู่ ณ สี่แยกวงเวียนนเรศวรทางขึ้นเขาใหญ่  ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราชแห่งนี้     สมเด็จพระนเรศวรฯ    พระองค์เคยใช้เป็นที่พัก เมื่อครั้งที่กรีฑาทัพจากกรุงศรีอยุธยา   เพื่อไปปราบนักพระสัฏฐาแห่งเมืองละแวก กัมพูชา     ระหว่างการเดินทางทัพได้หยุดพักทัพในเขตปราจีนบุรี 

เมื่อ พ.ศ.2138 สมเด็จพระนเรศวรมหาราช    ทรงเกณฑ์ชาวเมืองปราจีนบุรี, สระบุรี, นครนายก, และฉะเชิงเทรา ไปปราบนักพระสัฎฐา โอรสของพระบรมราชากัมพูชา (พระยาละแวก) ซึ่งโอรสองค์นี้เคยยกกำลังมาเกณฑ์ชาวเมืองดังกล่าวไปเป็นเชลย    สมเด็จพระนเรศวรมหาราชจึงได้ยกตราทัพมาที่ค่ายทำนบปราจีนบุรี ( ค่ายนี้อยู่ในเขตแดนของปราจีนบุรี ซึ่งสันนิษฐานว่าคงจะอยู่ในพื้นที่อำเภอตาพระยา เพราะเมื่อก่อนเรียกทัพพระยา ) ด้วยเหตุนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี จึงได้สร้าง พระพุทธรูปของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ไว้ที่ต้นทางถนนสุวรรณศรเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่พระองค์ท่าน 

เมื่อ 25 มกราคม 2514 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนารถ ทรงเสด็จมากระทำพิธีเปิดศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และ ในปี พ.ศ.2519 ทางจังหวัดได้มอบให้ทหารเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบเพราะได้สร้างไว้ในเขตทหาร โดยภายในจะพบศาลพระบรมรูปฯ จำนวน 3 แห่งด้วยกัน

ได้แก่ ศาลหลักตรงกลางประดิษฐานพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราชในท่าประทับยืน ส่วนสองศาลซ้ายและขวานั้น ประดิษฐานพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราชในอิริยาบททรงหลั่งน้ำลงสู่แผ่นดินด้วยสุวรรณภิงคาร (พระน้ำเต้าทองคำ) เพื่อประกาศอิสรภาพจากเมียนมา

โดย...มานิตย์  สนับบุญ –ข่าว/ณัฐนันท์(ดาว)-ภาพ   / ปราจีนบุรี