“ศรีสะเกษ” ปล่อยขบวนรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567

“ศรีสะเกษ” ปล่อยขบวนรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567





ad1

เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 2566 ที่ลานอเนกประสงค์กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายนพ พงศ์ผลาดิสัย รอง ผวจ.ศรีสะเกษ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 โดยมี พล.ต.ต.พิษณุ วัตถุ ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ นายพีระพงศ์ หมื่นผ่อง หัวหน้าสำนักงาน ปภ.จังหวัดศรีสะเกษ หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ขนส่ง เจ้าหน้าที่ทางหลวง นักเรียน นักศึกษา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ให้การต้อนรับและร่วมกิจกรรม

นายนพ พงศ์ผลาดิสัย รอง ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อกระตุ้นเตือนให้ประชาชนตระหนักถึงปัญหาจากภัยพิบัติหรือสาธารณภัยในรูปแบบต่างๆ และสร้างการเตรียมความพร้อมในการรับมือกับสาธารณภัยดังกล่าวให้เกิดขึ้นในทุกระดับของสังคมไทย และอุบัติเหตุทางถนนในประเทศไทยก็เช่นกัน ได้สร้างความสูญเสียแก่ชีวิต ร่างกายและทรัพย์สินของชาวไทยเป็นจำนวนมากในทุกๆ ปีเช่นกัน ซึ่งในปี 2566 ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนทั่วประเทศสะสม จำนวน 13,830 ราย จังหวัดศรีสะเกษ ผู้เสียชีวิตสะสม จำนวน 281 ราย คิดเป็นร้อยละ 19.24 คน/แสนคน

 จากความสูญเสียดังกล่าว ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน จึงกำหนดให้ทุกจังหวัดรณรงค์ลดอุบัติเหตุอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความตระหนักและปลูกจิตสำนึกในด้านความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน รวมทั้งรณรงค์ให้ทุกคนรักษาวินัยจราจร โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่และสงกรานต์ของทุกปี ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในอัตราที่สูง สำหรับช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 นี้ ได้กำหนดรณรงค์ในช่วงวันที่ 29 ธันวาคม 2566 ถึงวันที่ 4  มกราคม 2567 รวม 9 วัน ในหัวข้อ “ขับขี่ ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ” ในช่วงปีใหม่ 2567 จังหวัดศรีสะเกษ ได้กำหนดเป้าหมายลดลงร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับช่วงเทศกาลปีใหม่ย้อนหลัง 3 ปี คือ เกิดอุบัติเหตุไม่เกิน 18 ครั้ง บาดเจ็บไม่เกิน 17 ราย และเสียชีวิตไม่เกิน 6 ราย

 ในการนี้ ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดศรีสะเกษ จึงได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 ขึ้น ทั้งในระดับจังหวัด อำเภอ และท้องถิ่นเพื่อเป็นกลไกสำคัญในการอำนวยการและสั่งการในครั้งนี้ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งผู้นำท้องที่ผู้นำชุมชนและอาสาสมัครจำนวนมากปฏิบัติงาน ประจำจุดตรวจหลัก จุดบริการ และด่านชุมชน.

เสนาะ วรรักษ/รายงาน