ช้างป่าเขาอ่างฤาไนคลั่งไล่ตื๊บลุงปราจีนบุรีเฉียดตาย


ปราจีนบุรี–ช้างป่าเขาอ่างฤาไนจ.ฉะเชิงเทราข้ามฝั่งมาหากินปราจีนฯดุวิ่งไล่ทำร้ายลุงเฉียดตาย ขณะองคมนตรีเข้ารับฟังปัญหาจากเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ ต.วังท่าช้าง และ ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรีกรณีช้างป่าบุกรุกไร่อ้อย พื้นที่
เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.66 ผู้สื่อข่าวจังหวัดปราจีนบุรีรายงานว่า ได้รับแจ้งจากอาสาสมัครเฝ้าระวังช้างป่า ต.วังท่าช้าง ที่หมู่บ้านวังมะกรูดหมู่ที่ 4 ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี มีช้างป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน จังหวัดฉะเชิงเทรา (ในป่าลุ่มต่ำแห่งสุดท้ายของไทยในพื้นที่ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด จ.ฉะเชิงเทรา,จ.สระแก้ว,จ.จันทบุรี,จ.ระยอง และ จ.ชลบุรี) ที่ข้ามฝั่งเข้ามาหากินไกลถึง จะปราจีนบุรี มีอาการเครียด-ดุร้ายวิ่งไล่ทำร้ายชาวบ้าน จนต้องวิ่งหนีตายไกลวัดระยะทางได้ 250 เมตร หลังจากระหว่างทางรถจักรยานยนต์แหกโค้งต้องทิ้งรถจยย.วิ่งหนีออกจากป่ารอดตาย อย่างหวุดหวิด ทราบชื่อลุงสมัย รักษาทรัพย์ อายุ 65 ปีอยู่บ้านเลขที่ 84 หมู่ที่ 4 บ้านวังมะกรูด ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
ได้ลงพื้นที่พบกับลุงสมัย ได้พาผู้สื่อข่าว ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และจิตอาสาเฝ้าระวังช้างป่าวังท่าช้างไปยังจุดเกิดเหตุ เป็นสวนพื้นที่สวนป่ายูคาลิปตัส ห่างจากไกลหมู่บ้านประมาณ 500 เมตร ลุงสมัยเล่าว่ามีอาชีพเฝ้า-ดูแลสวนป่ายูคาลิปตัสแห่งนี้ ขณะที่ขับขี่รถจยย.ออกมาสำรวจแปลงป่ายูคาลิปตัส มาตามทางระหว่างนั้นได้ยินเสียงร้องของช้างป่า แปร๊นๆๆ3ครั้ง อยู่ข้างหน้า เมื่อหันไปมองทางด้านซ้ายมือ พบช้างป่าตัวใหญ่มีงา ยืนอยู่ในระยะ 3 เมตรในอาการเครียดคือ หูกาง หางชี้ งวงม้วนงอ
วินาทีนั้นรู้สึกตกใจและหวาดกลัว จึงรวบรวมสติมองไปข้างหน้าแล้วตัดสินใจขับรถมอเตอร์ไซค์เร่งคันเร่งปิดหนีเพื่อเอาตัวรอด ขณะเดียวกันช้างป่าได้วิ่งไล่ขับตามทันที จึงเร่งเครื่องรถจักรยานยนต์หนี และหันมามองข้างหลัง เห็นช้างวิ่งไล่รถตามมาติดๆฝุ่นคลุ้งท่วมพร้อมส่งเสียงร้องอย่างโกรธ-โมโหเป็นระยะๆ รถมอเตอร์ไซค์วิ่งเร็วไม่ได้ นึกในใจยังไงก็หนีไม่รอดต้องถูกช้างทำร้ายตายอยู่ในป่าแน่นอน
เมื่อหันกลกับมองด้านหลังช้างยังวิ่งไล่ตามมาไม่หยุด ถึงแม้ว่าระยะทางจะไกล แต่ช้างวิ่งไล่ไม่ลดละ-ไม่ยอมหยุด เมื่อมาถึงทางโค้งรถมอเตอร์ไซค์เสียหลักล้มลง จึงรีบวิ่งล้มลุกคลุกคลานเพื่อนหรือเอาตัวรอด ช้างวิ่งเข้ามาในระยะประชิดจึงรวบรวมพลังวิ่งหนีไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน ซึ่งอยู่ห่างจุดดังกล่าวประมาณ500เมตร เพื่อนบ้านได้รีบโทรแจ้งผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ขอ ให้จิตอาสาเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่า ต.วังท่าช้าง ให้เข้าไปเอารถจักรยานยนต์ของลูกบ้านออกมาจากจุดเกิดเหตุ
1 ชั่วโมงต่อมาชุดจิตอาสาได้นำรถไถมาดันเปิดทาง เพื่อที่จะเข้าไปเอารถจักรยานยนต์ของลุงสมัยออกมา เมื่อมาถึงตำแหน่งที่รถมอเตอร์ไซค์ของลุงสมัยล้มอยู่ริมทาง พบว่ารถมอเตอร์ไซค์ยังติดเครื่องยนต์อยู่ และช้างป่า ก็ยังอยู่บริเวณใกล้เคียงไม่หนีไปไหน จึงทำการผลักดันช้างป่าออกจากบริเวณดังกล่าวเพื่อความปลอดภัย
ต่อมาทีมจิตอาสาได้นำโดรนมาบินสำรวจบริเวณป่ายูคาลิปตัส พบว่าฝูงช้างป่าประมาณ 30 ตัว ผู้ใหญ่บ้านจึงประกาศแจ้งเตือนชาวบ้านให้ระวังช้างป่า หากออกมาไร่มาสวนซึ่งส่วนใหญ่เป็นป่าอ้อยและป่ายูคาลิปตัส
นายอภิชาติ ไชยแสงเมือง จิตอาสาเฝ้าระวังช้างป่ากล่าวว่า หลังได้รับแจ้งจึงนำรถไถมาดันเปิดทางเพื่อที่จะเข้ามาเอารถจักรยานยนต์ของคุณลุงออกจากป่า พบว่ารถจักรยานยนต์ของลุงสมัยยังติดเครื่องอยู่ จึงเดินมายังจุดที่ลุงสมัยพบช้างและช้างได้วิ่งไล่ นำตลับเมตรมาวัดระยะทางวัดได้ 250 เมตร ชาวบ้านยังคงหวาดกลัวช้างฝูงนี้อยู่ ไม่รู้ว่ามีจำนวนมากน้อยเพียงใด อาจจะมีมากกว่า 1 ฝูง คาดว่าฝูงช้างป่าจะปักหลักหากินอยู่ในพื้นที่อีกนาน ถึงแม้ว่าทางการจะผลักดันช้างป่าฝูงใหญ่ออกจากพื้นที่ แต่คิดว่าช้างป่าจะต้องหวนกลับมาอีกเพราะมีแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์อยู่ ขณะเดียวกันสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 ปราจีนบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะลงพื้นที่มาเพื่อปฏิบัติการผลักดันช้างป่าออกจากพื้นที่เป็นครั้งที่ 2 ตามนโยบายของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เจ้าหน้าที่จะเล่นผลักดันฝูงช้างป่าออกจากพื้นที่โดยเร็วที่สุด
ขณะที่ พลเอก เฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรี ณ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลวังท่าช้าง (อบต.) อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ได้ลงพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อตรวจเยี่ยมและรับฟังปัญหาจากเจ้าหน้าที่และประชาชน กรณีที่มีช้างป่าบุกรุกไร่อ้อยของชาวบ้านในพื้นที่ ต.วังท่าช้าง และ ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
โดยมี นายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมต้อนรับและ รับฟังบรรยายสรุปปัญหา จากทีมผลักดันช้างป่า พร้อมได้ให้ข้อเสนอแนะต่อเจ้าหน้าที่ และข้อแนะนำต่อประชาชนที่พบเจอช้างป่าในพื้นที่ของตนเองว่าต้องทำอย่างไร หากได้รับความเสียหายของผลผลิต หรือผลกระทบอื่น ๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม รายงานการเฝ้าระวังการผลักดันช้างป่า วันที่ 14 ธ.ค. 66เวลา 16.00 น.ชุดเคลื่อนที่เร็วเฝ้าระวังติดตามผลักดันและแก้ไขปัญหาช้างป่าฯ(ขสป.เขาอ่างฤาไน) อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ร่วมกับ คณะเจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี)
รายงานผลการปฏิบัติงานติดตามผลักดันช้างป่า ประมาณ 40+ตัว บริเวณ เขามะก่อง บ.โนนสมบูรณ์ ม.14 ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี พิกัด47p 0808791 E 1514447 N ตามรอยผลักดันช้างป่าแยกกันออกหากินเป็นสองกลุ่มดังนี้
ช้างป่ากลุ่มที่หนึ่งเคลื่อนตัวออกหากินป่าอ้อย บ.ห้วยกระโดด ม.14 ต.ทุ่งพระยา อ.สนามชัยเขต พิกัด47p 0806562 E 1513503 Nตามรอยผลักดันช้างป่าวนไปมาแล้วมุ่งหน้าหากิน บริเวณ ป่าอ้อย บ.วังใหม่ ม.17 ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี พิกัด47p 0807109 E 1510842 N ตามรอยผลักดันช้างป่า ประมาณ 30+ตัว หากินแล้วเคลื่อนตัว เข้าพักอาศัยอยู่ เกาะป่ายูคากิตติ พื้นที่ บ.ดงเย็น ม.10 ต.ทุ่งพระยา อ.สนามชัยเขต พิกัด47p 0806048 E 1508599 N
ช้างป่ากลุ่มที่สองเคลื่อนตัวหากินแล้วข้ามถนนหลวงชนบท (หนองใหญ่-โนนสมบูรณ์) พิกัด47p 0806957 E 1515635 N
จากนั้นมุ่งหน้าหากินป่าอ้อย บริเวณ บ.หนองใหญ่ ม.14 ต.ทุ่งพระยา อ.สนามชัยเขต พิกัด 47p 0806666 E 1517146 N ช้างป่า ประมาณ 10+ตัว หากินแล้วเข้าพักอาศัยอยู่ เกาะป่ายูคากิตติ-ป่าอ้อย พื้นที่ บ.วังกวาง ม.11 ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี พิกัด 47p 0807616 E 1518431 N เฝ้าระวังในพื้นที่ เวลา 09.00 น.(15 ธ.ค.) ยกเลิกภารกิจ
อนึ่งสำหรับปัญหาช้างป่าออกนอกเขตผืนป่าอนุรักษ์ ในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มประกอบด้วย กลุ่มแรกได้แก่ เขตพื้นที่ ต.วังท่าช้าง , ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี และ พื้นที่ ต.กรอกสมบูรณ์ ต.หนองโพรง อ.ศรีมหาโพธิ เป็นช้างป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน จ.ฉะเชิงเทรา (ในป่าลุ่มต่ำแห่งสุดท้ายของไทยในพื้นที่ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด จ.ฉะเชิงเทรา,จ.สระแก้ว,จ.จันทบุรี,จ.ระยอง และ จ.ชลบุรี) ที่ข้ามฝั่งเข้ามาหากินไกลถึง จะปราจีนบุรี
กลุ่มที่ 2 เป็นช้างป่าที่ออกนอกผืนป่าจากอุทยานแห่งชาติทับลานมรดกโลก ออกนอกเขตผืนป่ามาหากินในพื้นที่แถบ ต.ทุ่งโพธิ์ ,แก่งดินสอ อ.นาดี และกลุ่มที่ 3 เป็นช้างป่าที่ออกนอกผืนป่าจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มรดกโลก ออกนอกเขตผืนป่ามาหากินในพื้นที่แถบ อ.นาดี ,อ.เมืองปราจีนบุรีแต่เล็กน้อย
โดยในกลุ่ม 1 และ 2 ประสบปัญหารุนแรง สร้างผลกระทบ หรือ ข้อขัดแย้งระหว่าง คน กับ ช้างป่า อาทิ การทำลายพืชผลทางการเกษตรต่าง ๆ อาทิ ผลิตผลิตนาข้าว,ไร่มันสำปะหลัง,ไร่อ้อย,กล้วย,สัปปะรด ฯลฯ ทำลายทรัพย์สิน-บ้านเรือน –ยุ้งฉางการเกษตร หรือ ทำร้ายผู้คน ได้รับบาดเจ็บ หรือ เสียชีวิต ช้างถูกยิง ถูกไฟฟ้าช็อต ถูกรถชนขณะข้ามถนน มีทั้งตายและบาดเจ็บ และ แม้กระทั่ง คนกับคนที่ขัดแย้งกันเองในการ ต่างคนต่างผลักดันไม่ให้ช้างป่าเข้ามาในพื้นที่ตนเอง โดยเฉพาะ ใน จ.ปราจีนบุรีกับ จ.ฉะเชิงเทราที่ต่างฝ่ายต่างมีอาวุธ
สาเหตุที่ช้างป่าออกนอกเขตผืนป่าอนุรักษ์เข้ามาหากินในพื้นที่ประชาชน หรือ ข้ามเขตจังหวัดมาหากินไกล ๆ แล้วไม่ยอมกลับคืนถิ่นเดิม เนื่องจากจำนวนประชากรช้างป่าเพิ่มสูงเท่าตัว และ แหล่งที่อยู่เดิมไม่เพียงพอ ขาดแหล่งอาหาร น้ำ
โดย...มานิตย์ สนับบุญ –ข่าว/ทองสุข สิงห์พิมพ์-ภาพ/ ปราจีนบุรี