โครงการชลประทานศรีสะเกษแจงประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมอ่างเก็บน้ำห้วยจันทร์ จังหวัดศรีสะเกษ ครั้งที่ 2

โครงการชลประทานศรีสะเกษแจงประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมอ่างเก็บน้ำห้วยจันทร์ จังหวัดศรีสะเกษ ครั้งที่ 2





ad1

ศรีสะเกษ-โครงการชลประทานศรีสะเกษ ประชุมเพื่อหารือและชี้แจงรายละเอียดโครงการโครงการศึกษาความเหมาะสมและประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมอ่างเก็บน้ำห้วยจันทร์ จังหวัดศรีสะเกษ ครั้งที่ 2

เมื่อวันที่  5 กันยายน 2566 นายจำรัส สวนจันทร์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายสราวุฒิ  แน่นหนา หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 6  เข้าร่วมประชุมเพื่อหารือและชี้แจงรายละเอียดโครงการ  "โครงการศึกษาความเหมาะสมและประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมอ่างเก็บน้ำห้วยจันทร์ จังหวัดศรีสะเกษ"  โดยบริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน)  ร่วมประชุมหารือ ณ โครงการชลประทานศรีสะเกษ  ทั้งนี้เพื่อเป็นการปฏิบัติงานของโครงการศึกษาความเหมาะสมและประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมอ่างเก็บน้ำห้วยจันทร์ จังหวัดศรีสะเกษ ให้เป็นไปตามแผนงานโครงการดังกล่าวข้างต้นต่อไป

ในการนี้นายจำรัส สวนจันทร์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานศรีสะเกษ  ได้มีข้อนำเสนอในที่ประชุมจำนวน 2  ประเด็น  ได้แก่

1.  การเพิ่มระดับน้ำเก็บกักสูงสุด  โดยขอให้พิจารณานำปริมาณน้ำที่ระดับ Dead  storage  มาคำนวณด้วย  ดังนั้นหากมีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่าง(inflow) จำนวน  11.0 ล้าน ลบ.ม.  ปริมาณน้ำที่ระดับ dead  storage  0.80 ล้าน  ลบ.ม.  ปริมาณน้ำที่จะเป็นตัวกำหนดระดับน้ำสูงสุดควรเป็น  11.80 ล้าน  ลบ.ม  ทั้งนี้เพื่อให้เป็นการเก็บน้ำสูงสุดให้กับราษฎรและอาจก่อสร้างฝายพับได้ที่ทางระบายน้ำล้น เพื่อใช้ในประกอบในด้านการบริหารจัดการน้ำ

2. ให้พิจารณานำนวัตกรรมของโครงการชลประทานศรีสะเกษ " สแกน  แอนด์  คลิก " ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่โครงการชลประทานศรีสะเกษได้รับรางวัลชนะเลิศระดับกรมชลประทานในปี 2565   ที่เกี่ยวข้องกับหลักเขตชลประทาน ซึ่งสามารถสแกน QR Code  เพื่อหาหมุดหลักเขต  ทั้งนี้เพื่อป้องกันการบุกรุกและการขยับหลักเขตของราษฎร โดยกรมชลประทานไม่ต้องเสียงบประมาณในการซ่อมแซมปักหลักเขตในอนาคตอีกต่อไป

และจากการประชุมครั้งที่ 1  โครงการชลประทานศรีสะเกษได้มีการนำเสนอข้อคิดเห็นไปแล้ว จำนวน 2 ประเด็นด้วยกัน  ได้แก่  

1. การเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักจากเดิม  8,000,000 ลูกบาศก์เมตรเป็น 11,000,000 ลูกบาศก์เมตร เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ราษฎร  เนื่องจากมีปริมาณน้ำไหลเข้า (Inflow) จากพื้นที่รับน้ำ (watershed area) เพียงพอ

2. กำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหากรณีพื้นที่ได้รับผลกระทบ ให้เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง  เช่น การเวนคืนที่ดิน  รวมถึงการจ่ายค่าชดเชย  โดยให้บรรจุในเล่มการศึกษานี้ด้วย

ทั้งนี้หากดำเนินการแล้วเสร็จ  จังหวัดศรีสะเกษจะมีอ่างเก็บน้ำขนาดกลางเพิ่มอีกจำนวน 1  แห่ง  จากเดิมมีทั้งหมด 16 แห่ง  สามารถเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักได้ 11.80 ล้าน  ลบ.ม.

เสนาะ วรรักษ์/รายงาน