ผู้ปกครองเด็กเล็กเดือดร้อนหนัก!โรงเรียนปิดประตูเข้า-ออก ไม่ให้เข้ารับส่งบุตรหลาน

ผู้ปกครองเด็กเล็กเดือดร้อนหนัก!โรงเรียนปิดประตูเข้า-ออก ไม่ให้เข้ารับส่งบุตรหลาน





ad1

อุทัยธานี-ผู้ปกครองเด็กเล็กร้อง!!ถูกทางโรงเรียนปิดประตูทางเข้า-ออก มานานไม่ให้เข้าออกส่งรับเด็กนักเรียน สร้างความเดือดร้อน ชาวบ้านลั่นเสียใจถูกอาจารย์รายหนึ่งไล่ให้ไปเรียนที่อื่น

เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 19 สิงหาคม 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มชาวบ้านรายหนึ่งชื่อสมจิตร ทวีเขตรกิจ อายุ 66 ปี พร้อมนางสุวรรณา เอี่ยวทวี อายุ 28 ปี และ นางอำภา บุญศิริ อายุ 40 ปี ตำบลทุ่งนางาม อำเภอลานสักจังหวัดอุทัยธานี และชาวบ้านอีกหลายคน ที่ได้รับความเดือดร้อน จากประตูทางเข้าออกของศูนย์เด็กเล็กบ้านห้วยโศกซึ่งติดกับโรงเรียนแห่งหนึ่ง ตำบลทุ่งนางาม อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี ได้ถูกทางโรงเรียนดังกล่าว ปิดทางเข้าออกมานานและไม่ได้ใช้งาน ซึ่งสร้างความแปลกใจให้กับชาวบ้านและผู้ปกครองส่วนใหญ่

เนื่องจากประตูนั้นยังโครงสร้างใหม่ๆและไม่ได้เกิดการชำรุด แต่ทำไมทางโรงเรียนไม่เปิดให้ใช้งาน ซึ่งสร้างความเดือดร้อนและลำบากให้กับผู้ปกครองหลายๆท่าน บางคนก็ต้องนำลูกนำหลาน ใช้เส้นทางเข้าไปส่งนักเรียนอีกทางหนึ่งซึ่งติดกับสถานที่ติดกับทางวัด แล้วเส้นทางนั้นก็ได้มีสุนัขจรจัด บางรายก็ถูกกัดบางรายก็ลากกัดกระเป๋า จนทำให้ชาวบ้านเอือมระอากับการใช้เส้นทาง ทางเข้า-ออก ของศูนย์เด็กเล็กบ้านห้วยโศก ที่ทางเข้าทางออกมี แต่ถูกปิดตาย ไม่ให้ผ่านทาง ส่วนบางรายก็ต้องอุ้มเด็กข้ามรั้วบ้าง จนได้รับความเดือดร้อนมาหลายปีแล้ว

ล่าสุดหลังจากได้มีการปิดประตูทางเข้าออกของศูนย์เด็กเล็กบ้านห้วยโศกแล้ว จากกรณีในวันที่ 15 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมระหว่างทางคณะครูโรงเรียนดังกล่าวกับผู้ปกครองของเด็กเล็ก พร้อมกับหน่วยงานอบต.ทุ่งนางามและผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าพูดคุยเพื่อลดปัญหาการขัดแย้งและเกิดการมีปัญหาในวันข้างหน้า โดยทางอบต.ทุ่งนางาม ได้เข้าช่วยเหลือย้ายศูนย์เด็กเล็กบ้านห้วยโศก ออกไปอยู่ในสถานที่ เขตของวัดถ้ำทอง ต.ทุ่งนางาม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี เพื่อเป็นการชั่วคราว และค่อยขยับสร้างสถานที่ศูนย์เด็กเล็กขึ้นมาใหม่ เพื่อลดปัญหาการขัดแย้ง กับทางโรงเรียนและผู้ปกครอง เพื่อให้เด็กเล็กได้เรียนศึกษาพัฒนาต่อไป

แต่ช่วงระหว่างการพูดคุยในวันที่15 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมาในที่ประชุมผู้ ปกครองได้เปิดเผยว่าทางผู้ปกครองและอาจารย์ทางโรงเรียนได้มีการถกเถียงกัน โดยชาวบ้านอ้างว่า บางช่วงบางตอนได้มีอาจารย์ท่านหนึ่งได้กล่าวขึ้นมา ว่าหากอยู่ไม่ได้ ก็ย้ายออกไปเรียนที่อื่น ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับผู้ปกครองหลายท่าน เนื่องจากผู้ปกครองมองเห็นว่ามันไม่ใช้การแก้ปัญหาที่ถูกต้อง

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังโรงเรียนบ้านดังกล่าว พร้อมกับทางผอ.โรงเรียนดังกล่าวได้อนุญาติให้ผู้สื่อข่าวถ่ายป้ายหน้าโรงเรียนได้  และเข้าสอบถามกับนางฐาณัชชา ขัดสี ผอ.โรงเรียนบ้านห้วยโศก ได้เปิดเผยและชี้แจงถึงสาเหตุของผู้ปกครองที่ได้ร้องเรียนในครั้งนี้ว่า ต่อเนื่องมาจากโควิด-19 ทางโรงเรียนก็ป้องกัน คือการปิดเปิดประตูทางเดียว เพื่อที่จะให้เด็กเข้ามาอย่างปลอดภัย พอหลังจากโควิด 19 เบาลง ก็จะมีเหตุการณ์ที่ยิงการ์ดกันอย่างที่เป็นข่าว ทางโรงเรียนก็นึกถึงความปลอดภัยของเด็ก แล้วก็มีนโยบายจากสพฐ.สถานศึกษาเป็นสถานที่ปลอดภัย ตอนนี้ทางโรงเรียนก็อนุญาตให้ผู้ปกครองมารับส่งเด็กได้

แต่ไม่ให้ขับรถเข้ามาข้างใน คือให้จูงลูกหลานของตัวเองเข้ามาส่งถึงโรงเรียนได้ แล้วทางโรงเรียนก็มีครูเวรยืนอยู่ประตูปิดเปิดเป็นเวลา แล้วที่ผู้ปกครองเด็กอ้างว่ามีสุนัขมากัด ทางโรงเรียนจะคอยดูแลและรับผิดชอบให้ ส่วนอีกกรณีหนึ่ง ระหว่างวันประชุมผู้ปกครองและคณะครูทางโรงเรียน ก็ได้มีการถกเถียงกันบางช่วงบางตอน ระหว่างนั้นก็ได้มีผู้ปกครองรายหนึ่งได้กล่าวอ้าง ขึ้นมาว่าจะไม่ศรัทธาแล้วอาจารย์ในโรงเรียนนี้ จนทำให้อาจารย์ท่านหนึ่งเกิดบันดาลโทสะขึ้นมา จนทำให้ต้องใช้ถ้อยคำขึ้นมาว่า จะย้ายไปไหนก็ไปเลย ทางผอ.ก็ต้องขอโทดผู้ปกครองหลายๆท่านด้วย เนื่องจากทางอาจารย์ดังกล่าว ได้เผลอปากพูดออกไปด้วยบันดาลโทสะ และในครั้งนี้ การที่ทางโรงเรียนปิดประตูนั้น ไม่ให้ใช้งานเนื่องจากหวั่นจะเกิดอุบัติเหตุบนถนนได้ เนื่องจากทางประตูทางเข้าโรงเรียนนั้นติดกับถนนในชุมชน