ตำรวจ ปส.สุราษฎร์ธานีจับยาเคลอตมหึมา 851 กิโล ซุกกระสอบถ่าน ขนจากระนองไปเมืองคอน

ตำรวจ ปส.สุราษฎร์ธานีจับยาเคลอตมหึมา 851 กิโล ซุกกระสอบถ่าน ขนจากระนองไปเมืองคอน





ad1

ตำรวจ ปส.สุราษฎร์ธานี สนธิกำลังตำรวจ ปส.เมืองคอน วางแผนไล่ตามจับข้ามจังหวัด ขบวนการขนยาเคลอตมหึมา 62 กระสอบ 851 กิโล มูลค่าเกือบ 300 ล้านบาท จากระนองจะไปส่งลูกค้าที่เมืองคอน แต่ไม่รอดถูกรวบพร้อมของกลางจำนวนมาก เจ้าหน้าที่คาดหากหลุดรอดไปได้ส่งต่อประเทศที่ 3 เพิ่มมูลค่าถึง 3,000 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2566 ตำรวจชุด ปส.สุราษฎร์ธานี แจ้งว่าเมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา กำลังตำรวจชุด กก.2 บก.ปส.4 บช.ปส.(สุราษฎร์ธานี) ภายใต้การนำของ พ.ต.ท.สุวิทย์ หัสนันท์ สว.กก.2 บก.ปส.4 บช.ปส.ได้สืบทราบว่าจะมีการขนยาเค ลอตมหึมาจำนวนมาก จากพื้นที่ จ.ระนอง วิ่งข้ามจังหวัดมาส่งให้กับลูกค้าที่พื้นที่ อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช

พ.ต.ท.สุวิทย์ จึงได้ประสานงานมายัง พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ได้สนธิกำลังตำรวจระหว่างตำรวจ ปส.สุราษฎร์ธานี และตำรวจ ปส.นครศรีธรรมราช วางแผนไล่ล่าขบวนการขนยาเค หรือเคตามีน ลอตมหึมาดังกล่าว หลังจากแกะรอยขบวนขนยาเคลอตมหึมามานานกว่า 3 เดือนแล้ว

โดยเมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 4 สิงหาคม 2566 กำลังตำรวจ ปส.ชุดดังกล่าว ได้ทำการสะกดรอยรถยนต์กระบะตู้ทึบ สีขาว ยี่ห้อโตโยต้า รีโว่ ทะเบียน 3ฒฌ-6638 กทม. มีชายฉกรรจ์ 1 คนขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าวออกจาก จ.ระนอง มุ่งหน้าล่องใต้มาตามถนนสายเอเชีย 41 ขาล่องใต้ ผ่านพื้นที่ จ.ชุมพร จ.สุราษฎร์ธานี แล้วมาเลี้ยวซ้ายบริเวณสี่แยกควนหนองหงส์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช มุ่งหน้าสี่แยกบ่อล้อ อ.เชียรใหญ่ ก่อนเลี้ยวขวามุ่งหน้าไปทาง อ.หัวไทร แล้วรถยนต์กระบะทึบคันดังกล่าวได้ไปจอดรอลูกค้าที่บริเวณศาลาที่พักริมทาง บ้านห้วยน้ำเย็น หมู่ 4 ต.ทรายขาว อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช  

จังหวะนั้นกำลังตำรวจชุด ปส.นำโดย พ.ต.ท.สุวิทย์ หัสนันท์ และพวกที่ตามสะกดรอยได้บุกเข้าทำการตรวจค้นรถยนต์กระบะทึบขาวคันดังกล่าวทันที ซึ่งจากการตรวจค้นท้ายกระบะทึบ เจ้าหน้าที่พบยาเคตามีน ที่อำพรางตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจใส่กระสอบบรรจุถ่าน จำนวน 62 กระสอบ เมื่อเจ้าหน้าที่แกะกระสอบพบภายในมีห่อยาเคตามีนในถุงชาจีนสีเขียว มีตัวอักษรภาษาจีนและภาษาอังกฤษ เขียน CHINESE PIN WEI จำนวน 851 ถุง ถุงละ 1 กิโลกรัม รวม 851 กิโลกรัม มูลค่ายาเคตามีนในประเทศไทยเกือบ 300 ล้านบาท แต่หากมีการส่งต่อไปยังประเทศที่สาม มูลค่ายาเคลอตนี้ก็มีมูลค่าเพิ่มมหาศาลเป็น 10 เท่า เกือบ 3 พันล้านบาททีเดียว

จับกุมคนขับทราบชื่อ นายมูสเล็ม ยามา อายุ 3ปี ชาว อ.สายบุรี จ.ปัตตานี สอบสวนให้การรับสารภาพว่า ได้รับจ้างขนยาเคตามีนลอตมหึมานี้จาก จ.ระนอง มาส่งให้กับลูกค้าที่ อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช จากพ่อค้ายาเคตามีนคนหนึ่งด้วยค่าจ้าง 3 แสนบาท แต่จ่ายค่าจ้างก่อน 2 หมื่นบาท แต่มาพลาดถูกตำรวจ ปส.จับกุมได้เสียก่อนดังกล่าว ซึ่งตำรวจ ปส.สุราษฎร์ธานี ได้คุมตัวนายมุสเล็ม ยามา พร้อมยาเคของกลางทั้งหมดไปสอบสวนขยายผลติดตามจับกุมผู้ว่าจ้างและผู้ร่วมขบวนการขนยาเคตามีนลอตมหึมาครั้งนี้ต่อไป และนอกจากนี้ตำรวจชุดดังกล่าวยังตามล่ารถยนต์ส่วนบุคคล ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีขาว (ปกปิดทะเบียนรถ) ที่เป็นรถนำทางที่หลบหนีรอดไปได้อย่างหวุดหวิดต่อไป