“พิธา”แคนดิเดตนายกฯอภิปรายลั่นในรัฐสภามีศาลเตี้ยไม่ได้

เมื่อวันที่ 13 ก.ค.2566  นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ซึ่งถูกเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรี ใช้สิทธิ์พาดพิงระหว่างการประชุมร่วมรัฐสภาครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 272 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ว่า ไม่เห็นด้วยกับข้อกังวลของนายชาดา ไทยเศรษฐ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย เรื่องลงสัตยาบันไอซีซีเกี่ยวกับอาชญากรรมทางสงคราม ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ข้อที่ 27 เพราะประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกที่มีระบอบการปกครองเดียวกับเรา คือ ระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัริย์ทรงเป็นประมุข

ชาดา ไทยเศรษฐ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย

ทั้งนี้ มีอยู่ 123 ประเทศ ทั้งประเทศญี่ปุ่น อังกฤษ กัมพูชา สวีเดน และเดนมาร์ก ก็เซ็นสัตยาบันนี้ ถ้าเราเข้าใจว่า พระองค์ท่านอยู่เหนือการเมืองและทรงใช้อำนาจผ่าน ครม.อยู่แล้ว จะไม่ได้เป็นประเด็นตามที่นายชาดากล่าวหา แต่สิ่งที่น่ากลัวในการเข้าไอซีซี คือ การที่มีคนพูดว่าใครหมิ่นสถาบันแล้วให้เอาปืนไปยิงเลยต่างหาก ไม่แน่ใจว่าคนที่สูญเสียตั้งแต่เหตุการณ์ 99 ศพ ที่ยังไม่รู้ว่าใครยิง และเหตุการณ์ 14 ตุลา 6 ตุลา จะรู้สึกอย่างไร

นายพิธา อภิปรายต่อว่า กรณีที่นายประพันธุ์ กล่าวถึงคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามการเป็น ส.ส. ขอยืนยันว่ายังมีคุณสมบัติสมบูรณ์แบบทุกประการ และด้วยความชอบธรรม ยังไม่รู้เลยว่าข้อกล่าวหาคืออะไร ทราบมติ กกต.ก็จากสื่อมวลชน จนถึงวันนี้ยังไม่ทราบว่า กกต.สงสัยประเด็นใด ข้อสมมุติฐานทางกฎหมายบอกให้ผู้ถูกกล่าวหาบริสุทธิ์ไว้ก่อน และคิดว่ามีศาลเตี้ยในรัฐสภาไม่ได้ ยังไม่มีโอกาสชี้แจงแม้แต่ครั้งเดียว และขอให้ทุกคนมั่นใจและไม่ต้องกังวล รัดกุมมาตลอดเกี่ยวกับการยื่น ป.ป.ช. หรือเรื่องคุณสมบัติ สอบถามทั้ง กกต. และ ป.ป.ช. เพราะยอมรับการตรวจสอบ