ปมฟุตบอลทีมชาติไทยฟาดปากอินโดฯ"กกท."ชะลอจ่ายเงินอัดฉีดคว้าเหรียญเงิน "ซีเกมส์ 2023"

ปมฟุตบอลทีมชาติไทยฟาดปากอินโดฯ"กกท."ชะลอจ่ายเงินอัดฉีดคว้าเหรียญเงิน "ซีเกมส์ 2023"





ad1

การกีฬาแห่งประเทศไทย ชี้แจงว่าสาเหตุที่ยังไม่จ่ายเงินอัดฉีดฟุตบอลชายทีมฟุตบอลทีมชาติไทยชุดคว้าเหรียญเงิน ซีเกมส์ 2023 จากปัญหาที่เกิดเรื่องวิวาทในรอบชิงชนะเลิศ กับ อินโดนีเซีย ซึ่งบางคนอาจไม่ได้ส่วนแบ่ง

เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล มีการมอบเงินให้นักกีฬาทุกคนที่ได้เหรียญในการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 32 และอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 12 รวม 338 ล้านบาท

โดยฟุตบอลหญิงได้เหรียญทองแดง ซึ่งมีการแจกให้กับทีมหญิงตามสัดส่วนที่กำหนด อย่างไรก็ตาม ทีมชายที่ได้เหรียญเงินยังไม่มีการมอบเงินมากกว่า 3 ล้านบาทให้แต่อย่างใด

ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ได้ชะลอมอบเงินให้ทีมฟุตบอลชาย เพราะจากปัญหาที่เกิดเรื่องวิวาทในรอบชิงชนะเลิศ กับ อินโดนีเซีย เป็นเรื่องที่เสื่อมเสียชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของวงการกีฬาประเทศไทยพอสมควร ซึ่ง กกท. ขอให้สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ทำหนังสือชี้แจงเหตุการณ์ดังกล่าวมาแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการตอบกลับ

“บอร์ด กกท. ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าใครกระทำผิดบ้าง ใครกระทำไม่เหมาะสมบ้าง เช่น ผู้ที่กระทำผิดและเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทโดยตรง และถูกลงโทษ อาจจะไม่ได้รับเงินรางวัล”

“เรื่องนี้ต้องการให้ชี้แจงว่าโทษแต่ละคนเป็นอย่างไร จะพิจารณาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และดูในภาพรวมว่าผิดกฎกติกาอะไรไหม ซึ่งก็ไม่ได้ติดขัดในเรื่องของเงินรางวัล หรือระบบการเบิกจ่าย กกท. จะเร่งสอบถามไปยังสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เพื่อให้ทำเรื่องชี้แจงกลับมาโดยเร็วที่สุด อยากจะมอบเงินรางวัลดังกล่าว และคำนึงถึงนักกีฬา เจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้อง ที่ได้รับผลกระทบไปด้วย”

“กรณีนี้ก็อาจจะขอให้เป็นกรณีศึกษา ซึ่งในครั้งต่อๆ ไป ก็คงต้องมีกฎ กติกา ในการเป็นตัวแทนทีมชาติร่วมกันว่า หากใครที่เป็นตัวแทนแล้ว ไปสร้างความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียงให้กับประเทศชาติและภาพรวมของวงการกีฬาไทย ก็ต้องมีบทลงโทษที่ชัดเจน”

ทั้งนี้ จากเหตุดังกล่าว สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ สั่งลงโทษผู้เกี่ยวข้อง นายประสบโชค โชคเหมาะ ผู้ฝึกสอนผู้รักษาประตู, นายมายีด หมัดอะด้ำ เจ้าหน้าที่ทีม, นายภัทราวุธ วงษ์ศรีเผือก เจ้าหน้าที่ทีม ห้ามยุ่งเกี่ยวทีมชาติ 1 ปี ส่วน 2 นักเตะ ที่เกี่ยวข้อง สภณวิชญ์ รักญาติ และ ธีรภักดิ์ เปรื่องนา แบนคนละ 6 เดือน.