คลื่นความร้อนลุ 45 องศาถล่มเม็กซิโกคร่าชีวิตประชาชนแล้วกว่า 100 ศพ แนวโน้มอุณหภูมิพุ่งขึ้นอีก


กระทรวงสาธารณสุขเม็กซิโก เปิดเผยว่า คลื่นความร้อนทะลุ 45 องศาเซเซียส ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 112 คนในเม็กซิโก ซึ่งเป็นผลมาจาก "อุณหภูมิที่ร้อนจัดตามธรรมชาติ" ตั้งแต่เดือนมีนาคม
พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดคือรัฐนวยโวเลออน โดยมีผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันแล้ว 64 ศพ และผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่กว่า 73 เปอร์เซ็นต์ เป็นกลุ่มผู้สูงอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป นอกจากนั้นยังมีรายงานผู้เสียชีวิตหลายสิบรายในรัฐตาเมาลีปัส เวราครูซ ตาบาสโก โออาซากา กินตานาโร โซโนรา และกัมเปเช รายงานระบุด้วยว่า ในช่วงเวลาเดียวกันประชาชนอย่างน้อย 1,559 คน ต้องเข้ารับการรักษาทางการแพทย์จากสภาพอากาศที่ร้อนจัด
ทั้งนี้ ในช่วงสิบวันที่ผ่านมา อุณหภูมิของเม็กซิโกทำลายสถิติในหลายพื้นที่ โดยในบางพื้นที่อากาศร้อนทำลายสถิติรายเดือน หรือทำลายสถิติตลอดกาล โดยอุณหภูมิพุ่งสูงถึง 45 องศาเซลเซียสในหลายพื้นที่ โดยในสัปดาห์นี้มีการบันทึกอุณหภูมิสูงสุดที่ 49 องศาเซลเซียส ที่เมืองอาคอนชี รัฐโซโนรา ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ
กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยอีกว่า ในช่วงระหว่างวันที่ 12-25 มิถุนายน มีรายงานเหตุฉุกเฉินเกี่ยวกับสภาพอากาศกว่า 1,000 ครั้ง และมีผู้เสียชีวิตเกิดขึ้น 104 ราย เจ้าหน้าที่ยังรายงานผู้เสียชีวิต 8 ราย ระหว่างวันที่ 14 เมษายนถึง 31 พฤษภาคม ทำให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับอากาศร้อนจัดอยู่ที่ 112 ราย กระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า สาเหตุหลักของการเสียชีวิตคือโรคลมแดด หรือฮีตสโตรก และตามมาด้วยอาการขาดน้ำ