หนุ่มวัย 37 ฝืนสังขารขับสิบล้อวูบหลับใน พุ่งตกสะพาน หัวทิ่มรางรถไฟ เจ็บสาหัส 2

ฉะเชิงเทรา-หนุ่ม 37 กลัวส่งของไม่ทัน ฝืนขับสิบล้อกลางดึก เกิดวูบหลับใน พุ่งตกสะพานข้ามแยกต่างระดับ-รถหัวทิ่มทับรางรถไฟ เด็กรถ 2 คน เจ็บสาหัส ส่วนหนุ่มโชเฟอร์โชคดีไม่ได้รับบาดเจ็บ 

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเมื่อเวลา 03.40 น. วันที่ 20 มิ.ย.66 เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกสิบล้อตกสะพานต่างระดับ หน้า รพ.เกษมราษฏร์ ขาเข้าตัวเมืองฉะเชิงเทรา ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา มีผู้บาดเจ็บ 2 ราย จึงเดินทางไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกสิบล้อ ยี่ห้อฮีโน่สีขาว ทะเบียนสมุทรสาคร พลัดตกลงมาจากสะพานต่างระดับ ช่วงหัวรถพังเสียหายทับรางรถไฟคู่ใน ส่วนช่วงท้ายรถเกี่ยวกับขอบปูนสะพานต่างระดับข้ามแยก มีแกนกระดาษที่บรรทุกมาหล่นกระจายเต็มพื้น โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่กู้ชีพ รพ.เกษมราษฏ์ ได้มาช่วยเหลือเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บแล้ว ทราบชื่อคือ นายภูวณัฐ ชั่งดวงจิตร์ อายุ 23 ปี และนายเฉลิมเกียรติ บัวเพชร อายุ 22 ปี อาการค่อนข้างสาหัส เจ้าหน้าที่จึงรีบนำตัวส่ง รพ.ส่วนรถสิบล้อ มี นายสุรศักดิ์ ศรีเอี่ยมออง อายุ 37 ปี เป็นคนขับ ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่และคนงานที่ตามมาจากจังหวัดสมุทรสาคร ได้ช่วยกันเคลียร์แกนกระดาษ เพื่อรอรถยกมาทำการเคลื่อนย้ายรถสิบล้อออกจากรางรถไฟ

จากการสอบสวน นายสุรศักดิ์ คนขับรถสิบล้อ ให้การว่า ตนขับรถสิบล้อบรรทุกแกนกระดาษมาจากโรงงานใน จ.กาญจนบุรี กำลังนำไปส่งที่ จ.ปราจีนบุรี ระหว่างทางเกิดอาการง่วงแต่กลัวไปส่งสินค้าไม่ทัน จึงฝืนขับรถมาเรื่อยๆ จนมาถึงที่เกิดเหตุเป็นสะพานต่างระดับข้ามแยก ขณะนั้นเกิดอาการวูบหลับใน พอตั้งสติได้ลืมตาขึ้นมาก็พบทางแยกซ้ายและทางตรง แต่ตอนนั้นรถกำลังพุ่งตกลงช่วงกลางระหว่างแยกเป็นเวลาที่เร็วมาก ตนทำอะไรไม่ทัน พอรถตกลงมาแล้วจึงตั้งสติได้ ก็ควานหาตัวน้องๆเด็กรถ 2 คนที่นั่งมา พบว่าบาดเจ็บสาหัส จึงรีบขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่นำส่งรักษา รพ.ที่อยู่ใกล้ๆ

ด้าน นายธนพล พูณเพิ่ม เจ้าหน้าที่รถไฟประจำสถานีชุมทางฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า ตอนนี้ได้แจ้งรถทุกเที่ยวทุกขบวนแล้ว ทั้งขาเข้าขาออกว่าชุมทางฉะเชิงเทรา ให้ใช้รางเลี่ยงคู่นอกแทนรางเดิมคู่ใน เนื่องจากรางเดิมที่รถไฟใช้วิ่งเพื่อเข้าชานชราสถานีชุมทางฉะเชิงเทรานั้น ถูกรถสิบล้อทับอยู่ยังไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่ยกรถสิบล้อออกไปแล้ว จะตรวจสอบรางรถไฟอย่างละเอียดอีกครั้งว่าได้รับความเสียหายหรือไม่ หากไม่ได้รับความเสียหายก็จะเปิดทางให้รถไฟวิ่งตามปกติ ทั้งขบวนสินค้าและขบวนโดยสาร