ตร.เร่งล่าคนร้ายจ่อยิงโหดเฒ่าเจ้าของสวนผลไม้ภูเก็ต คาดปมขัดแย้งที่ดิน

ตร.เร่งล่าคนร้ายจ่อยิงโหดเฒ่าเจ้าของสวนผลไม้ภูเก็ต คาดปมขัดแย้งที่ดิน





ad1

ภูเก็ต-คนร้ายจ่อยิงโหด เฒ่าเจ้าของสวนผลไม้สันเขื่อนบางวาด ภูเก็ต ก่อนนำศพทิ้งเหว ตำรวจคาดปมสังหารเรื่องความขัดแย้งที่ดิน จึงส่งชุดสืบลงพื้นที่เพื่อเร่งสอบสวนหาสาเหตุเพื่อดำเนินคดีต่อไป

ร.ต.อ.ออมสิน แพงพิมโล รอง สว.สอบสวน สภ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งเมื่อเวลา 01.45 น. วันที่ 17 มิ.ย. 66  จากชาวบ้านว่าพบศพคนถูกยิงตายภายในป่าบริเวณสันเขื่อนบางวาด หลังสนามกอล์ฟภูเก็ตคันทรีคลับ ต.กะทู้ อ.กะทู้ จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.กิตติพงษ์ คล้ายแก้ว รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต รักษาการ ผกก.สภ.กะทู้ นำกำลังชุดสืบสวน-พฐ. และมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตรุดไปตรวจสอบ 

ที่เกิดเหตุเป็นป่ารกลึกลงไปจากถนนลูกรังราว 50 เมตร พบศพชายสูงอายุสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีฟ้า นุ่งกางเกงขาสั้นสีครีม นอนคว่ำหน้าจมกองเลือดอยู่ในป่าหญ้า สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่บริเวณกกหูขวา 1 นัด ตรวจสอบภายในตัวไม่พบหลักฐานว่าผู้ตายเป็นใครและมาจากที่ใด บริเวณพื้นลูกรังพบกองเลือด คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3-5 ชม. จึงนำศพส่งชันสูตรที่ รพ.วชิระภูเก็ตเพื่อหาสาเหตุการตายที่แน่ชัด

จากการสอบสวนเบื้องต้นคาดว่าผู้ตายคือ นายสวัสดิ์ หัวหิน อายุ 72 ปี ภูมิลำเนาเดิมเป็นคน จ.ตรัง เป็นเจ้าของสวนผลไม้และสวนยางพารานับสิบไร่ ห่างจากจุดพบศพไม่มากนัก ก่อนเกิดเหตุ นายสวัสดิ์ ได้ออกไปหากุ้งตามหนองน้ำบริเวณโดยรอบเขื่อน เพื่อนำมาทำอาหารสัตว์ ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ นายสวัสดิ์ มักจะออกไปหากุ้งกลางดึกอยู่เป็นประจำ โดยที่ นายสวัสดิ์ จะพักอาศัยอยู่บนขนำในสวนผลไม้ดังกล่าว ก่อนพบศพ ภรรยาของนายสวัสดิ์ยังโทรคุยกับผู้ตายอยู่ จากนั้นก็ติดต่อไม่ได้ ญาติๆ และเพื่อนๆ จึงออกเดินค้นหาบริเวณโดยรอบ จนกระทั่งพบ นายสวัสดิ์ ถูกยิงตายอยู่ในป่าด้านล่างถนนลูกรัง 

เบื้องต้นคาดว่าคนร้ายอาจมาเจอ นายสวัสดิ์ กำลังเดินเท้าออกมาหากุ้ง ซึ่งคนร้ายอาจรู้ว่า นายสวัสดิ์ จะออกมาหากุ้งในช่วงเวลาดังกล่าว จึงมาดักรอเพื่อก่อเหตุ โดยลงมือจ่อยิงจากด้านหลัง หรือระยะประชิดตัว ขณะที่เดินอยู่บนถนนลูกรัง โดยพบกองเลือดบนพื้นลูกรัง จากนั้นคนร้ายอาจนำร่าง นายสวัสดิ์ กลิ้งลงไปในเหว หรืออาจถูกยิงบนถนนลูกรังแล้วกลิ้งตกลงไปในเหวข้างทาง จากนั้นคนร้ายได้หลบหนีไป 

อย่างไรก็ตามคนร้ายที่ก่อเหตุนั้น นายสวัสดิ์ อาจรู้จัก และอาจมีการยืนพูดคุยกันบนถนนลูกรังก่อนที่คนร้ายจะก่อเหตุดังกล่าว ส่วนสาเหตุเบื้องต้นคาดว่าอาจมาจากปมขัดแย้ง หรือข้อพิพาทเรื่องที่ดินที่ นายสวัสดิ์ ครอบครองอยู่ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้ง พร้อมกับติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.