คนไทยทำงานร้านต้มยำกุ้งมาเลย์เดินทางกลับบ้านร่วมถือศีลอดในเดือนรอมฎอนกับครอบครัว
ยะลา -แรงงานไทยร้านต้มยำกุ้ง และแรงงานภาคการเกษตร จากรัฐต่าง ๆ ในประเทศมาเลเซีย เริ่มเดินทางกลับเพื่อร่วมถือศีลอดในเดือนรอมฎอนกับครอบครัว ด้านเจ้าหน้าที่ความมั่นคงในพื้นที่อ.เบตง จ.ยะลา เพิ่มความเข้มป้องกันการก่อเหตุความไม่สงบ พร้อมอำนวยความสะดวกให้พี่น้องชาวมุสลิมได้ประกอบศาสนกิจตลอดห้วงเดือนรอมฎอน ได้อย่างปลอดภัย
บรรยากาศที่ด่านพรมแดน อำเภอเบตง จังหวัดยะลา มีแรงงานชาวไทยมุสลิมในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ที่ไปทำงานอยู่ตามร้านอาหาร และภาคการเกษตรตามรัฐต่าง ๆ ในประเทศมาเลเซีย ได้เริ่มเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อกลับมาร่วมถือศีลอดที่บ้านเกิดในเดือนรอมฎอน ซึ่งเดือนแห่งการถือศีลอดของชาวมุสลิมทั่วโลก หลังสำนักจุฬาราชมนตรี ประกาศดูดวงจันทร์ กำหนดเดือน รอมฎอน ฮ.ศ. 1444 ในช่วงเย็นวันนี้ เวลาหลังดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าหากในวันและเวลาดังกล่าว มีผู้เห็นดวงจันทร์โปรดแจ้งไปยังสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดเพื่อคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดจะได้ตรวจสอบและรายงานผลการดูดวงจันทร์ดังกล่าวมายังจุฬาราชมนตรีเพื่อออกประกาศแจ้งให้พี่น้องมุสลิมได้ทราบโดยทั่วกันต่อไป ซึ่งนอกจากจะเป็นการกำหนดวันเข้าสู่เดือนรอมฎอนแล้วยังเป็นการกำหนดวันเริ่มต้นของการถือศีลอด ของชาวมุสลิมอีกด้วย
นายอนันต์ หะมะ แรงงานไทยในประเทศมาเลเซีย กล่าวว่า ตนได้ทำงานร้านต้มยำกุ้งในมาเลเซีย นายจ้างที่เป็นชาวมาเลเซียได้ปิดร้าน 2 อาทิตย์ และอนุญาตให้กลุ่มผู้ใช้แรงงานที่อยู่ต่างพื้นที่ ได้มีโอกาสกลับบ้านเพื่อประกอบศาสนกิจ ร่วมถือศีลอดในเดือนรอมฎอนกับครอบครัวยังภูมิลำเนาของตนเอง จากนั้นค่อยกลับไปทำงานต่อ เพื่อจำหน่ายอาหารในช่วง 10 วันสุดท้ายเดือนรอมฎอน เพราะช่วงดังกล่าวชาวมาเลเซียจะนิยมละศิลอด หรือทานข้าวนอกบ้านตามร้านอาหารร่วมกับครอบครัวและญาติพี่น้อง จากนั้นร้านก็จะหยุดอีกครั้งในช่วงเทศกาลฮารีรายอ
ด้านเจ้าหน้าที่ความมั่นคงในพื้นที่ ยังคงเพิ่มความเข้มงวด ตรวจสอบบุคคล ยานพาหนะ ต้องสงสัย เป้าหมาย สิ่งของต้องสงสัย เพื่อป้องกันคนร้ายแฝงตัวเข้ามาก่อเหตุสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ รวมทั้ง เพิ่มความระมัดระวัง ในการปฎิบัติภารกิจหน้าที่ ในช่วงเดือนรอมฎอนของพี่น้องชาวไทยมุสลิม ซึ่งเน้นการอำนวยความสะดวกให้พี่น้องชาวมุสลิมได้ประกอบศาสนกิจ ตลอดห้วงเดือนรอมฎอน ได้อย่างปลอดภัย
โดย...เจษฎา สิริโยทัย อ.เบตง จ.ยะลา
