จีนเปิดม่านประชุมสภาประจำปี ตั้งเป้าเติบโตต่ำสุดรอบ 25 ปี-เพิ่มงบกองทัพอีก 7.2%

จีนเปิดฉากการประชุมสภาประชาชนประจำปี ประกาศเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ราว 5% ซึ่งต่ำที่สุดในรอบ 25 ปี ขณะที่เพิ่มงบประมาณกองทัพขึ้นอีก

สำนักข่าวซีเอ็นเอ รายงานว่า จีนเปิดฉากการประชุมประจำปีของรัฐสภาประชาชนแห่งชาติ (NPC) อย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวันอาทิตย์ที่ 5 มี.ค. 2566 ซึ่งจะดำเนินไปเป็นเวลา 9 วันแล้ว โดยรายงานเปิดการประชุมระบุว่า รัฐบาลจีนตั้งเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจของปี 2566 เอาไว้ที่ราว 5% ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดในรอบกว่า 25 ปี

การตั้งเป้าหมายต่ำของรัฐบาลจีนเกิดขึ้นหลังจาก เศรษฐกิจของแดนมังกรเติบโตเพียง 3% เมื่อปีก่อน พลาดเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ 5.5% เพราะได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมโควิด-19 อย่างเข้มงวด รวมทั้งวิกฤติอสังหาริมทรัพย์

ในรายงานการปฏิบัติงานของนายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อเฉียง ซึ่งกำลังจะหมดวาระการดำรงตำแหน่ง เน้นย้ำความจำเป็นของเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการขยายการบริโภค โดยตั้งเป้าหมายว่าจะเพิ่มการจ้างงานในเมืองราว 12 ล้านตำแหน่งในปีนี้ เพิ่มจากปีก่อนที่ตั้งเป้าไว้ที่ 11 ล้านตำแหน่ง นอกจากนั้นยังกำหนดเป้าขาดดุลงบประมาณไว้ที่ 3% ของจีดีพีด้วย

ขณะเดียวกัน รายงานของนายหลี่ระบุอีกว่า การใช้จ่ายด้านกลาโหมของประเทศจะเพิ่มขึ้นอีก 7.2% เป็น 1.55 ล้านล้านหยวน หรือราว 7.76 ล้านล้านบาท (2.55 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) สูงกว่าปีก่อนที่เพิ่มขึ้น 7.1% โดยกองทัพจะเพิ่มการฝึกฝนการต่อสู้ภายใต้สถานการณ์ต่างๆ และเพิ่มการเตรียมความพร้อมเพื่อการต่อสู้ในทุกด้าน

ทั้งนี้ จีนกำลังเผชิญความท้าทายหลายอย่างรวมถึงความตึงเครียดกับสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น โดยแดนมังกรเป็นประเทศที่ทุ่มงบประมาณแก่กองทัพสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก แต่ยังเทียบไม่ได้กับอันดับ 1 อย่างสหรัฐฯ ที่จัดงบกองทัพในปีนี้ไว้มากกว่า 8 แสนล้านดอลลาร์ (ราว 27.6 ล้านล้านบาท)

จีนยังมีภาพรวมด้านจำนวนประชาชนที่ย่ำแย่จากอัตราการเกิดที่ลดลง และมีประชากรลดลงในปี 2565 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดภาวะอดอยากครั้งใหญ่ในปี 2504 โดยนายหลี่ระบุว่า รัฐบาลมีแผนจะลดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการคลอดทารก, การดูแลเด็ก กับการศึกษาลง และจะมีการตอบสนองเชิงรุกต่อปัญหาประชากรสูงอายุ และการลดลงของอัตราการเกิด