ธ.ก.ส. นำร่องช่วยกาแฟดอยช้าง ขยายเวลาชำระหนี้ 20 ปี เพิ่มศักยภาพประกอบอาชีพ

ธ.ก.ส. นำร่องช่วยกาแฟดอยช้าง ขยายเวลาชำระหนี้ 20 ปี เพิ่มศักยภาพประกอบอาชีพ





ad1

นายปณชัย พิสัยเลิศ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกาแฟดอยช้าง เผยว่า วิสาหกิจชุมชนฯ เป็นกลุ่มสมาชิกชนเผ่าอาข่าและลีซูกว่า 1,500 ครัวเรือน ร่วมกันผลิตกาแฟสายพันธุ์อาราบิก้าบนพื้นที่กว่า 24,500 ไร่ มีการพัฒนากระบวนการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำสู่ปลายน้ำ ทั้งการปลูก การรวบรวมแปรรูป สู่การตลาด และได้รับการ รับรองการขึ้นทะเบียน สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ของสหภาพยุโรป มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศว่าเป็นกาแฟชนิดพิเศษคุณภาพสูงที่ช่วย เสริมสร้างรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีแก่สมาชิกมากว่า 20 ปี

“แต่ช่วงที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และวิกฤติเศรษฐกิจ ไม่สามารถส่งออกกาแฟไปยังประเทศคู่ค้า รวมถึงร้านกาแฟดอยช้างไม่สามารถเปิดให้บริการ เนื่องจากมาตรการป้องกันของรัฐบาลและจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง ทำให้ขาดรายได้และส่งผลกระทบต่อการชำระหนี้”

จากปัญหาดังกล่าวธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้ร่วมกับชุมชนเข้าไปแก้ปัญหา โดยปรับปรุงแก้ไขในเรื่องของการขยายระยะเวลาในการชำระหนี้ของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน จากเดิมไม่สามารถที่จะผ่อนผันการชำระหนี้ได้ แต่ปัจจุบัน ธ.ก.ส.ได้ขยายโอกาส การชำระหนี้ระยะยาวเป็น 20 ปี ซึ่งมาตรการดังกล่าวช่วยให้สมาชิกในกลุ่มมีขวัญกำลังใจ และกลับมามีศักยภาพในการประกอบอาชีพ รองรับกับการฟื้นตัวทางด้านเศรษฐกิจ หลังการเปิดประเทศ ทั้งของไทยและทั่วโลก

“วันนี้ตลาดกาแฟเปลี่ยนไปในทางบวก ผมมองว่ากาแฟยังไงคนก็ต้องกิน คนรุ่นใหม่ดื่มกาแฟมากขึ้น แนวโน้มของกาแฟจึงเติบโตได้อีกเยอะ พอเปิดประเทศนักท่องเที่ยวก็ขึ้นมา จากเมื่อก่อนช่วงที่มีโควิดดอยช้างเงียบมาก พอวันนี้กลายเป็นว่าเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนมาก นักท่องเที่ยวขึ้นมา ใช้บริการโฮมสเตย์ มี อาหาร มีกาแฟรองรับ นักท่องเที่ยว การท่องเที่ยวทุกๆอย่างเริ่มกลับมาดีขึ้นจากเดิมประมาณ 20% ขอเพียงแค่โควิดอย่ากลับมาแค่นั้นเอง สำหรับปีนี้ตั้งเป้าขายกาแฟในประเทศเอาไว้ที่ 200-300 ตัน โดยจะดูแลในส่วนของร้านกาแฟที่เป็นแฟรนไชส์ของกาแฟดอยช้างและช่องทางออนไลน์ทั้งหมด เน้นดูแลภายในประเทศเป็นหลัก แล้วจึงค่อยปรับตัวไปตามความเหมาะสมเพื่อให้กาแฟดอยช้างอยู่รอดได้ต่อไป” นายปณชัย กล่าว.