ฝากขัง 6 ตำรวจ เรียกรับผลประโยชน์ กลุ่มนทท.ดาราสาวไต้หวัน

ฝากขัง 6 ตำรวจ เรียกรับผลประโยชน์ กลุ่มนทท.ดาราสาวไต้หวัน





ad1

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการกองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ยังอยู่ในขั้นตอนการสอบปากคำ หลังร้องขอพบทนายความตามสิทธิ

โดยเบื้องผู้ต้องหาได้ให้การปฏิเสธชั้นสอบสวน แต่รับสารภาพในชั้นสืบสวนสอบสวน ซึ่งทางตำรวจมีพยานหลักฐานมากเพียงพอมาสามารถดำเนินคดีกับ ผู้ต้องหา ทั้ง 6 คน วันนี้จึงมีการแจ้งข้อหาหนักโทษสูงสุดประหารชีวิต ได้แก่ ข้อหาแรกในฐานความผิด เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ใดผู้หนึ่ง หรือปฏิบัติ หรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 สองมาตรา 149 เป็นเจ้าพนักงานสอบสวนเรียกสินบน ซึ่งโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต 

พล.ต.ต.ธีรเดช พร้อมยืนยันว่ามีพยานหลักฐานเป็น กล้องวงจรปิดของภาคเอกชน ซึ่งเห็นเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุทั้งหมด สอดคล้องกับคำให้การของนักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ ประกอบกับผู้เสียหายสามารถชี้ตัวยืนยันตำรวจที่เรียกรับสินบน ที่อยู่ในเหตุการณ์ได้เพียงบางคน จึงเชื่อได้ว่า ตำรวจทั้ง 6 นายนี้ตั้งด่านหน้าสถานทูตจีน มีส่วนรู้เห็นและเรียกรับผลประโยชน์หรือเงิน 

อย่างไรก็หากหลังจากนี้พยานหรือผลการสืบสวนเกี่ยวโยงไปถึงใครอีกก็จะดำเนินการแจ้งขอหาทันทีโดยไม่ละเว้น ไม่ว่าจะเป็นตำรวจอีก 8 นาย ที่เกี่ยวข้อง หรือตำรวจที่เป็นระดับผู้บังคับบัญชา 

นอกจากนี้ช่วงบ่ายวันนี้จะคุมตัวตำรวจ 6 นาย ไปฝากขังที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ย่านตลิ่งชัน 

อย่างไรก็ในก่อนหน้านี้ที่มีกลุ่มตำรวจต้องถูกดำเนินคดี 7 นาย แต่ในนี้ในช่วงเกิดเหตุมีตำรวจ 1 นายได้ออกจากจุดตั้งด่านหน้าสถานทูตจีน เพื่อไประงับเหตุทะเลาะวิวาทภายในซอยรัชดาฯ 10 จึงไม่มีส่วนเกี่ยวในการรู้เห็น หรือรับเงินในครั้งนี้ แต่หากมีหลักฐานสาวไปถึงว่ามีส่วนเกี่ยวก็จะดำเนินการแจ้งข้อหาเช่นกัน

ทั้งจากการสอบสวนผู้ต้องหาส่วนตัวเชื่อว่าครั้งนี้ไม่ใช่เป็นการกระทำเป็นครั้งแรก แต่จะมีพฤติกรรมลักษณะนี้มาก่อนหรือไม่นั้นไม่สามารถตอบได้ แต่ยืนยันในคดีนี้เรามีหลักฐานที่สามารถดำเนินคดีได้

ทางด้านฝั่งทีมทนายของตำรวจทั้ง 6 นาย ยอมรับว่าความลูกความมีความเครียด และบางคนให้การปฏิเสธพร้อมบอกว่า ตอนนั้นตนไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ  ซึ่งทางลูกความให้การว่า เขาอยู่อีกฝั่งนึง ซึ่งเป็นฝั่งที่ไม่ได้ใกล้กับผู้เสียหาย แต่ว่าทางฝั่งของทนายตวามยังไม่เห็นพยานต่างๆ มีเพียงคำกล่าวอ้างเพียงเท่านั้น

การสอบข้างในเป็นการสอบแยก ซึ่งทั้งหมดจะโดนข้อหา ม.157 ฐานความผิด เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ใดผู้หนึ่ง หรือปฏิบัติ หรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และ ม.149 เป็นเจ้าพนักงานสอบสวนเรียกสินบน 

และได้มีการคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตั้งด่านในวันนั้นขึ้นรถ เพื่อนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง โดยทั้ง 6 คนไม่ได้ตอบคำถามใดๆกับสื่อ