มาขอนแก่นต้องชิม “ข้าวแต๋น สมุนไพร”ฝีมือกลุ่มแม่บ้านพระ เมนูอาหารทานเล่นรสเลิศ อิ่ม อร่อย ราคาย่อมเยาว์

มาขอนแก่นต้องชิม “ข้าวแต๋น สมุนไพร”ฝีมือกลุ่มแม่บ้านพระ เมนูอาหารทานเล่นรสเลิศ อิ่ม อร่อย ราคาย่อมเยาว์





ad1

หากใครแวะเวียนมาเมืองขอนแก่นต้องชิม “ข้าวแต๋น สมุนไพร” จากฝีมือกลุ่มแม่บ้านพระคือ แปรรูปข้าวเหนียวใหม่ให้เป็นเมนูอาหารทานเล่น อิ่ม อร่อย ในราคาไม่แพง และต้องสั่งจองล่วงหน้าเท่านั้น โดยที่ ศูนย์เรียนรู้ 19 พอเพียง ต.พระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น มีนายวินัย  ทองทัพ กำนัน ต.พระลับ และนายสุขสันต์ โยคุณ ผู้ใหญ่บ้านบ้านพระคือ ม.3 ต.พระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เป็นแกนนำกลุ่มสตรี บ.พระคือ ร่วมทำการฝึกการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากข้าวเหนียวและการทดลองจำหน่ายให้กับชุมชน ภายหลังจากที่กลุ่มสตรี บ.พระคือ ได้รวมตัวกันจัดตั้งขึ้นเพื่อแปรรูปข้าวเหนียวใหม่นาปี ฤดูกาลผลิ 2565/66 ให้กลายเป็นข้าวแต๋นสมุนไพร เพื่อต่อยอดผลผลิตทางการเกษตรให้กลายเป็นเมนูอาหารที่รับประทานได้ง่าย อิ่ม อร่อย และทานได้ทุกเพศทุกวัยในราคาไม่แพง โดยมีคนในชุมชน ต.พระลับ มาร่วมให้กำลังใจและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ชุมชนกันอย่างต่อเอง

นางอุบล ขนานเยี่ยม คณะกรรมการกลุ่มสตรี บ้านพระคือ ต.พระลับ กล่าวว่า กลุ่มฯได้รวมตัวกันและจัดตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของสตรีในชุมชน และได้กำหนดแนวทางในการพัฒนาและต่อยดอผลิตภัณฑ์ในชุมชนด้วยการชูข้าวใหม่ นาปี ที่ชุมชนทำการปลูกซึ่งคือข้าวเหนียว มาทำการต่อยอดด้วยการแปรรูป จึงได้ทำการเรียนการสอนในวิชีพกัลป์เทศบาลตำบลพระลับ และ กศน. จนได้ข้อสรุปในการร่วมกันทำข้าวแต๋นสมุนไพร เนื่องจากวัตถุดิบในการทำนั้นหาได้ในชุมชน และต้นทุนไม่สูงมากนักและพอที่จะสร้างรายได้ให้กับชุมชนได้บ้าง และที่สำคัญราคาจำหน่ายจะต้องไม่แพง

“ เมื่อได้ข้อสรุปในการแปรรูปข้าวเหนียวก็เข้าเรียนและวันนี้เข้าสู่การทำข้าวแต๋นสมุนไพรจำหน่ายในชุมชนและตามยอดการสั่งซื้อ ซึ่งข้าวแต๋นของ บ.พระคือนั้น จะมีทั้งแบบหวานและไม่หวาน โดยจะใช้ข้าวเหนียวใหม่ 1 กก. มาทำการมูลข้าวกับสูตรผสมเฉพาะของชุมชน ซึ่งประกอบด้วยน้ำแตงโม,งาดำ,เกลือและหัวกะทินิดหน่อย ซึ่งเมื่อมูลข้าวเหนียวเสร็จก็นำมาขึ้นรูปให้เป็นวงกลม จากนั้นนำมาตากแดดให้แห้งสนิท โดยเคล็ดลับของข้าวแต่นบ้านพระคือนั้น จะต้องตากแดดข้าวที่มูลแล้วให้แห้งสนิทและต้องใช้น้ำแตงโมในการมูลเท่านั้น เพราะจะต้องให้ข้าวที่ทอดนั้นพองตัว สวยงามน่ารับประทาน”

นางอุบล กล่าวต่ออีกว่า เมื่อตากแดดแล้วเสร็จก็เข้าสู่วิธีการทอด เคล็ดลับในการทอดก็ต้องไม่หวงน้ำมัน คือทอดเป็นทอดด้วยการใช้น้ำทันทอดให้ท่วมตัวข้าว โดยก่อนทอดนั้นให้ใช้ใบเตยสด ลงไปผ่านน้ำมันที่ร้อนจัดประมาณ 10 วินาทีเพื่อให้น้ำมันนั้นหอมใบเตยและมีสีน้ำทันทีใสสะอาด จากนั้นนำข้าวแต๋นลงไปทอด โดยทอดให้สุกและพองตัวแบบเต็มวง จากนั้นนำมาพัก ผึ่งลมให้สะเด็ดน้ำมัน ซึ่งหากลูกค้าที่ชื่นชอบข้าวแต๋นสมุนไพรแบบต้นตำหรับหรือไม่หวานก็จะทำการซื้อแบบดั้งเดิม จากเตาเพื่อรับประทานทันที แต่หากท่านใดชื่นชอบแบบหวานกลมกล่อม ก็จะทำการโรยด้วยน้ำตาล ซึ่งกลุ่มฯใช้น้ำตาลอ้อย มาเคี่ยวกับน้ำสะอาด โดยไม่ปรุงรสใดๆเพิ่มเติม เพื่อให้ลูกค้าได้อิ่มอร่อยกับรสชาติของน้ำตาลอ้อย ที่หอมหวาน กลมกล่อม ผสมผสานกับข้าวแต๋นทอดที่พอง กรุ๊บ กรอบ หอม หวานมัน เรียกได้ว่าเป็นเสน่ห์ของข้าวแต๋นสมุนไพรของคนพระลับ เลยทีเดียว

“ สำหรับราคาจำหน่ายนั้น ทางกลุ่มได้กำหนดราคาจำหน่ายที่ไม่แพง เพื่อให้ลูกค้าได้บริโภคข้าวแต๋น ในราคาที่ย่อมเยาว์ โดยกลุ่มได้กำหนดไว้ 2 ราคา คือ ชนิดแผ่นใหญ่ 5 แผ่น 20 บาท แผ่นเล็ก 4 แผ่น 10 บาท ซึ่งหลังจากที่มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ชุมชนด้วยการชูข้าวใหม่นาปีที่เพิ่งสิ้นสุดฤดูเก็บเกี่ยว ก็มีลูกค้าทยอยสั่งให้กลุ่มทำส่ง ทั้งนำไปใช้ในการทำโรงทาน นำไปถวายพระ นำไปแจกจ่ายให้กับเด็กๆในโรงเรียน หรือแม้กระทั่งนำไปเป็นของฝากของจังหวัด ก็มีติดต่อสั่งซื้อมาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ที่ชื่นชอบผลิตภัณฑ์ชุมชนและต้องการสนับสนุนชุมชนในการต่อยอดผลผลิตทางการเกษตร เพื่อให้เกิดรายได้เสริมให้กับกลุ่มแม่บ้าน สามารถที่จะสั่งจองล่วงหน้าได้ที่ นายสุขสันต์ โยคุณ ผู้ใหญ่บ้าน บ.พระคือ ม.3 ต.พระลับ ที่หมายเลขโทรศัพท์ 082-0968981”