ญาติหอบลูกรอเยี่ยม"นางมัสนา"ผู้ต้องสงสัยเอี่ยวคดีระเบิดเจ๊ะเห หน้าค่ายอิงคยุทธปัตตานีจนเย็นต้องผิดหวังเพราะอยู่รพ.นราธิวาส

ญาติหอบลูกรอเยี่ยม"นางมัสนา"ผู้ต้องสงสัยเอี่ยวคดีระเบิดเจ๊ะเห หน้าค่ายอิงคยุทธปัตตานีจนเย็นต้องผิดหวังเพราะอยู่รพ.นราธิวาส





ad1

วันนี้(7พย.65) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเมื่อวันที่30ตุลาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สนธิกำลังหลายคันรถยนต์กระบะปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายเพื่อบังคับใช้กฎหมายกับผู้ต้องหาคดีความมั่นคงในพื้นที่บ้านบือแนรายอ ต.รือเสาะ  อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส แต่ไม่พบเป้าหมายจึงควบคุมตัวนางสาวมัสนา จะจา อายุ 31 ปี ไปที่ สภ.รือเสาะ แทน ก่อนที่เจ้าหน้าที่ได้นำตัว นางสาว มัสนา จะจา ไปควบคุมตัวต่อที่ ฉก.46 เขาตันหยง ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส ในฐานะต้องสงสัยพัวพันคดีเหตุระเบิดในพื้นที่ ต.เจะเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส จากเคสคนร้ายลอบขว้างปาระเบิด กราดยิงโกดังจนได้รับความเสีบ เหตุเกิดเมื่อกลางเดือนตุลาคม2565ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้ลูกๆและญาติเป็นห่วงในความปลอดภัยและความเป็นธรรมจนกระทั่งล่าสุดของเช้าวันที่6พฤศาจิกายนวานนี้ญาติๆพร้อมด้วยลูกสาววัย 11 ขวบ และลูกชายวัย 4 ขวบของนางสาวมัสนา ต้องเดินทางมาเช้าตรู่ ที่กองทหารพรานที่ 46 ในวันที่ฝนตกพร่ำๆ และประมาณการเองว่าจะทันต่อการเดินทางไปค่ายอิงคยุทธิของนางสาวมัสนาด้วยความเป็นห่วง ลูกๆและญาติจึงได้นั่งรอในศาลาพบญาติบริเวณประตูเข้าออกค่ายอิงคยุทธฯตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่  แต่ต้องผิดหวัง ต้องรอเกอร์เพราะไม่สามารถเข้าพบ”แม่มาสนา”ได้

จนกระทั่งเมื่อเวลา16.00น.ของเย็นวานนี้ทางญาติต้องพาลูกๆมาสนา เดินทางกลับบ้าน หลังจากที่ไม่สามารถเจอนางสาวมัสนาได้ในวันนี้ ซึ่งรอมาตลอดทั้งวันตั้งแต่เช้า จากค่ายเขาตันหยงนราธิวาส ไปยังค่ายอิงคยุทธบริหาร ปัตตานี หลังจากที่เดินทางมาจากจังหวัดนราธิวาสเพื่อล่วงหน้ามาก่อน เพราะทางเจ้าหน้าที่ที่เขาตันเองหยงได้แจ้งญาติว่าอาจจะล่าช้าไม่สามารถระบุเวลาได้ เพราะต้องไปเคลียร์เอกสารและตรวจร่างกายก่อน ถ้าไปก็น่าจะช่วงบ่ายโมงถึงบ่ายสาม

ญาติๆได้เปิดเผยว่าหลังจากที่ญาติเดินทางมาถึงค่ายอิงคยุทธฯในเวลา 14.20 น. ได้สอบถามเจ้าหน้าที่หน้าป้อมยามว่านางสาวมัสนามาถึงหรือยัง ทางเจ้าหน้าที่ให้ญาติไปรอที่จุดรอพบญาติ และให้ญาติติดต่อเบอร์เจ้าหน้าที่ศูนย์ซักถามที่แปะอยู่หน้าเคาท์เตอร์เพื่อสอบถามว่ามีเคสนางสาวมัสนาอยู่ข้างในไหม เจ้าหน้าที่ปลายสายได้บอกว่ายังไม่ได้รับข้อมูลใหม่ว่าจะมีการนำส่งผู้ต้องสงสัย เลยแนะนำให้ติดต่อศูนย์ซักถาม หน่วยข่าวกรองทางทหารส่วนหน้า จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ขกท.สน.จชต.) ปลายสายได้สอบถามชื่อเคส และตอบกลับว่าไม่ทราบข้อมูลนี้เช่นกัน ทางญาติต้องติดต่อกองทหารพรานที่ 46 เขาตันหยง

ญาติได้ติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ที่ดูแลนางสาวมัสนา โทรไปหลายสาย รอบแรกตัดสาย ญาติจึงโทรไปอีกหลายครั้ง ปลายสายรับจึงถามไปว่าตอนนี้นางสาวมัสนาอยู่ไหนแล้ว ปลายสายไม่ได้ตอบว่าอยู่ไหน แต่ขึ้นเสียงว่าโทรมาถี่ๆคุยไม่รู้เรื่องหรือ บอกว่าต้องเตรียมเอกสาร ตรวจร่างกายเยอะ  ไม่สามารถบอกได้ว่าเวลาไหน ไม่ต้องรอแล้ว ค่อยไปวันอังคาร จากนั้นให้มัสนาคุย นางสาวมัสนาคุยด้วยน้ำเสียงตึงเครียดแจ้งแก่ญาติว่า "ไม่ต้องเยี่ยมแล้ว ยังอยู่ร.พ. ยังเคลียเอกสารไม่เสร็จ บอกญาติไม่ต้องมาแล้ว รอมาวันอังคาร เรื่องนี้กำลังจะเสร็จแล้ว เครียด ไม่ต้องไปฟังคนนอก เดี่ยวเรื่องยิ่งยุ่งยาก วุ่นวายอีก กลับๆ" หลังจากนั้นญาติถามเน้นว่าอยู่โรงพยาบาลไหน นางสาวมัสนาจึงตอบว่า นราธิวาส 

สิ่งที่ญาติๆเป็นห่วงที่สุด “จากคำบอกเล่าของญาติ จากเดิมเจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะพานางสาวมัสนาไปล้างคดีที่ค่ายอิงคยุทธฯ เพื่อให้บริสุทธิ์ จากนั้นได้แจ้งต่อว่า จะพานางสาวมัสนาไปสาธิตวิธีการพันพลาสเตอร์ โดยญาติเกิดความสงสัยว่า จะให้นางสาวมัสนาสาธิตวิธีการเพื่อเป็นแผนประกอบคำรับสารภาพหรือไม่ อย่างไร เพราะตอนนี้นางสาวมัสนายังคงยืนยันความบริสุทธิของตนเอง”

ด้านองค์กรผู้หญิงปาตานี (PERWANI) ขอเรียกร้องและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะปฏิบัติตามกฎหมาย โดยคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชนและเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ต่อผู้ถูกควบคุมตัวและปล่อยตัวโดยเร็วหากไม่มีความเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด

- มาตรา 29 วรรคสอง แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2550 "ในคดีอาญา ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่มีความผิด และก่อนมีคำพิพากษายันถึงที่สุดแสดงว่าบุคคลใดได้กระทำความผิด จะปฏิบัติต่อบุคคลนั้นเสมือนเป็นผู้กระทำความผิดมิได้"

- อนุสัญญาว่าด้วยการจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ "ข้อ 2(ง) รัฐจะต้องงดเว้นจากการเข้าไปพัวพันในการกระทำ หรือการปฏิบัติเกี่ยวกับการเลือกปฏิบัติต่อสตรีและรับประกันว่าเจ้าหน้าที่และสถาบันของรัฐจะปฏิบัติโดยสอดคล้องกับข้อผูกพันนี้"