"รองต่อ สันธนะ" แฉแก๊ง "เก้า กะเทย" โกงเงินบ่อน 10 ล้าน กุเรื่องอุ้มถุงคลุมหัว-ทำร้ายรีดเงิน

"รองต่อ สันธนะ" แฉแก๊ง "เก้า กะเทย" โกงเงินบ่อน 10 ล้าน กุเรื่องอุ้มถุงคลุมหัว-ทำร้ายรีดเงิน





ad1

“สันธนะ” หอบหลักฐานมอบ ตร.สน.โคกคราม แฉแก๊งสาวสองตระเวนโกงเงินบ่อน 10 ล้าน กุเรื่องอุ้มถุงคลุมหัว-ทำร้ายรีดเงิน แจงออกมาเตือนสื่อไม่ให้เป็นตกเครื่องมือ ชี้เพจดังออกมาเปิดเผยเป็นเรื่องดี แต่ขอให้ทำเพื่อสังคมจริงๆ

เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2565 เวลา 12.00 น.:นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล นำหลักฐานเป็นรูปภาพและข้อความการพูดคุยผ่านแอพพลิเคชั่น มามอบให้พนักงานสอบสวน สน.โคกคราม ให้ตรวจสอบผู้เสียหายทั้ง 5 คน ที่เคยมาแจ้งความว่าถูกเจ้าของบ่อนอุ้มไปรีดเงิน 5 ล้าน 

นายสันธนะฯ เปิดเผยว่า ตนเองมีข้อมูลผู้เสียหายทั้ง 5 คน เป็นแก๊งที่ตระเวนไปเล่นการพนันตามบ่อนต่างๆ ในพื้นที่ กรุงเทพฯ และโกงเงินบ่อนการพนันด้วยวิธีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งในวันเกิดเหตุกลุ่มผู้เสียหายมาด้วยกัน 9 คน ถูกบ่อนจับได้ 7 คน อีก 2 คนหลบหนีไปไดั ทั้งหมดได้เงินจากการโกงพนันเสือมังกรรวม 5 วัน เป็นเงินกว่า 10 ล้านบาท

โดยพยานหลักฐานสำคัญคือ ข้อความในโทรศัพท์มือถือของหัวหน้าแก๊ง ซึ่งเป็นสาวประเภทสอง และอ้างตัวว่าทางบ่อนรีดเงินไปกว่า 2 ล้านบาท จึงจะนำหลักฐานเหล่านี้ไปมอบให้พนักงานสอบสวนเพื่อใช้ในการตรวจสอบแก๊งนี้ว่ามีพฤติกรรมดังกล่าวจริงหรือไม่ พร้อมยืนยันว่าจากข้อมูลที่ตนได้มาว่า ในวันเกิดเหตุไม่มีการใช้ถุงดำคลุมหัว และทำร้ายร่างกายตามที่ผู้เสียหายได้มาแจ้งความไว้ ส่วนที่ตนออกมาเปิดเผยข้อมูล ต้องการเตือน และให้ข้อมูลแก่สื่อมวลชน ไม่ให้หลงประเด็น ตลอดจนไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือของแก๊งนี้ ซึ่งมีสื่อบางสำนักเกี่ยวข้องในการเรียกรับผลประโยชน์จากเงินส่วนแบ่ง 1.8 ล้านบาทที่บ่อนยังค้างจ่ายให้แก๊งนี้

นายสันธนะฯ ยังพูดถึงเพจสายไหมต้องรอดด้วยว่า การที่เพจเหล่านี้ออกมาช่วยเหลือ หรือเปิดเผยข้อมูลก็เป็นเรื่องดี เพราะทำให้บ่อนการพนันในกรุงเทพฯ หมดไป แต่อยากให้ทำเพื่อสังคมจริงๆ และเตือนนักพนันว่าหลังจากนี้จะไม่มีบ่อนในกรุงเทพฯ แล้ว อย่าหลงเชื่อใครหากมีคนมาชักชวนไปเล่นการพนันตามห้องพัก หรือคอนโดมิเนียม ต่างๆ อย่างเด็ดขาด เพราะอาจถูกโกงจนหมดตัว

สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน