ประชดเมียจบที่คุก!ผัวแสบฉก ATM ภรรยากดเงินแสนซดเหล้าเมาขับโดนจับ

ประชดเมียจบที่คุก!ผัวแสบฉก ATM ภรรยากดเงินแสนซดเหล้าเมาขับโดนจับ





ad1

ปราจีนบุรี - ผัวคอตก ลักบัตรเอทีเอ็มเมียไปกดเงิน แค่ประชดแต่เมาขับ เมียติดต่อไม่ได้ ให้ตร.จับเข้าคุกจริง เผยไม่ได้ตั้งใจจะลักเงิน ล่าสุดคืนดีกันแล้ว

วันนี้ 8 ก.ค.2565 ร.ต.อ.สมชาย พฤษไพบูรณ์กิจ รองสว.(สอบสวน) สภ.ศรีมโหสถ คุมตัวนายไพศาล อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดปราจีนบุรี เลขที่142/2565 ลงวันที่ 7 ก.ค. 2565 ข้อหา เอาไปเสียซึ่งเอกสิทธิ์หรือบัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือ ATM ของผู้อื่น, ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ และลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ ไปชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก่อนส่งศาลฝากขังและดำเนินคดีตามกฎหมาย

หลังจากที่ก่อเหตุลักเอาบัตรเอทีเอ็มของภรรยา ไปกดเงิน 110,000 บาท และถูกภรรยาเข้าแจ้งความกับตำรวจ โดยวันเกิดเหตุ นายไพศาล กดเงินในเอทีเอ็มแล้ว ได้ดื่มเหล้าและขับขี่รถ จยย.ไปเรื่อยๆจนมาพบด่านสกัดของ สภ.กบินทร์บุรี ก่อนถูกจับกุมในข้อกล่าวหาเมาแล้วขับ จึงได้นำเงินส่วนหนึ่งประมาณ 4,000 บาทประกันตัวเองออกมา   ในขณะที่ทางภรรยาได้ไปแจ้งความที่ สภ.ศรีมโหสถ

ต่อมา ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.เกริกศิษฐ์ เนียมนัดฐ์ ผกก. สภ.ศรีมโหสถ พ.ต.ท.วารินทร์ อินทร์ไตรรัตน์ รองผกก.สส.ฯ และ ชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ต.อิทธิพล ใจเกษม สว.สส.ฯ พร้อม จนท.ตร.ชุดสืบสวน สภ.ศรีมโหสถ จ.ปราจีนบุรี ได้วางแนวทางติดตาม จับกุมตัวผู้ต้องหา ตามหมายจับ ศาลจังหวัดปราจีนบุรี ที่ 142/2565 ลงวันที่ 7 กรกฎาคม 2565 นายไพศาล สุดกระโทก อายุ 34 ปีดังกล่าว ในข้อหา เอาไปเสียซึ่งเอกสิทธิ์หรือบัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือ ATM ของผู้อื่นใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ที่ผู้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิ์ใช้เพื่อใช้เบิกเงินสด ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนและลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ ได้ของกลาง เงินสดจำนวน 105,220 บาท บัตรATM.จำนวน 2 ใบ กระเป๋าสตางค์ 1 ใบ รถจักรยานยนต์ 1 คัน และวันนี้ (8ก.ค.) ได้นำมาทำแผนเพื่อประกอบคำรับสารภาพดังกล่าว

โดยทางนายไพศาล สุดกระโทก อายุ 34 ปี ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยเหตุจูงใจนั้น เพียงแค่ต้องการให้ทางภรรยามาง้อตนเองหลังจากทั้งคู่มีการงอนกัน จึงลัก บัตรATM.จำนวน 2 ใบ กระเป๋าสตางค์ 1 ใบ แล้วกดเงินสดจำนวน 105,220 บาทไป ก่อนถูกจับเมาแล้วขับที่ สภ.กบินทร์บุรี แต่ในวันนั้น ติดต่อกับภรรยาไม่ได้ จนทางภรรยาเครียดจัด ถูกทางภรรยาแจ้งจับ

นายไพศาล ให้การว่า ตนกับทางภรรยา ทำงาน บริษัท อิเล็กทรอนิกส์ แห่งหนึ่งที่ อ.ศรีมโหสถ จ.ปราจีนบุรี อยู่กับภรรยามาเกือบ 3 ปี ทำงานอยู่ พนักงานบริษัทเดียวกัน เกิดความไม่เข้าใจกัน ฝ่ายภรรยางอน เลยอยากให้ภรรยาง้อ จึงลักบัตรเอทีเอ็มไปกดเงินก็ไม่ได้ใช้ กดเงินแล้วขับรถไปเรื่อยๆไปถึงหน้า สภ.กบินทร์บุรี เจอด่านตรวจ ที่หน้า สภ.กบินทร์บุรี

และโดนจับในข้อหาเมาแล้วขับ ถูกคุมขังที่สภ.กบินทร์บุรี วันที่ 6ก.ค.2565 จึงติดต่อกับภรรยาไม่ได้ เพราะโดนเก็บโทรศัพท์ ภรรยาโทรศัพท์เป็นร้อยสาย ติดต่อไม่ได้จึงแจ้งความ ตอนแรกแค่ลงบันทึกไว้เฉยๆ อยากเตือนภัยว่าผัวเมียกัน ก่อนที่จะคิดหรือทำอะไรให้รอบคอบก่อน ก็อยากขอโทษภรรยา เพราะแค่ต้องการให้ทางภรรยามาง้อตนเองหลังจากที่มีปากเสียงกัน จึงก่อเหตุดังกล่าว

ล่าสุด สภ.ศรีมโหสถ ได้แจ้งให้ทางภรรยามารับเงินคืนแล้วและยินดีคืนดีสามีที่กระทบกระทั่งกันก่อนหน้านี้ ส่วนทางคดีความเจ้าหน้าที่ได้ยืนฟ้องต่อศาลเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

ขณะที่ทาง ผจก.บริษัทฯกล่าวว่า ยินดีรับผู้ต้องหากลับเข้าทำงานเหมือนเดิม เพราะปกติ้ป็นคนดีรับผิดชอบงาน แต่เรื่องดังกล่านเป็นการกระทบกระทั่งแง่งอนของสามีภรรยา

มานิตย์   สนับบุญ-ข่าว/ณัฐนันท์ (ดาว)-ภาพ /ปราจีนบุรี