บิ๊กป้อม ลงพื้นที่รับมือน้ำท่วมสมุทรปราการ ด้านกรุงศรีวิไล ส.ส.สมุทรปราการ ก้มกราบเท้าขอโทษเหตุ เหตุโหวดไม่ไว้วางใจ

กรุง ศรีวิไล ก้มกราบบิ๊กป้อม

บิ๊กป้อม ลงพื้นที่รับมือน้ำท่วมสมุทรปราการ ด้านกรุงศรีวิไล ส.ส.สมุทรปราการ ก้มกราบเท้าขอโทษเหตุ เหตุโหวดไม่ไว้วางใจ





ad1

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 5 ก.ค. 65 พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.สมุทรปราการ โดยมี นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวต้อนรับและบรรยายสรุปภาพรวมของจังหวัด ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) นำเสนอแผนงานด้านทรัพยากรน้ำในพื้นที่ นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน นำเสนอแผนการระบายน้ำในพื้นที่ ตาม 13 มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 65 เพื่อรองรับสถานการณ์น้ำหลากลุ่มน้ำเจ้าพระยาและลุ่มน้ำบางปะกง นายชัยพจน์ จรูญพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการในฐานะประธานคณะทำงานแก้ไขปัญหาน้ำท่วมนิคมอุตสาหกรรมบางปูและพื้นที่โดยรอบ นำเสนอแผนงานการแก้ไขปัญหาและแนวทางการปฏิบัติ และนางสาวนันทิดา แก้วบัวสาย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ นำเสนอโครงการรักษ์คูคลองเฉลิมพระเกียรติ ณ ห้องประชุมเทศบาลตำบลบางเมือง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ 

หลังจากนั้น ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการขุดลอกคลองมหาวงษ์ ตามโครงการรักษ์คูคลองเฉลิมพระเกียรติ และตรวจอาคารสถานีสูบน้ำภายในนิคมอุตสาหกรรมบางปู พร้อมพบปะประชาชน ผู้ประกอบการและพนักงานในนิคมอุตสาหกรรมบางปู จ.สมุทรปราการ
​พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การลงพื้นที่ในวันนี้เพื่อติดตามความก้าวหน้าแผนงานและแนวทางการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ การดำเนินการโครงการรักษ์คูคลองเฉลิมพระเกียรติ และโครงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมนิคมอุตสาหกรรมบางปูและพื้นที่โดยรอบ โดยเฉพาะ 13 มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 65 ที่จังหวัดและทุกหน่วยงานได้จัดทำแผนปฏิบัติการระบายน้ำหลากในพื้นที่เสร็จเรียบร้อยแล้ว

และเพื่อให้การดำเนินการเกิดผลเป็นรูปธรรม จึงได้กำชับให้ สทนช. กรมชลประทาน การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และ จ.สมุทรปราการ ร่วมบูรณาการจัดทำแผนหลักแก้ไขปัญหาน้ำท่วมเพื่อป้องกันพื้นที่ของนิคมอุตสาหกรรมบางปูและพื้นที่โดยรอบ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อให้ผู้ประกอบการและประชาชนในพื้นที่เกิดความเชื่อมั่น รวมทั้งให้กรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งซ่อมแซมและบำรุงรักษาระบบระบายน้ำ อาคารบังคับน้ำ และสถานีสูบน้ำให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ส่วนการฟื้นฟูแหล่งน้ำและการแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำ ได้มอบให้ จ.สมุทรปราการ กระทรวงอุตสาหกรรม และองค์การจัดการน้ำเสีย เร่งดำเนินการแก้ปัญหาคุณภาพน้ำในแหล่งน้ำให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน และให้องค์การบริหารส่วนจังหวัด ขยายผลการดำเนินโครงการรักษ์คูคลองเฉลิมพระเกียรติไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำในระดับพื้นที่ด้วย



ส่วนบรรยากาศขณะ พล.อ.ประวิตร ลงจากรถ ก้าวขาลงจากรถ ขณะมารับฟังการรายงาน ที่เทศบาลตำบางเมือง ซึ่งเป็นจุดแรกการลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยมความคืบหน้าการขุดลอกคลองมหาวงษ์ นายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งมารอต้อนรับ ที่หน้าหอประชุมศาลาพักใจ หลังทั้งคู่เจอหน้ากัน นายกรุงศรีวิไล ได้นั้งลง พร้อมกับยกมือกราบเท้า พล.อ.ประวิตร ถามกล้างบรรยากาศหัวหน้าส่วนราชการที่มารอต้อนรับ หลังจาก พล.อ.ประวิตร รับไหว้ กล่าวกับ นายกรุงศรีวิไล บุว่า “เดี๋ยวลุกไม่ขึ้นก็เรามันแก่พอกัน”


ขณะที่ นายกรุงศรีวิไล เปิดใจว่า ต้องการให้ พล.อ.ประวิตร เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยแทน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา โดยให้เหตุผลว่า พล.อ.อนุพงษ์ เขียนโครงการอะไรไปก็ไม่ตอบรับไม่พิจารณางบประมาณ และ มท.1 ก็ไม่เคยดูแลอะไรเลย จนเป็นที่มาที่ 6 ส.ส. สมุทรปราการ ลงมติไม่ไว้วางใจเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา 

ส่วนทางด้าน พล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์ว่าถึงเรื่องกรณี ส.ส.สมุทรปราการ ลงมติลงมติไม่ไว้วางใจ ขะนี้ตนองไม่ได้ติดใจอะไร อาจจะเป็นเรื่องความน้อยเนื้อต่ำใจของเค้า ตนเองก็ไมรู้จะทำยังไง ขณะนี้ทั้งหมด ได้เข้ามาขอโทษแล้ว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะให้อภัยหรือไม่ พล.อ.ประวิท ตอบว่า ต้องนำเข้าคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อให้เป็นพิจารณา และต้องมีบทลงโทษอยู่แล้ว ส่วนกระแสที่เรื่องที่มีนักการเมืองบางคนไปรับเงินนั้นตนเองไม่รู้ ปปช.จะรับสอบเรื่องนี้ก็รับไปเลย เหมือนเรื่องนาฬิกาตนเอง เรื่อจริงจะเป็นยังไงก็ว่ากันไป ตนเองไม่กลัว 

ทางด้านนายอัครวัฒน์ อัศวเหม ส.ส.สมุทรปราการ กล่าวว่า หลังจากได้รับการเลือกตั้งมา เราเองเป็นเด็กดี อยู่ในโอวาทหัวหน้าพรรค และทำตามหัวน้าพรรคสั่งทุกอย่าง และไม่ได้เรียกร้องอะไร เราเองมาจากนักการเมืองท้องถิ่น รู้เรื่องปัญหาของพี่น้องประชาชนชาวสมุทรปราการ เราอยากเห็นสมุทรปราการพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น แต่ในคราวที่อภิปรายที่ผ่านมา ตนเองก็ตอบไม่ได้ เพราะมันมีเหตุผลบางอย่างของผู้ใหญ่ ซึ่งส่วนตัวตนเองก็ไม่สามารถเข้าไปก้าวล้วงความคิดของผู้ใหญ่ได้ ตนเองขอใช้คำนี้ดีกว่า