ทนายดัง พาเด็กสาว 15 ข้าพบอัยการชลบุรี หลังถูกพ่อแท้ๆ ใช้โอกาสแม่เผลอ ขืนใจลูกสาว

นายธีรพงษ์ พัฒนาชัยเจริญ ทนายความประจำสำนักงาน ทีมทนายเพจทนายอ้วน -ผอม ได้นำ น.ส.บี ( นามสมมติ ) อายุ 15 ปี ที่ถูกพ่อแท้ๆล่วงละเมิดทางเพศติดต่อกัน 44 วัน และมีการแจ้งความไว้กับทาง พ.ต.ต.ประเสริฐ กุลบุตรดี พนักงานสอบสวน สภ.พานทอง เข้ามาที่สำนักงานอัยการคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัดชลบุรี เพื่อทำการให้ทางพนักงานสอบสวนร่วมกับทางอัยการและสหวิชาชีพ ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเนื่องจากยังเป็นเยาวชนอยู่

นายธีรพงษ์ ทนายความ ได้เปิดเผยว่า ทางน้าของเด็ก ได้เข้าไปส่งข้อความไปขอความช่วยเหลือในเพจทนายอ้วน – ผอม ว่า หลานถูกพ่อแท้ๆ ข่มขืน จึงได้ยื่นมือรับอาสา มาเป็นทนายให้ และทราบว่า พ่อเริ่มกระทำชำเราวันแรก ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ จนถึงวันที่ 6 เมษายน 2565 กระทำชำเราต่อเนื่องเป็นเวลาทั้งหมด 44 วัน ยกเว้นวันอาทิตย์ เพราะแม่อยู่ ซึ่งพ่อจะอาศัยช่วงเวลาที่แม่ไปทำงานกะเช้า เวลา 06.00 น. พ่อจะเข้ามากระทำตอน 06.00-07.00 น. ก่อนเด็กไปโรงเรียน กระทำต่อเนื่องทุกวัน พอความแตก พ่อมักโทรมาต่อว่า และมาต่อว่าถึงบ้านน้า ว่าลูกเป็นตัวปัญหาทำครอบครัวเดือดร้อน ชอบสร้างปัญหา เกิดมาเป็นตัวปัญหา ทำให้เด็กสาวมีความเครียด จนต้องย้ายไปอยู่กับน้าสาวที่จังหวัดสมุทรปราการ

ก่อนหน้านั้นตั้งแต่เล็ก เด็กสาวไม่เคยอยู่กับพ่อและอยู่กับตายายที่จังหวัดอุบลราชธานีมาโดยตลอด จนอายุ 13 ปี ได้มาอยู่กับแม่กับพ่อ ที่ทำงานในโรงงานที่หวัดชลบุรี และเข้าเรียน ม.1 ในเขตอำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี อยู่ไม่นาน ก็ได้ถูกพ่อทำการลวนลาม โดยการจับหน้าอก แต่พอไปบอกแม่กลับบอกว่า ให้โอกาสพ่ออีกครั้ง หลังจากนั้นผ่านไปก็ไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้น จนมาถึงสถานการณ์โรคโควิดโรงเรียนปิด จึงกลับไปอยู่กับตายาย และกลับมาในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ก็มาถูกข่มขืน ซึ่งเด็กไม่กล้าที่จะบอกแม่ และไม่สามารถที่จะขอความช่วยเหลือใครได้ เพราะถูกผู้เป็นพ่อมีรหัสเฟซบุ๊กและไลน์ไว้เช็กว่ามีการบอกใครหรือไม่ อีกทั้งตอนกระทำชำเรามีการข่มขู่ว่าจะฆ่าน้าและคนที่หลานรู้จัก

ตอนนี้ขณะที่พ่อของเด็กได้พยายามติดต่อเจรจากับตนมาพร้อมพิมพ์ข้อความสารภาพว่า ได้กระทำชำเราลูกสาวแท้ๆ มายังแช็ต โดยใช้เฟซบุ๊กของลูกสาวคนเล็กส่งข้อความมา มีการพิมพ์ข้อความภาษาอีสานว่า “ข่อยขอโทษข่อยขอกราบละ ในสิ่งที่ข่อยผิดพลาด” และ “ข่อยยอมอีหลี ข่อยแต่งขันธ์ห้า ขอขมาเจ้าและทุกคน ข่อยสิเฮ็ดขอความเป็นพ่อลูก” เป็นต้น

น.ส.เอ ซึ่งเป็นน้าที่เดินทางมาร่วมรับฟังการสอบสวนด้วย กล่าวว่า อยากให้พ่อของเด็กเข้ามอบตัวเรื่องจะได้จบลงหลานจะได้เรียน ส่วนตนเองจะได้ไม่ต้องกังวลในเรื่องความปลอดภัยของตัวเอง แต่ในเรื่องนี้ยังไม่ได้มีการคุยกับแม่ของหลาน แต่ก็มีความมั่นใจว่าหลานพูดจริงว่าถูกพ่อละเมิดทางเพศ อีกทั้งอยากให้ตำรวจ ออกหมายจับโดยเร็ว

ขณะที่ทางผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ สภ.พานทอง ได้พบกับทาง พ.ต.อ.เอนก บุตรอินทร์ ผู้กำกับการ สภ.พานทอง ได้มีการประชุมร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เพื่อเร่งรัดคดี หลังจากเด็กสาวที่เป็นเยาวชน มีการให้การเพิ่มเติมต่ออัยการ พนักงานสอบสวนและสหวิชาชีพ ก่อนที่จะมีการวางแผนทำการจับกุมผู้เป็นพ่อของเด็กที่ถูกกล่าวหาข่มขืนลูกต่อไป.