ผกก.โจ้ ยอมรับ เอาถุงดำคลุมหัวจริง แต่ไม่ตั้งใจให้ตาย - พร้อมขอศาลขอความเป็นธรรม ชี้คลิปถูกตัดต่อ มีตร.ให้การเท็จ ขอศาลพิจารณา

อดีตผกก.โจ้ ชี้คลิปถูกตัดต่อ มีตร.ให้การเท็จ

ผกก.โจ้ ยอมรับ เอาถุงดำคลุมหัวจริง แต่ไม่ตั้งใจให้ตาย - พร้อมขอศาลขอความเป็นธรรม ชี้คลิปถูกตัดต่อ มีตร.ให้การเท็จ ขอศาลพิจารณา





ad1


วันที่ 19 มกราคม ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ศาลได้นัดตรวจพยานหลักฐาน และเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ได้เบิกตัวจำเลย มาศาลฯ ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อท.180/2564 ที่อัยการฝ่ายคดีอาญาทุจริต 3 เป็นโจทก์ฟ้อง พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ อดีต ผู้กำกับโจ้ (จำเลยที่ 1 )  และพวก รวม 7 คน กรณีที่ร่วมกันใช้ถุงดำคลุมศีรษะนายจิระพงษ์ หรือ มาวิน ธนะพัฒน์ ผู้ต้องหาคดียาเสพติดจนเสียชีวิต โดยจำเลยถูกฟ้องรวม 4 ข้อหา คือ เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ , เป็นเจ้าพนักงานของรัฐร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่ง หรือหน้าที่โดยมิชอบ  ,  ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมาน หรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย และร่วมกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปข่มขืนใจผู้อื่น โดยใช้กำลังประทุษร้าย 
.
คดีนี้ ศาลฯสอบคำให้การจำเลยไปเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2564 โดยครั้งนั้น  พ.ต.อ.ธิติสรรค์ แถลงต่อศาลฯ รับสารภาพทั้งหมด 3 ข้อหา คือ ความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ , เป็นเจ้าพนักงานของรัฐร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติฯ และรับสารภาพในข้อหา ร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปข่มขืนใจผู้อื่น แต่ปฏิเสธข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทารุณโหดร้าย โดยให้เหตุผลว่า ตัวเองและลูกน้องไม่มีเจตนาฆ่า เเค่ต้องการขยายผลเพื่อจับกุมยาเสพติด และยืนยันไม่มีเจตนากระทำการทุจริตใดๆต่อหน้าที่ หรือเรียกรับผลเงินจากผู้เสียชีวิต , ส่วนจำเลยที่เหลือให้การรับและปฏิเสธข้อหาแตกต่างกันไป อ้างว่าทำไปตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ไม่มีเจตนาประสงค์ต่อชีวิต
.
เมื่อถึงเวลานัด ศาล ได้สอบจำเลยทั้ง 7 คน เกี่ยวกับข้อเท็จจริงของสำนวนคดีเบื้องต้น โดยย้ำว่า ข้อเท็จจริงนี้ปรากฏในสำนวนการสอบสวนไม่ใช่การชี้ว่าใครถูกหรือผิด แต่กระบวนการนั้นจะอยู่ในการไต่สวนคดีนัดถัดไป
.

ซึ่งจำเลยทั้ง 7 คน รับว่า เป็นตำรวจ เจ้าหน้าที่รัฐ มีหน้าที่จับกุมผู้กระทำความผิดตามกฎหมาย โดยศาล ยังถามจำเลยทั้งหมดเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่ว่า ในวันที่ 4 สิงหาคม 2564 จำเลยทำหน้าที่ชุดตำรวจปราบปรามยาเสพติดและจับ ผู้เสียชีวิตและภรรยาพร้อมไอซ์ มาควบคุมตัวที่ห้องปฏิบัติการพิเศษยาเสพติด สถานีตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์ เพื่อสอบสวนขยายผลคดียาเสพติด
.
โดยปรากฏหลักฐานว่าจำเลยที่ 1 นำถุงพลาสติกสีดำหลายใบ มาคลุมศีรษะของผู้เสียชีวิตและมีจำเลยที่เหลืออยู่ร่วมในเหตุการณ์ ซึ่งในประเด็นนี้จำเลยที่ 1 แถลงยอมรับว่านำถุงพลาสติกหลายใบมาคลุมศีรษะจริง  แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้รัดแน่น หรือมีเจตนาให้เสียชีวิต 
.
ส่วนประเด็นคลิปและภาพจากกล้องวงจรปิด เหตุการณ์ทั้งหมด จำเลยที่ 1 แถลงต่อศาล ขอให้ศาลพิจารณาโดยอ้างว่ามีเหตุการณ์ช่วงที่พยายามช่วยชีวิตถูกตัดหายไป และมีตำรวจบางนายไม่ปรากฏในคลิปเหตุการณ์ที่อยู่ในสำนวนคดีชั้นศาล อีกทั้งมีคำให้การเท็จ ซึ่งในประเด็นนี้ ศาลรับว่าในชั้นไต่สวน สามารถนำพยานหลักฐานมายืนยันในชั้นต่อไปได้ โดยตลอดระยะเวลาที่ตรวจเอกสารหลักฐาน พ.ต.อ. ธิติสรรค์ มีสีหน้าเรียบเฉยและตั้งใจฟังอยู่ตลอดเวลา 
.
ต่อมา นายโชคชัย อ่างแก้ว ทนายความของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ เปิดเผยว่า ศาลได้นัดกำหนดสืบพยานทั้งหมด 23 ปาก คดีนี้มีนัดสืบพยานทั้งหมด 7 นัด มีนัดสืบพยานนัดแรก 19-20 กุมภาพันธ์ และ นัดสุดท้ายวันที่ 13 มีนารม ตอนนี้คดีอยู่ในกระบวนการพิจารณาของศาลแล้ว ตนก็ทำหน้าที่ในฐานะของทนายความ ระบบไต่สวน เป็นระบบที่ศาลแสวงหาข้อเท็จจริง อะไรที่ไม่พอ เดี๋ยวศาลท่านจะดูเอง