ประมงพื้นบ้านสงขลาขู่ระดมพลเข้ากรุงกดดันรัฐปล่อยแกนนำม็อบจะนะ37คน(มีคลิป)

สงขลา-ทัพเรือประมงพื้นบ้านคัดค้าน “โครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ”  เรียกร้องรัฐบาลยุติการดำเนินคดีกับกลุ่มแกนนำที่ถูกจับกุมทั้ง 37 คน และเตรียมระดมพลขึ้นไปสมทบที่กรุงเทพฯ เพื่อเตรียมฟังคำตอบจากรัฐบาล พร้อมขอให้ยุติการทำ EIA ในช่วงกลางเดือน ธ.ค. นี้ 

เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. 2564 ที่บริเวณชายหาดบ้านบ่อโชน หมู่ 7 ต.สะกอม อ.จะนะ จ.สงขลา ทางกลุ่มผู้คัดค้านโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ เครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น สมาคมรักษ์ทะเลจะนะ กลุ่มชาวประมงพื้นที่บ้าน และชาวบ้านในพื้นที่ 3 ตำบลของโครงการ ต.นาทับ ต.ตลิ่งชัน และ ต.สะกอม และองค์กรอิสระ ประมาณ 400 คน 

ได้รวมตัวกันแสดงเจตนารมณ์หยุดนิคมอุตสาหกรรมจะนะ และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ รวมทั้งประกาศจุดยืนหยุดเวลาเวทีรับฟังความคิดเห็น EIA ฉ้อฉลพร้อมกับการระดมเรือประมงพื้นบ้านในพื้นที่ 3 ตำบล หลายสิบลำเพื่อมาแสดงพลังในครั้งนี้ด้วย แต่ไม่สามารถเคลื่อนขบวนมายังชายทะเลฝั่งที่มีการรวมตัวกันได้ เนื่องจากมรสุมคลื่นลมแรง จึงต้องจอดลอยลำอยู่ในอ่าวอีกฟาก และมีการปราศรัยทั้งจากตัวแทนชาวบ้านและปราชญ์ชาวบ้านในพื้นที่ 

นายมังโสด หมะเต๊ะ ผู้บริหารของโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม อ.จะนะ จ.สงขลา กล่าวถึงถึงความไม่ชอบมาพากลของโครงการรวมทั้งแสดงความไม่เห็นด้วย และคัดค้านโครงการและจะมีการระดมผู้นำจากโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ อีกหลายแห่งที่ไม่เห็นด้วยเดินทางขึ้นไปสมทบกับกลุ่มแกนนำที่ปักหลักอยู่ที่กรุงเทพฯ ใน 1-2 วันนี้ เพื่อร่วมกันเรียกร้อง และฟังคำตอบที่ชัดเจนในเรื่องนี้จากทางฝั่งของรัฐบาล 

หลังจากนั้น ทางด้าน น.ส.สารีด๊ะ นิยมเดชา ได้มีการอ่านแถลงการณ์จากทัพเรือประมงพื้นบ้าน ณ ชายฝั่งทะเลจะนะ ถึงบริบทของพื้นที่รวมไปถึงวิถีชีวิตของคนชุมชนที่เป็นแหล่งทำประมงพื้นบ้านที่สำคัญของประเทศ  รัฐบาลกลับรวมหัวกันกับนายทุน เพื่อปล้นทรัพยากรจากชาวบ้านไปให้นายทุนทำอุตสาหกรรม ซึ่งแม้จะมีการรวมตัวเรียกร้องให้หยุดโครงการ และทำการประเมินสิ่งแวดล้อมเชิงยุทธศาสตร์ หรือ SEA ซึ่งรัฐบาลได้ตกลงแล้วแต่กลับไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง และยังเดินหน้าโครงการ 

โดยแถลงการณ์ได้มีการเสนอข้อเรียกร้องไปยังรัฐบาล 4 ข้อ  คือการขอทวงสัญญาจากรัฐบาลที่ตกลงเอาไว้เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2563 ว่ารัฐบาล จะจัดให้มีการประเมินผลเชิงยุทธศาสตร์การพัฒนาหรือ SEA แบบมีส่วนร่วม ที่จะมีคณะศึกษาอันเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายเพื่อให้รัฐบาลมีข้อมูลทางวิชาการที่ถูกต้องครบถ้วนและมาประกอบการตัดสินใจเกี่ยวกับโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ 

นอกจากนี้รัฐบาล ต้องสั่งให้ยุติการเดินหน้าโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ ไว้ก่อนตามข้อตกลง รวมถึงหยุดการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA ที่จะจัดขึ้นราวกลางเดือนธันวาคมนี้  ซึ่งขัดกับข้อตกลง และยังขัดต่อหลักสากล ด้วยการจัดรับฟังความเห็นไม่มีคณะกรรมการรับฟังความเห็นที่เป็นกลาง แต่จัดโดยผู้ศึกษาอีกทั้งยั้งจัดทางออนไลน์ ที่คนในชุมชนจำนวนมากเข้าร่วมไม่ได้  เพราะไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้ และหากรัฐบาลยังปล่อยให้มีการจัดรับฟังความเห็นต่อไป พวกตนขอประกาศไม่ยอมรับและถือว่าเป็นการกระทำที่ตระบัตสัตย์ของรัฐบาล 

อีกทั้งรัฐบาลต้องยุติการดำเนินคดีกับกลุ่มแกนนำผู้คัดค้าน 37 คน ซึ่งถูกจับกุมเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2564 ทั้งที่ชุมนุมโดยสงบ และมีเป้าหมายเพียงทวงคำตอบจากรัฐบาลที่ผิดคำสัญญา และสุดท้ายคือ ทางกลุ่มผู้คัดค้านและชาวบ้านในพื้นที่ จะไปทวงคำสัญญาอย่างเป็นทางการที่ทำเนียบรัฐบาลอีกครั้งในวันที่ 13 ธันวาคม 2564 และขอเชิญชวนทุกคนเข้าร่วมการต่อสู้ในครั้งนี้ด้วย 

น.ส.สารีด๊ะ นิยมเดชา ผู้อ่านแถลงการณ์ ระบุด้วยว่า การทำโครงการขนาดใหญ่จะต้องมีการประเมินสิ่งแวดล้อมเชิงยุทธศาสตร์ หรือ SEA แบบมีส่วนร่วม เพื่อให้เกิดการพัฒนาประเทศที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง ซึ่งขณะนี้ชัดเจนว่า นิคมอุตสาหกรรมจะนะ ไม่ใช่การพัฒนา แต่คือการอ้างคำว่า พัฒนเพื่อสร้างความชอบธรรมในการปล้นทรัพยากร และปล้นสิทธิชุมชน นำไปตอบสนองต่อนายทุน และนักการเมืองฉ้อฉลเท่านั้น.