‘ดาบตำรวจท่องเที่ยว’ ร้องเอาผิด เจ้าหน้าปกครองชุดจับกุม ปมกล่าวหาเก็บเงินส่วย ระบุ ข่มขืนใจ ทำเกินเหตุ และ ความผิดมาตรา 309 

‘ดาบตำรวจท่องเที่ยว’ ร้องเอาผิด เจ้าหน้าปกครองชุดจับกุม ปมกล่าวหาเก็บเงินส่วย

‘ดาบตำรวจท่องเที่ยว’ ร้องเอาผิด เจ้าหน้าปกครองชุดจับกุม ปมกล่าวหาเก็บเงินส่วย ระบุ ข่มขืนใจ ทำเกินเหตุ และ ความผิดมาตรา 309 





ad1


กรณี ด.ต.ภูวเมศฐ์ และ นายมานัส สองผู้ต้องหาที่ถูกชุดปฏิบัติการกรมการปกครอง จับกุม พร้อมของกลางเงินสด ที่เก็บจากผู้ประกอบการร้สนอาหารและสถานบันเทิง จำนวน 1 แสนบาท หลังจาก ทั้งสองคนได้รับการประกันตัวเมื่อคืนที่ผ่านมา
.
ล่าสุดวันนี้ 9 ก.ค.2565 ดาบตำรวจ ภูวเมศฐ์ เข้าพบ ร.ต.ท.ภคภณ ณ นคร รอง สว.สอบสวน สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ลงบันทึกประจำวัน โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2565 เวลาประมาณ 19.30 น. ขณะที่ตนกำลังขับรถยนต์โตโยต้าอัลติส สีขาว ทะเบียน 1 กท 1840 กรุงเทพมหานคร ออกจากห้างดีแคทลอน ได้ถูกนายรณรงค์ ทิพย์ศิริ เจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง พร้อมชุดจับกุม โดยทุกคนมีอาวุธปืนครบมือ ได้ข่มขืนใจให้ตนเกิดความตกใจกลัว และบังคับให้ออกจากรถ โดยที่ไม่แจ้งให้ทราบว่าตนกระทำผิดอะไร ข้อหาใด จนเป็นเหตุทำให้ได้รับบาดเจ็บและได้รับความเสียหาย
.
จากนี้จะพิจารณาข้อกฎหมาย โดยอาจจะมีการแจ้งความเพื่อให้ดำเนินคดีกับ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ พนักงานฝ่ายปกครองและชุดจับกุม ตามกฎหมายอาญา มาตรา 309 วรรคสอง ที่ระบุว่า “ถ้าความผิดตามวรรคแรกได้กระทำโดยมีอาวุธ หรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป หรือได้กระทำเพื่อให้ผู้ถูกข่มขืนใจทำ ถอน ทำให้เสียหาย หรือทำลายเอกสารสิทธิอย่างใด ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” , ข้อหาจับกุมไม่ชอบ และข้อหาปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบ หรือปรากฏว่าผิดกฎหมายใดตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ จนกว่าคดีจะถึงที่สุด
.
หลังลงบันทึกประจำวันแล้ว ด.ต.ภูวเมศฐ์ และนายมานัส ได้เดินทางกลับไปพร้อมญาติ